Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.ทิสโก้ ประเมินส่งออกในเดือน ส.ค. จะยังสามารถขยายตัวได้ในระดับราว 4-6% มากกว่าที่จะหดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนหน้า

82

 


   บล.ทิสโก้  :  ECONOMICS    ส่งออกเดือน ก.ค. ยังขยายตัวในระดับเลขสองหลักต่อเนื่อง ผลจากการเร่งส่งออกสินค้าก่อนภาษีทรัมป์จะมีผล แต่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อยตามคาด

 


เราประเมินว่าการส่งออกในเดือน ส.ค. จะยังสามารถขยายตัวได้ในระดับราว 4-6% มากกว่าที่จะหดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนหน้า

• ไทยเกินดุลการค้าภายใต้ระบบศุลกากรที่ระดับ 0.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือน ก.ค. โดยการส่งออกสินค้าชะลอตัวลงเล็กน้อยเป็น 11.0% YoY (vs. 15.5% prev.) ขณะที่การนำเข้าสินค้าชะลอตัวลงเป็น 5.1% YoY (13.1% prev.)

• การส่งออกและนำเข้าสินค้าภายใต้ระบบศุลกากรในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2025 ขยายตัว 14.4% YoY และ 10.6% YoY ตามลำดับ และหากพิจารณาภาคเศรษฐกิจจริง (หักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับ ทองคำ น้ำมัน และยุทธปัจจัย) การส่งออกสินค้าจะขยายตัว 14.5% ในช่วง 7 เดือนส่งผลให้ไทยเกินดุลสุทธิที่ระดับ 0.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

• อุปสงค์จากประเทศคู่ค้าหลักยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการส่งออกไปยังตลาดหลัก ด้านการส่งออกไปตลาดหลักขยายตัวในระดับเลขสองหลัก (15.3% YoY vs. 19.3% เดือนก่อน) ขณะที่เมื่อพิจารณารายละเอียด พบว่า การส่งออกไปยังสหรัฐฯ (31.4% YoY vs. 41.9% เดือนก่อน) สหภาพยุโรป (6.6% vs. 11.9% เดือนก่อน) อาเซียน-5 (5.6% vs. 6.5% เดือนก่อน) และ CLMV (1.9% vs. 9.0% เดือนก่อน) ชะลอตัวลง ส่วนการส่งออกไปยังญี่ปุ่น (7.1% vs. 3.2% เดือนก่อน) เร่งตัวสูงขึ้น การส่งออกไปยังประเทศจีน (23.1% vs. 23.1% เดือนก่อน) ขยายตัวได้ดีเท่าเดิม ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดรองขยายตัว (7.7% vs. 1.0% เดือนก่อน) มาจากการส่งออกไปเอเชียใต้ (7.1% vs. 20.1% เดือนก่อน) เม็กซิโก (46.8% vs. -4.5% เดือนก่อน) และรัสเซียกับ CIS (26.6% vs. 14.1% เดือนก่อน) ที่ช่วยสนับสนุนการขยายตัว ขณะที่การส่งออกไปออสเตรเลียยังคงหดตัว (-11.5% vs. -14.2% เดือนก่อน) ที่พลิกหดตัว

• หากพิจารณาตามลักษณะของสินค้า การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ 10.9% YoY (vs. 13.5% เดือนก่อน) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยการส่งออกอาหารขยายตัว 26.0% (vs 33.5% เดือนก่อน) มีสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ เนื้อหมูแช่แข็ง 138.7% (vs. 105.3% เดือนก่อน) ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง แห้ง และบรรจุกระป๋อง ซึ่งขยายตัวดีต่อเนื่อง 74.2% (vs. 48.0% เดือนก่อน) ในขณะเดียวกัน การส่งออกอาหารทะเล แช่เย็น แช่แข็ง แห้ง กระป๋องหดตัวที่ -1.0% (vs. 1.9% เดือนก่อน) ยางหดตัวต่อเนื่อง -19.9% (vs. -0.2% เดือนก่อน) ตามปริมาณส่งออก และข้าว -16.3% (vs. –41.1% เดือนก่อน) ตามราคาและปริมาณส่งออกที่หดตัว –10.9% และ –6.1% YoY ตามลำดับ

