AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งออกข้าง
เลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว

Market Strategy
SET Index วันนี้อยู่ในภาวะรอปัจจัยใหม่หนุน อีกทั้งยังอาจเห็นแรงกดดันจาก MSCI Rebalance จึงคาดแกว่งออกข้างตามกรอบ 1250-1270 จุด หุ้นเด่นวันนี้เลือก CPALL และ WHA

ส่งออกไทยเดือน ก.ค. ขยายตัวในสกุล USD ที่ 11%YoY ดีกว่าตลาดคาด 9.6%YoY แต่โตช้าลงจากเดือนก่อนที่ 15.5%YoY เนื่องจากยังได้อานิสงค์จากการเร่งส่งออกก่อนกำแพงภาษี 19% ของทรัมป์จะเริ่มในเดือน ส.ค. แต่อย่างไรก็ตามเราไม่ได้มองบวกเพราะพิจารณาในสกุลเงินบาท การส่งออกพลิกหดตัว -1.1%YoY แย่ที่สุดในรอบ 16 เดือนจากผลของบาทแข็งค่า นอกจากนี้ คาดว่าเศรษฐกิจจะโตช้าลง โดย 3Q68 และ 4Q68 คาด GDP ขยายตัว 1.8%YoY และ 1.5%YoY เทียบกับ 1H68 ที่ขยายตัว 3%YoY สถานการณ์ข้างต้นจึงคาด กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยฯอีก 1 ครั้งใน 4Q68 และช่วงต้นปั 69 อีก 1 ครั้งมาที่ 1% ภายใต้แนวโน้มดอกเบี้ยฯขาลงจึงเป็นบวกต่อกลุ่มไฟแนนซ์ชอบ SAWAD และ TIDLOR มากที่สุด และกลุ่มโรงไฟฟ้าชอบ GPSC CKP และ BCPG แต่อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปรับขึ้นไปแล้ว จึงแนะนำรอซื้อตอนย่อมากกว่าไปไล่ราคา

วันนี้น่าจะเห็นความผันผวนช่วงท้ายตลาด จาก MSCI Rebalance ที่มีผลราคาปิดวันนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลออกราว 6 พันล้านบาท โดยหุ้นที่เข้าดัชนี MSCI Global Standard ไม่มี หุ้นที่ออก HMPRO OR ดัชนี MSCI Global Small Cap หุ้นที่เข้า KTC HMPRO หุ้นที่ออก ICHI SISB TPIPL นอกจากนี้ FTSE วานนี้ประกาศหุ้นเข้าออกมีผลราคาปิดวันที่ 19 ก.ย. โดยดัชนี FTSE Large Cap หุ้นเข้า ไม่มี หุ้นออก CPAXT ดัชนี FTSE Mid Cap หุ้นเข้า CPAXT หุ้นออก BGRIM SAWAD ดัชนี FTSE Small Cap หุ้นเข้า BGRIM SAWAD หุ้นออก: BEC BSRC FORTH PSH SINGER SUPER THANI TKN TQM ระยะสั้นเป็น Sentiment ลบต่อหุ้นที่ถูกคัดออกหรือตกชั้น จากการถูกปรับลดน้ำหนัก

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 9.3 จุด หนุนหลักจากกประธาน FED ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยฯ เดือน ก.ย. หนุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลงนำตลาด เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC +7.4% GULF +1.6% BCPG +4.5% กลุ่มไฟแนนซ์ SAWAD +3.5% MTC +2.7% KTC +2.7% กลุ่มอสังหาฯ SPALI +3.8% AP +2.7% CPN +2.8% สวนทางกลุ่มที่ปรับธนาคารที่ปรับลง -0.2% เนื่องจากเสียประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยลง กลุ่ม Defensive อย่างโรงพยาบาล -0.2% ICT -0.2% แรงซื้อสุทธิมาจากสถาบันในประเทศ 1.3 พันล้านบาท สวนทางต่างชาติขายอ่อนๆ 513 ล้านบาท

