สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (26 สิงหาคม 2568 )-----บริษัท ไซเบอร์จีนิคส์ จำกัด ผู้นำด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในเครือจีเอเบิล จัดงาน CyberGenics Summit 2025 ภายใต้ธีม "Trust Today, Securing Tomorrow" เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรม Grande Centre Point ลุมพินี โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ผู้นำอุตสาหกรรม และหน่วยงานกำกับจากหลากหลายภาคส่วนร่วมเวที เพื่อหารือทิศทางการพัฒนา "ภูมิคุ้มกันดิจิทัล" ของประเทศในยุคที่ความเชื่อมั่นคือทุนสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล

ในโลกดิจิทัลที่เปิดกว้างต่อโอกาสทางธุรกิจ ความเสี่ยงด้านไซเบอร์กลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการโจมตีที่ซับซ้อนและพุ่งเป้าผ่านบุคลากรในองค์กร (Human Element) รายงาน IBM Cost of a Data Breach ระบุว่าความเสียหายเฉลี่ยจากเหตุข้อมูลรั่วไหลมีมูลค่าสูงกว่า 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนให้เห็นว่าองค์กรไม่อาจพึ่งพาเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสร้าง "ภูมิคุ้มกันดิจิทัล" (Cyber Resilience) ที่ครอบคลุมทั้งมิติของ เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม (Platforms) บุคลากร (People) และปัญญาประดิษฐ์ (AI)

นายอัตพล พยัคฆ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยี บริษัท ไซเบอร์จีนิคส์ จำกัด กล่าวว่า "ในยุค Trust Economy ที่ ความเชื่อมั่น คือทุนสำคัญที่สุด การรักษาความมั่นคงทางไซเบอร์ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือยุทธศาสตร์ในการสร้างทั้งความต่อเนื่องของธุรกิจและเสริมสร้างความไว้วางใจจากลูกค้า คู่ค้า และผู้ถือหุ้น ขณะเดียวกัน การประยุกต์ใช้ AI และ Automation อย่างมีประสิทธิภาพยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดความเสียหาย ควบคุมต้นทุน และเร่งการตอบสนองต่อภัยไซเบอร์ได้อย่างทันท่วงที"

ภายในงาน CyberGenics Summit 2025 ไซเบอร์จีนิคส์ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้าน Cybersecurity Solutions แบบครบวงจร ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีระดับโลกและบริการเชิงกลยุทธ์ ที่ช่วยให้องค์กรบริหารความเสี่ยงและเติบโตอย่างมั่นคงในยุคดิจิทัล โดยชูแนวคิดการเปลี่ยนผ่านจาก "การป้องกัน" สู่ "การสร้างภูมิคุ้มกัน" ผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่

1.    Platforms การลงทุนในเทคโนโลยีล้ำสมัยผ่าน Zero Trust Architecture (ZTA) เช่น XDR, SSE, SASE, CNAPP, Data Security และ API Security เพื่อป้องกันภัยคุกคามกับระบบ AI และแอปพลิเคชันยุคใหม่
2.    People การสร้างวัฒนธรรม Security-first และการพัฒนาทักษะของบุคลากรในทุกระดับ เพื่อให้มีส่วนร่วมในการปกป้ององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
3.    AI การใช้ AI ทั้งในเชิงป้องกันและคาดการณ์ ด้วย AI-Driven และ Automation สำหรับการวิเคราะห์และตอบสนองภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ รวมถึงการวางระบบ AI Governance ตั้งแต่การใช้งาน การจัดการข้อมูลตาม PDPA การควบคุมการเข้าถึง จนถึงการทดสอบด้วย AI Red-teaming เพื่อค้นหาและปิดจุดอ่อนก่อนนำระบบไปใช้งานจริง

เวทีนี้ยังได้รับเกียรติจากผู้นำองค์กรทั้งในภาคธุรกิจการเงิน การธนาคาร และหน่วยงานกำกับ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ว่า Cyber Resilience จะเกิดขึ้นจริงได้เมื่อองค์กรบูรณาการ Platforms, People และ AI เข้าด้วยกัน พร้อมวางรากฐานวัฒนธรรมและการกำกับดูแลที่เข้มแข็ง

ความร่วมมือของไซเบอร์จีนิคส์กับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในการจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ของประเทศ และสะท้อนบทบาทของกลุ่มจีเอเบิล ในฐานะ Tech Enabler ที่มุ่งมั่นยกระดับประเทศไทยสู่มาตรฐานความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลก เพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัลที่มั่นคงและยั่งยืน