Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

76

 

SET สวยขึ้น หลายมุม
TOP PICK MTC / BEM / SCG

 

EXTERNAL FACTOR
• ศุกรที่ผ่านมา ตลาดหุ้นโลกดีดตัวขึ้นแรง โดยเฉพาะในฝั่งสหรัฐฯ ขยับขึ้นราว +1.9%ถึง +3.9% ขณะที่ BOND YIELD 10Y สหรัฐฯ ร่วงลงมาสู่ระดับ 4.25% (เทียบเท่ากับการปรับลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง 25 BPS.) ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.5% สะท้อนความคาดหวังดอกเบี้ยขาลง ดูจริงจังมากขึ้น
• ในงานประชุม JACKSON HOLE ประธาน FED (POWELL) กล่าวในสุนทรพจน์ว่า ส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมรอบเดือน ก.ย.68 โดยให้น้ำหนักมากขึ้นกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในตลาดแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอ


INTERNAL FACTOR
• ไทยมีโอกาสเห็นมาตรการที่จะเข้าประคับประคองทั้งนโยบายการคลัง และนโยบายการเงินในอนาคต ซึ่งทิศทางดอกเบี้ยไทย 2H68 มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ราว
0.25% สะท้อนผ่านตราสารหนี้ไทยอายุน้อยกว่า 10 ปีที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ทั้งสิ้น
• ส่วนเช้านี้ติดตามตัวเลขส่งออก-นำเข้าไทยที่คาดเติบโตชะลอลง YOY อยู่ที่+9.6%YOY(เดือนก่อนหน้า +15.5%YOY) และ+4.5%YOY(เดือนก่อนหน้า
+13.1%YOY) ตามลำดับ


INVESTMENT STRATEGY
• สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยมีแรงหนุน ทั้งปัจจัยภายนอกและในประเทศ โดยเม็ดเงินมีการไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง จากความคาดหวังวัฏจักรดอกเบี้ยโลกเป็นขาลง, FUND FLOW มีโอกาสไหลหนุนหุ้นไทย จากค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ต่างชาติได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม อีกทั้งเวลามีประเด็นการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ตลาดหุ้นไทยมักจะขึ้นได้ดีราว 10% ในช่วงเวลา 2 เดือน
• กลยุทธ์การลงทุนเน้น 3 ธีม คือ หุ้นวัฎจักรดอกเบี้ยขาลง MTC, SAWAD, TIDLOR, KTC หุ้นรับบาทแข็งGULF, BGRIM, GPSC และหุ้นขนาดใหญ่ BETA สูง DELTA, WHA, AMATA, PTTGC, SCGP, AAV, SCC,AOT, SJWD, ERW, CENTEL

 

ความคาดหวังจริงจังมากขึ้น ในการปรับลดดอกเบี้ย
ศุกรที่ผ่านมา ตลาดหุ้นโลกดีดตัวขึ้นแรง โดยเฉพาะในฝั่งสหรัฐฯ ขยับขึ้นราว +1.9% ถึง +3.9% ขณะที่ BONDYIELD 10Y สหรัฐฯ ร่วงลงมาสู่ระดับ 4.25% (เทียบเท่ากับการปรับลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง  25 BPS.) ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.5% สะท้อนความคาดหวังดอกเบี้ยขาลง ดูจริงจังมากขึ้น

 


ในงานประชุม JACKSON HOLE ประธาน FED (POWELL) กล่าวในสุนทรพจน์ว่า ส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมรอบเดือน ก.ย.68 โดยให้น้ำหนักมากขึ้นกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในตลาดแรงงานสหรัฐฯอ่อนแอ (การจ้างงาน → เสี่ยงขาลง) ขณะเดียวกันยังต้องจับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ยังสูงเกินเป้าหมาย 2% อีกทั้งอาจมีผลกระทบจากภาษีนำเข้า (TARIFFS) ที่เริ่มส่งผลต่อราคาสินค้า (เงินเฟ้อ → เสี่ยงขาขึ้น) อย่างไรก็ดี FED ยังไม่ตัดสินใจล่วงหน้า แต่พร้อมปรับท่าทีหากข้อมูลเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงสำหรับคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยจาก FEDWATCH TOOL ตลาดฯ ให้น้ำหนักมากขึ้นเป็น 87% (เดิม 75%) คาดFED เริ่มลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. นี้และครั้งถัดไปอาจอยู่ในช่วง 4Q68

 

กรณี FED เปิดทางปรับลดดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ สวนทางกับ ECB ที่มีแนวโน้มชะลอการปรับลดดอกเบี้ย บวกกับ BOJ ที่อาจขยับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต อาจเป็นเหตุให้เงินยูโรและเงินเยนแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะกดดันดอลลาร์อ่อนค่าลงในเชิงเปรียบเทียบ

