คาด SET Index แกว่งตัว Sideways down : แรงกดดันจากการลดสถานะเสี่ยง หลังไร้ปัจจัยสนับสนุนเฉพาะตัว ประกอบกับมีแนวโน้มถูกกดดันจาก MSCI Rebalanced รวมถึงความกังวลตลาดแรงงานไทยและความผิดหวังมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐ หากแต่พอมีแรงพยุงจากภาพการส่งออกและ Thailand Focus

แนวรับ-ต้าน
1,250 –1,270

กลยุทธ์การลงทุน
1) ส่งออก : AAI, ITC, IVL, NER, PTTGC, STA
2) Thailand Focus : BAM, BDMS, GULF, KTB, MINT, SCB, SCB
3) พลังงาน : BCP, PTTEP, TOP
4) หวังเฟดลดดอกเบี้ย : AP, BGRIM, GPSC, KTC, MTC, SAWAD, SIRI, WHA

ในวันที่ขาดแรงสนับสนุนใหม่ๆ

ลดเสี่ยง ประกอบกับ MSCI Rebalanced : คาดแรงกดดันมาจากการลดสถานะเสี่ยงของนักลงทุน รวมถึงการไหลออกของเงินทุนต่างชาติ สอดรับกับนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิมาแล้ว 9 วันทำการติดต่อกัน คิดเป็นมูลค่ารวม 1.44 หมื่นล้านบาท หลัง SET Index ขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่เฉพาะตัวในเชิงบวก ประกอบกับในช่วงปลายสัปดาห์ยังมีคดีสำคัญที่นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงเสถียรภาพการเมืองไทย โดยเฉพาะฝั่งรัฐบาล นอกจากนี้ SET Index ยังมีแนวโน้ม เผชิญแรงกดดันจาก MSCI Rebalanceที่ จะมีผลในวันที่ 26 ส.ค.68 ซึ่ง HMPRO และ OR หุ้นไทยถูกถอดออกจาก MSCI Global Standard โดยที่ไม่มีหุ้นเข้าใหม่ ส่วน MSCI Global Small Cap พบว่ามีหุ้นที่ถูกถอดออก ได้แก่ ICHI, SISB และ TPIPL ขณะที่หุ้นเข้าคือ HMPRO และ KTC

ตลาดแรงงานน่ากังวลและคงไม่ทัน : อีกทั้ง คาด SET Index จะถูกกดดันจาก 1) ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจไทยอันเนื่องมาจากสัญญาณความเปราะบางของตลาดแรงงาน หลังสภาพัฒน์เผยข้อมูลพบว่าในปี 65 บริษัทต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรขนาดกลางและใหญ่มีการจ้างงานพนักงานประจำไม่เต็มเวลาอยู่ ที่ 6% แต่ในปี 67 เพิ่มขึ้นมาเป็น 42% เช่นเดียวกับพนักงานสัญญาจ้าง/พนักงานชั่วคราวไม่เต็มเวลาปรับเพิ่มจาก 4% ในปี 65 มาเป็น 28% ในปี 67 และ 2) ความผิดหวังต่อมาตรการสำคัญของภาครัฐในการลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน หลัง รมช.คมนาคม เผยโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย อาจมีผลบังคับใช้ไม่ทันวันที่ 1 ต.ค.68 หลังต้องรอกฎหมาย 3 ฉบับ ผ่านสภาฯ

หวังแรงจากสินค้าที่ส่งออกดีและ Thailand Focus : อย่างไรก็ตาม จากภาพตัวเลขการส่งออกไทยเดือนก.ค.68 ที่ขยายตัว 11% y-y และนับเป็นการขยายตัว 2 หลักเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ส่งผลให้เรามองมีแนวโน้มเป็นแรงพยุงในระยะสั้นต่อ SET Index โดยเฉพาะหุ้นที่อยู่ในกลุ่มสินค้าส่งออกที่ขยายตัวได้ดี อาทิ อาหารสัตว์เลี้ยง (ขยายตัวต่อเนื่อง 22 เดือน) ผลิตภัณฑ์ยางพารา (ขยายตัวต่อเนื่อง 13 เดือน) และผลิตภัณฑ์ พลาสติก (ขยายตัวต่อเนื่อง 13 เดือน) เป็นต้น นอกจากนี้ คาด SET Index มีแนวโน้มได้แรงพยุงจากการเก็งกำไรในหุ้นที่จะขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ในงาน Thailand Focus 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 ส.ค.68 ส่วนปัจจัยอื่นๆในวันนี้ติดตามการประชุม ครม.

ปัจจัยเพิ่มเติม

(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 1.8% ปิดที่ $64.8 แรงหนุนมาจากคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐฯจะออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย และข่าวยูเครนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน ภาพข้างต้นส่งผลให้เรามองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน

 (+) PBOC ประกาศอัดสภาพคล่องผ่าน MLF อายุ 1 ปี และ Reverse Repo รวมกันราว 6 แสนล้านหยวน ในเดือนส.ค.68 ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 7 เดือนเพื่อเป็นทางเลือกแทนการใช้เครื่องมืออัตราดอกเบี้ย หนุนหุ้นกลุ่ม China Play

 (-) ปธน.ทรัมป์ แถลงว่าคุณลิ ซ่า คุก ผู้ว่าการเฟดจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยจะมีผลทันที โดยกล่าวหาว่าเธอให้ข้อมูลเท็จในใบสมัครสินเชื่อที่อยู่อาศัย 2 ใบ ภาพข้างต้นแม้ช่วยเพิ่มความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดหากแต่เราให้น้ำหนักในเชิงลบมากกว่า ท่ามกลางความกังวลความเป็นอิสระของธนาคารกลาง

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์