Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

71

 

 

SET อาจจะยัง ( ) นะ!!!
TOP PICK MTC / SPALI / ERW

EXTERNAL FACTOR
• วานนี้ตลาดหุ้นโลกเห็นสัญญาณเทขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นมาแรง โดยในฝั่งสหรัฐฯ ย่อตัวลงราว -0.2% ถึง -1.0% ส่วนในฝั่งยุโรปปิดตัวราว -1.6% ถึง +0.1%
ซึ่งอยู่ในช่วงของการ WAIT & SEE ตัวเลขเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ ที่จะประกาศศุกร์นี้
• คาดการณ์ CONSENSUS ประเมินตัวเลขเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ เดือน ก.ค. 68ขยายตัว +2.6%YOY ทรงตัวจากเดือนก่อน ขณะที่ CORE PCE +2.9%YOY
• กระทรวงพาณิชย์มีรายงานตัวเลขการค้าระหว่างประเทศเดือน ก.ค. 68 โดยภาคการส่งออกไทยขยายตัว +11%YOY สูงกว่าคาด และต่อต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13


INTERNAL FACTOR
• ทิศทางดอกเบี้ยไทย 2H68 มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ราว 0.25% สะท้อนผ่านตราสารหนี้ไทยอายุน้อยกว่า 10 ปีที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50%ทั้งสิ้น โดยตราสารหนี้ไทยอายุ 10 ปี อยู่ระดับ 1.29%(สะท้อนการลดดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้ง)
• หากพิจารณาระดับ MARKET EARNING YIELD GAP ของไทยล่าสุดอยู่ระดับ5.31%(ซึ่งส่วนใหญ่สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน) และหากกนง.ลดดอกเบี้ยลง 25 BPS. ก็จะหนุนให้ระดับ MARKET EARNING YIELD GAP ขยับขึ้นสู่ระดับ 5.56%


INVESTMENT STRATEGY
• 3 ประเด็นเกี่ยวกับ FUND FLOW ณ 26 –29 ส.ค. คือ 1. มีหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมาย XD 102 บริษัท กดดัน SETINDEX ย่อตัวลง 2.46 จุดได้ 2. วันนี้ MSCI REBALANCE ซึ่งเฉลี่ยมักจะมีมูลค่าซื้อขายเข้ามาช่วงท้าย หนุนให้มูลค่าซื้อขายอาจเกิน 7 หมื่นล้านบาท หรือมากกว่ามูลค่าซื้อขายวานนี้ 56% ได้ และเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติประเภท PASIVE FUND มีโอกาสซื้อหุ้นไทยต่อ หลังตลาดหุ้นไทยช่วง HTD ปรับตัวขึ้นได้แรง15.89% สูงสุดเป็นอันดับ 6 ของโลก 3. มีงาน THAILAND FOCUS 27 –29 ส.ค. คาดหวัง FUND FLOW ต่างชาติเข้าเพิ่ม
• แนะนำเก็งกำไรหุ้นพื้นฐานเข้างาน THAILAND FOCUS ราคา LAGGARD : PTTEP, BDMS, MTC, SAWAD,WHA, AMATA, CK, PLANB, ERW


ปัจจัยแวดล้อมยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
วานนี้ ตลาดหุ้นโลกเห็นสัญญาณเทขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นมาแรง โดยในฝั่งสหรัฐฯ ย่อตัวลงราว -0.2% ถึง -1.0% ส่วนในฝั่งยุโรปปิดตัวราว -1.6% ถึง +0.1% ซึ่งอยู่ในช่วงของการ WAIT & SEE ตัวเลขเงินเฟ้อด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE INDEX) ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้

 

คาดการณ์ CONSENSUS ประเมินตัวเลขเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ เดือน ก.ค. 68 ขยายตัว +2.6%YOY ทรงตัวจากเดือนก่อน ขณะที่ CORE PCE +2.9%YOY ขยับขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน ทั้งนี้ หากตัวเลขออกมาสูงกว่าตลาดคาด อาจลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ย แต่ในทางกลับกัน หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าตลาดคาด อาจเพิ่มความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ย และตลาดหุ้นมีโอกาสตอบรับเชิงบวกสำหรับประเด็นภายในประเทศ กระทรวงพาณิชย์มีรายงานตัวเลขการค้าระหว่างประเทศเดือน ก.ค. 68 โดยภาคการส่งออกไทยขยายตัว +11%YOY สูงกว่าคาด และต่อต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ขณะที่ภาคการนำเข้าไทยมีการเร่งตัวเช่นกัน +5.1%YOY ก่อนที่มาตรการภาษีตอบโต้ขิงสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้

 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าการส่งออกในช่วงตั้งแต่เดือนส.ค.เป็นต้นไป จะเริ่มขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง และเตรียมจะทบทวนเป้าหมายการส่งออกของไทยในปีนี้ใหม่ (ปัจจุบันคาดส่งออกไทยขยายตัว 2-3% ในปี 2568)ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง อาจหนุนให้รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ผ่านนโยบายการคลังที่เข้มข้น
และนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายขึ้น