 

 

ปัจจัยในประเทศมีอะไรเป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากนี้บ้าง
ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวนจาก TRADE TARIFF ทำให้ประเทศต่างๆใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น(รายละเอียดอยู่หัวข้อด้านบน) รวมถึงไทยที่มีโอกาสเห็นมาตรการที่จะเข้าประคับประคองทั้งนโยบายการคลังและนโยบายการเงินในอนาคต ซึ่งทิศทางดอกเบี้ยไทย 2H68 มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ราว 0.25% สะท้อนผ่านตราสารหนี้ไทยอายุน้อยกว่า 10 ปีที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50%ทั้งสิ้น โดยตราสารหนี้ไทยอายุ10ปี อยู่ระดับ 1.33%(สะท้อนการลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง)ส่วนนโยบายการคลัง วงเงินงบประมาณปี 2569 3.78 ล้านล้านบาท(+0.7%YOY) โดยแบ่งเป็นรายจ่ายประจำ :ประมาณ 2.92 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 77.3% ของงบทั้งหมด และรายจ่ายลงทุน : ประมาณ 860,000 ล้านบาทหรือ 22.7% ของงบทั้งหมด โดยรมช.คลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นบริโภค-ท่องเที่ยวช่วงที่เหลือของปีและให้ความมั่นใจว่ากระบวนการในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายฯ ปี 2569 จะแล้วเสร็จทันประกาศใช้ภายใน 1 ต.ค.68ซึ่งน่าจะเป็นตัวช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยปี 2568 ให้มีโอกาสให้เติบโตเกิน 2% ได้

 

ส่วนเช้านี้ติดตามตัวเลขส่งออก-นำเข้าไทยที่คาดเติบโตชะลอลง YOY อยู่ที่ +9.6%YOY(เดือนก่อนหน้า+15.5%YOY) และ+4.5%YOY(เดือนก่อนหน้า +13.1%YOY) ตามลำดับ และวันศุกร์นี้ติดตามศาลรธน.นัดแถลงด้วยวาจา – ปรึกษาหารือ –และลงมติกรณีคดีคลิปเสียงของคุณ“แพทองธาร นั้นมีความผิดจริงหรือไม่ซึ่งแยกเป็น 2ทางเลือกทางการเมืองหลักจากนี้
1. หากศาลชี้ว่า “ผิด”
• อาจมีผลให้คุณแพทองธาร สิ้นสภาพความเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ ม.170
• เปิดช่องให้เกิดการเลือกนายกฯ คนใหม่ในสภา
• พรรคเพื่อไทยอาจยังคงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากเสียงยังมั่นคง แต่จะเกิด “สุญญากาศทางการเมือง”
ชั่วคราว
2. หากศาลชี้ว่า “ไม่ผิด”
• คุณแพทองธารยังดำรงตำแหน่งต่อ และเพิ่มความชอบธรรมทางการเมือง
• ฝ่ายตรงข้ามอาจลดการโจมตี แต่ก็ยังคงมีแรงกดดันเรื่องความโปร่งใส


สภาพคล่องมีโอกาสไหลเข้าหุ้นไทยต่อจากหลายมุม
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยมีแรงหนุน ทั้งปัจจัยภายนอกและในประเทศ โดยเม็ดเงินมีการไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง จากความคาดหวังวัฏจักรดอกเบี้ยโลกเป็นขาลง, FUND FLOW มีโอกาสไหลหนุนหุ้นไทย จากค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ต่างชาติได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม อีกทั้งเวลามีประเด็นการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ตลาดหุ้นไทยมักจะขึ้นได้ดี
ราว 10% ในช่วงเวลา 2 เดือนกลยุทธ์การลงทุนเน้น 3 ธีม คือ หุ้นวัฎจักรดอกเบี้ยขาลง MTC, SAWAD, TIDLOR, KTC หุ้นรับบาทแข็ง GULF,BGRIM, GPSC และหุ้นขนาดใหญ่ BETA สูง DELTA, WHA, AMATA, PTTGC, SCGP, AAV, SCC, AOT, SJWD,ERW, CENTEL

 

 

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

LEO ร่วมงาน TILOG – LOGISTIX 2025 โชว์บริการโลจิสติกส์ครบวงจร

LEO ร่วมงาน TILOG – LOGISTIX 2025 โชว์บริการโลจิสติกส์ครบวงจร

SET และ APM เข้าเยี่ยมชมธุรกิจ บจก.เกษตรพัฒนาอุตสาหกรรม

SET และ APM เข้าเยี่ยมชมธุรกิจ บจก.เกษตรพัฒนาอุตสาหกรรม

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้