บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) TNP
คาดกำไร 2H68 เติบโตดีต่อเนื่อง
จากจำนวนสาขาใหม่และมาร์จิ้นที่ปรับดีขึ้น
คาดกำไร 2H68 เติบโตดีต่อเนื่อง
จากจำนวนสาขาใหม่และมาร์จิ้นที่ปรับดีขึ้น
งวด 2Q68 มีกำไร 50 ลบ. +20%YoY ทรงตัว QoQ และต่ำกว่าที่คาดเล็กน้อย 3%
คาดกำไร 2H68 เติบโตดี HoH และคงคาดการณ์กำไรทั้งปี 68 ที่ 216 ลบ. +16%YoY จากแผนขยายสาขาทั้งหมด 6 แห่งในปีนี้
คงคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินราคาเหมาะสม TNP ที่ 4.00 บาท
Investment Highlight
งวด 2Q68 มีกำไร 50 ลบ. +20%YoY ทรงตัว QoQ และต่ำกว่าที่คาดเล็กน้อย 3%
งวด 2Q68 รายงานกำไร 50 ลบ. +20%YoY ทรงตัว QoQ ต่ำกว่าที่คาดเล็กน้อย 3% โดยมีรายได้ 743 ลบ. +5%YoY +3%QoQ ปัจจัยการเติบโตหลักมาจากจำนวนสาขาใหม่ที่เพิ่มขึ้นสู่ 52 แห่ง (+6 แห่ง YoY +0 แห่ง QoQ) ขณะที่ SSSG ยังคงติดลบ 2% เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม SSSG ปรับดีขึ้นจาก 1Q68 ที่ติดลบ 3% ขณะที่ %GPM ปรับดีขึ้นสู่ 18.4% (2Q67 = 17.2%, 1Q68 = 18.6%) โดยดีขึ้น YoY จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิด Economies of Scale แต่ปรับลดลงเล็กน้อย QoQ จากปัจจัยฤดูกาลที่เข้าสู่ช่วงฤดูร้อน ทำให้ยอดขายกลุ่มเครื่องดื่มที่มีมาร์จิ้นน้อยกว่ามีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ 1H68 มีกำไร 101 ลบ. +16%YoY และคิดเป็น 47% ของประมาณการทั้งปี 68 ที่ 216 ลบ. +16%YoY
คาดกำไร 2H68 เติบโตดี HoH และคงคาดการณ์กำไรทั้งปี 68 ที่ 216 ลบ. +16%YoY จากแผนขยายสาขาทั้งหมด 6 แห่งในปีนี้
เราคงประมาณการรายได้และกำไรสุทธิปี 68 ที่ 3,058 ลบ. +6%YoY และ 216 ลบ. +16%YoY ตามลำดับ โดยคาด 2H68 มีโอกาสเติบโตดี HoH จากปัจจัยฤดูกาล และแผนขยายสาขาทั้งหมด 6 แห่งในปีนี้ โดยช่วง 1H68 เปิดไปแล้ว 1 แห่ง ส่วนสาขาอีก 5 แห่ง จะทยอยเปิดในช่วง 3Q68 จำนวน 2 แห่ง และ 4Q68 อีกจำนวน 3 แห่ง สู่ทั้งหมด 57 แห่ง ณ ปลายปี 68 ขณะที่ สมมติฐาน SSSG ทั้งปี เรายังคงคาดทรงตัวจากปีก่อน แม้ SSSG ช่วง 1H68 ติดลบ 3% แต่ช่วง 2H68 มีโอกาสพลิกเติบโตจากฐานต่ำ ส่วน %GPM คาดทรงตัวสูงที่ระดับ 18.5% จากปีก่อนที่ 17.6% จากผลของ Economies of Scale รวมถึงแผนการปรับ Product Mix ในการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง เช่น กลุ่มเครื่องสำอาง
คงคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินราคาเหมาะสม TNP ที่ 4.00 บาท
เราคงประเมินราคาเหมาะสม TNP ที่ 4.00 บาท โดยอิง Prospective P/E Ratio ที่ 15x ซึ่งเป็นระดับ -1SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี และคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 68 ที่ราว 0.27 บาทต่อหุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปี 68 ที่ 4.00 บาท ซึ่งมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบันราว 40% และจ่ายปันผลในอัตรา 4-5% ต่อปี เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ปัจจัยเสี่ยง
i) แนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในอุตสาหกรรมค้าปลีก
ii) แผนการขยายสาขาไม่เป็นไปตามเป้า
iii) การเติบโตของยอดขายสาขาเดิมเริ่มชะลอลง
iv) ภาครัฐหยุดกระตุ้นเศรษฐกิจ
v) ภาครัฐปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ
Analyst:Salakbun Wongakaradeth,CISA
02-687-7287
Salakbun@globlex.co.th