 


แม้มี QT แต่ด้วยภาวะดอกเบี้ยขาลงหนุนเม็ดเงินยังเข้าสินทรัพย์เสี่ยง
ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวนจาก TRADE TARIFF ทำให้ประเทศต่างๆใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งหากพิจารณาการเคลื่อนที่ของตลาดหุ้นโลก(MSCI ACWI INDEX) และดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะเห็นได้ว่าในภาวะดอกเบี้ยขาลง(อ้างอิงดอกเบี้ยสหรัฐฯ) ตลาดหุ้นโลกมักปรับตัวขึ้นเสมอหลังจากนั้น


อีกส่วนหนึ่งที่เป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาดหุ้น คือ การอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ(QE) โดยในอดีตเวลา BALANCESHEET สหรัฐฯปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยฯ(QE1-3 และ QE4) มักทำให้ตลาดหุ้นโลกเคลื่อนไปในทิศทางบวก แต่หากเกิดการทำ QT(การลดสภาพคล่องในระบบ) มักทำให้ตลาดหุ้นโลกแกว่งผันผวน ดังในปี 2016-2019ซึ่งการทำ QT เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2022 - ปัจจุบัน โดยค่าเฉลี่ยการปรับตัวลงของ BALANCE SHEETสหรัฐฯ ต่อเดือนราว -1.0%MOM แต่ตั้งแต่เดือน เม.ย.68-ปัจจุบัน ปรับตัวชะลอลงเหลือ -0.4%MOM เท่านั้น บวกด้วยความคาดหวังการเกิดดอกเบี้ยขาลงตามถ้อยแถลงของประธาน FED(การประชุม JACKSON HOLE) ส่งผลให้MSCI ACWI INDEX ปรับขึ้น +12.3% ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา

 

ขณะที่ไทยที่มีโอกาสเห็นมาตรการนโยบายการเงินมาพยุงเศรษฐกิจในอนาคตเช่นกัน โดยทิศทางดอกเบี้ยไทย 2H68
มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ราว 0.25% สะท้อนผ่านตราสารหนี้ไทยอายุน้อยกว่า 10 ปีที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ทั้งสิ้น โดยตราสารหนี้ไทยอายุ 10 ปี อยู่ระดับ 1.29%(สะท้อนการลดดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้ง) โดยหากพิจารณาระดับ MARKET EARNING YIELD GAP ของไทยล่าสุดอยู่ระดับ 5.31%(ซึ่งส่วนใหญ่สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน) และหากกนง.ลดดอกเบี้ยลง 25 BPS. ก็จะหนุนให้ระดับ MARKET EARNING YIELD GAP ขยับขึ้นสู่ระดับ 5.56%


แนะหุ้นเด่น ดัก FUND FLOW THAILAND FOCUS 2025
3 ประเด็นเกี่ยวกับ FUND FLOW ณ 26 –29 ส.ค. คือ
▪ บริษัทจดทะเบียนเข้าสู่ช่วงขึ้นเครื่องหมาย XD สำหรับการรับปันผลระหว่างกาล โดยช่วงที่เหลือของเดือนจะมีหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมาย XD 102 บริษัท คำนวณออกมากดดัน SET INDEX ย่อตัวลง 2.46 จุด

 


▪ วันนี้ MSCI REBALANCE ซึ่งเฉลี่ยมักจะมีมูลค่าซื้อขายเข้ามาช่วงท้าย หนุนให้มูลค่าซื้อขายอาจเกิน 7หมื่นล้านบาท หรือมากกว่ามูลค่าซื้อขายวานนี้ 56% ได้ และเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติประเภท PASIVEFUND มีโอกาสซื้อหุ้นไทยต่อ หลังตลาดหุ้นไทยช่วง HTD ปรับตัวขึ้นได้แรง 15.89% สูงสุดเป็นอันดับ 6ของโลก

 

▪ มีงาน THAILAND FOCUS 27 –29 ส.ค. คาดหวัง FUND FLOW ต่างชาติเข้าเพิ่มแนะนำเก็งกำไรหุ้นพื้นฐานเข้างาน THAILAND FOCUS ราคา LAGGARD : PTTEP, BDMS, MTC, SAWAD,WHA, AMATA, CK, PLANB, ERW

 

 


Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

SSP เตรียม COD โซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น Q4/68

SSP เตรียม COD โซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น Q4/68

ทำกำไร By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม มองตลาดหุ้นไทย ตอนนี้ ต่างฝ่าย ต่างจ้อง ขายทำกำไร แบบจังหวะใคร จังหวะมัน ด้วยปัจจัยพื้นฐานของประเทศ ของ....

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้