DAILY Stock Pick
CPALL
กำไร 2H68 โต YoY
ผสาน valuation น่าสนใจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 68.00 บาท
QTD SSSG ของ CPALL ทรงตัว ใกล้เคียงไตรมาส 2 อย่างไรก็ตาม บริษัทออกแคมเปญแสตมป์ใหม่อย่าง Butterbear และ Kitty ช่วยหนุนยอดขายใน 2H68 พร้อมท้ังการปรับ Product mix ช่วยหนุน GPM ส่งผลให้กำไรสุทธิ 2H68 ยังคงเติบโต YoY
เราคาดกำไรปี 68 - 70 เติบโตเฉลี่ย 9.8% จากการขยายสาขาปีละ 700 สาขา และ GPM ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ PE ปี 68 ที่ 14.3 เท่า (-1.5SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี)

WEEKLY Stock Pick
WHA
สถิติหุ้นเข้าร่วม Thailand Focus มัก outperform
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 4.00 บาท
จากสถิติ 4 ปีย้อนหลัง พบว่าหุ้นที่เข้าร่วมงาน Thailand Focus มักมีแนวโน้ม Outperform ตลาด โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +3.9% เทียบ SET index +3.5% ในช่วงเวลา ก่อนงานเริ่ม 3 วันทำการ (วันที่ 25 ส.ค. 68) และขายหลังงานจบ 5 วัน (5 ก.ย.68) ในปีนี้ WHA ยังคงเข้าร่วมในงาน ซึ่งเราคาดว่าจะเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจบน theme China+1
WHA YTD -34.2% เทียบกับ SET Index -10.4% ในช่วงเวลาเดียวกัน ยังคง underperformed SET ถึง 23.8% โดยบริษัท รายงาน Backlog รวม JV ในงวด 2Q68 ที่ 1.5 พันไร่ (ไม่ถูกกระทบจากมาตรการภาษี) เทียบกับเป้ายอดขายที่ 2.4 พันไร่ WHA ตั้งเป้าในปี 68

KEY FACTOR
การส่งออกไทยเดือน ก.ค. +11.0% YoY สูงกว่าที่ Consensus คาดการณ์ไว้ที่ +9.6% YoY มีมูลค่า 28.6 พันล้านเหรียญฯ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 และหากตัดสินค้าเกี่ยวกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธออก (เฉพาะ Real sector) เร่งตัวสูงถึง +16.6% YoY สะท้อนแรงซื้อเร่งด่วนจากผู้นำเข้าต่างประเทศช่วงที่มาตรการภาษีสหรัฐฯ ยังไม่ชัดเจน หมดอายุ ทั้งนี้ การขยายตัวโดดเด่นมาจากทั้งกลุ่ม เกษตร (ผลไม้สด +107.7%, ไก่สด/แปรรูป +9.8%, อาหารสัตว์เลี้ยง +9.1%) และ อุตสาหกรรม (คอมพิวเตอร์ +61.0%, แผงวงจรไฟฟ้า +54.9%, เครื่องจักรกล +44.1%) ส่วนตลาดสำคัญขยายตัวแข็งแกร่ง นำโดย สหรัฐฯ (+31.4% ต่อเนื่อง 22 เดือน), จีน (+23.1%), ญี่ปุ่น (+7.1%), EU27 (+6.6%) และอาเซียน (+5.6%) สะท้อนถึงความต้องการที่ฟื้นตัวและแรงเร่งนำเข้าแบบ front-loading
ขณะที่แนวโน้มการส่งออกไทยในครึ่งปีหลังยังน่าจะมีโมเมนตัมที่ดีต่อเนื่อง (แต่อาจชะลอความร้อนแรงลงหากเทียบกับช่วงที่มีการเร่งนำเข้า) หลังไทยได้อัตราภาษีจากสหรัฐฯ ลดลงจาก 36% เหลือ 19% ใกล้เคียงกับคู่แข่งในภูมิภาค

EYES ON
28 ส.ค. GDP 2Q68 ของสหรัฐฯ (รายงานครั้งที่สอง), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค Eurozone
29 ส.ค. PCE เดือน ก.ค. ของสหรัฐฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