• ด้านสินค้าอุตสาหกรรม การส่งออกขยายตัวชะลอลง 14.0% YoY (vs. 17.7% เดือนก่อน) แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 โดยสินค้าสำคัญที่หนุนการขยายตัวได้แก่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ซึ่งขยายตัว 61.0% (vs. 57.7% เดือนก่อน) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบเครื่องจักรกล 44.1% (vs. 16.1% เดือนก่อน) และแผงวงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Integrated Circuits) ขยายตัว 54.9% (vs. 46.2% เดือนก่อน) อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ยางชะลอตัวลงลง 9.7% (vs. 23.3% เดือนก่อน) ขณะที่การส่งออก รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ พลิกกลับมาขยายตัวเล็กน้อย 2.3% (vs. -15.9% เดือนก่อน) ขณะที่การส่งออกอุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด ยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 ที่ -44.0% (vs. -53.5% เดือนก่อน) รวมถึงการส่งออกโทรศัพท์และส่วนประกอบ -17.7% (vs.
-14.7% เดือนก่อน) และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับปิโตรเลียม -24.7% (vs. -6.4% เดือนก่อน) ที่ยังคงหดตัว

• ด้านการนำเข้า: การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (11.3% YoY vs. 7.2% prev.) เร่งตัวขึ้น ขณะที่การนำเข้าสินค้าทุน (23.3% YoY vs. 38.2% prev.), สินค้าอุปโภคบริโภค (2.1% YoY vs.11.7% prev.), และยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง (2.1% YoY vs.11.7% prev.) ชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี การนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิง (-35.4% YoY vs. -10.6% prev.) ยังหดตัวต่อเนืองเป็นเดือนที่ 3

แม้ตัวเลขส่งออกช่วงเจ็ดเดือนแรกจะขยายตัวได้ในระดับสูงมาก แต่ดุลการค้าที่เกินดุลเพียงเล็กน้อย สะท้อนว่าผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยแท้จริงแล้วค่อนข้างจำกัด

• การส่งออกในเดือน ก.ค. ออกมาแข็งแกร่งตามคาด โดยแรงหนุนจากความต้องการสินค้านำเข้าทั่วโลกในช่วงก่อนที่อัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ เนื่องจากผู้นำเข้ายังมีความพยายามที่จะเร่งนำเข้าสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ต้นทุนจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวในเกือบทุกหมวดหลัก

• มองไปข้างหน้า ในเดือน ส.ค. จากที่การบังคับใช้ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. สินค้าที่เร่งส่งออก และนำลงเรือก่อนวันดังกล่าวจะยังได้รับการผ่อนผัน ดังนั้น คาดว่าจะมีการเร่งส่งสินค้าออกไปก่อนในช่วงดังกล่าว จึงประเมินว่าการส่งออกในเดือน ส.ค. จะสามารถขยายตัวได้ในระดับ 5-8% มากกว่าที่จะหดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนหน้า

• เราคงประมาณการ GDP ของไทยไว้ที่ 1.9% และ 1.6% สำหรับปี 2025F และ 2026F ตามลำดับ แม้ว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 จะขยายตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้เล็กน้อยจากการชะลอการบังคับใช้ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ แต่การลงทุนภาครัฐที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับภาวะความไม่แน่นอนด้านการเมืองที่เพิ่มขึ้น มีแนวโน้มจะกดดันและลดทอนผลบวกจากภาคการส่งออกที่ดีกว่าคาดในช่วงที่ภาษีสหรัฐฯ ยังไม่ส่งผล โดยเราประเมินว่ายอดการส่งออกสินค้า (f.o.b) จะสามารถขยายตัวได้ราว 5.8% แม้ว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปีจะขยายตัวได้ 14.4% ก็ตาม เนื่องจากยังคาดว่ามีความเสี่ยงด้านต่ำที่จะกระทบกับการส่งออกตั้งแต่เดือน ก.ย. เป็นต้นไป

• ในด้านนโยบายการเงิน เราประเมินว่า ธปท. มีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง โดยคาดว่า กนง. จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไตรมาสละ 25 bps ไปจนถึงกลางปี 2026F ส่งผลให้ อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปี 2025F คาดว่าจะอยู่ที่ 1.5% และในช่วงกลางปี 2026F จะอยู่ที่ 0.75% ซึ่งเป็นระดับที่เราประเมินว่าเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มซบเซายาวนานแต่จะไม่ได้ลงลึก และขยายตัวได้ต่ำกว่าระดับศักยภาพต่อเนื่องทั้งในปีนี้ และปีหน้า นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปก็คาดว่าจะยังคงต่ำกว่าเป้าของ ธปท. ต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะการเงินที่ตึงตัวเกินความจำเป็น และแนวโน้มสินเชื่อปล่อยใหม่ที่จะยังหดตัวต่อเนื่อง

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

รอ By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้าวันนี้หุ้นพัก นักลงทุนรอจับตา ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายกฯ ใน 29 ส.ค. นี้...

SSP เตรียม COD โซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น Q4/68

SSP เตรียม COD โซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น Q4/68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้