SET แข็งแกร่งพร้อมบวกต่อ ... ไม่รอละนะ
TOP PICK SCGP / PTT / BCH

EXTERNAL FACTOR
• วานนี้ ตลาดหุ้นโลกปรับตัวในกรอบแคบๆ โดยในฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป ปิดตัวราว -0.4% ถึง +0.2% คาดรอจับตาประธาน FED (POWELL) กล่าวสุนทรพจน์ที่JACKSON HOLE เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในคืนนี้เวลา 21.00 น.
• ขณะที่ความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. 68 ถูกทำลายไปบ้าง ล่าสุดตลาดฯ ให้น้ำหนักลดลงเหลือ 75% (เดิมเกิน 80%) หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังบ่งชี้ไปในทิศทางแข็งแกร่ง โดยเฉพาะภาคการผลิตสหรัฐฯ
• อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากมาตร TARIFF ต่อเงินเฟ้ออาจมีโอกาสผ่อนคลายลง หลังล่าสุดสหรัฐฯ – ยุโรป บรรลุข้อตกลงทางการค้าได้แล้ว

INTERNAL FACTOR
• วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลง 0.27% ปิดตัวระดับ 1244.79 จุด แต่ได้แรงหนุนหลักจากกลุ่มหุ้นปิโตรฯ-โรงกลั่นเป็นหลัก PTTGC +14.75% IVL +9.30% SCC +5.09% เป็นต้น
• ปีจจัยหนุนกลุ่มหุ้นปิโตรเคมีมีอยู่ 2 ปัจจัย คือ เกาหลีใต้ลดผลิตปิโตรเคมีและจีนเตรียมปฏิรูปอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและการกลั่นน้ำมัน ซึ่งไทยสัดส่วนการส่งออกกลุ่มสินค้าปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติกไปจีน-เกาหลีใต้ มีมูลค่าสูงสุดในอันดับTOP 10 จึงทำให้หุ้นอย่าง IVL PTTGC SCC มีโอกาสได้รับ SENTIMENT บวก และเพิ่ม UPSIDE ต่อประมาณการในอนาคต

INVESTMENT STRATEGY
• ปลายเดือนสิงหาคม 2568 เป็น “โค้งชี้ชะตาทางการเมืองและคดีความ” ของทั้งพ่อ-ลูกตระกูลชินวัตร และอาจเห็นความเสี่ยงการยุบพรรค-ยุบสภา และทำให้กระบวนการทางการเมืองชัดเจนขึ้นไปอีกระดับ โดยสถิติหุ้นมักค่อยๆ ขึ้น หลังเหตุการณ์ศาลตัดสินผู้นำ โดยหลังศาลตัดสินผู้นำ SET INDEX มักขึ้นแรงเฉลี่ยระดับ 10.3% ใน
2 เดือนหลังจากนั้น(ทั้งตอนคุฯพิธา และคุณเศรษฐา)
• ผลตอบแทนเฉลี่ยราย SECTOR หลังศาลตัดสินผู้นำปี 2023 และ 2024 ที่เป็นกลุ่ม OUTPERFORM SET คือกลุ่ม FIN(JMT SAWAD MTC KTC) ETRON(CCET HANA DELTA KCE) MEDIA(PLANB) CONS(CK)COMM(CRC CPALL) PROP(AP SPALI AMATA WHA) ICT(TRUE ADVANC) เป็นต้น

รอความชัดเจนของดอกเบี้ยขาลง
วานนี้ ตลาดหุ้นโลกปรับตัวในกรอบแคบๆ โดยในฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป ปิดตัวราว -0.4% ถึง +0.2% คาดรอจับตาประธาน FED (POWELL) กล่าวสุนทรพจน์ที่ JACKSON HOLE เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในคืนนี้เวลา21.00 น. หาก POWELL ยืนยันความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ อาจลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ย แต่ในทางกลับกันหาก POWELL เปลี่ยนท่าทีหลังข้อมูลแรงงานอ่อนแอ อาจเพิ่มความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ย และตลาดหุ้นมีโอกาสตอบรับเชิงบวก

ขณะที่ความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. 68 ถูกทำลายไปบ้าง ล่าสุดตลาดฯ ให้น้ำหนักลดลงเหลือ75% (เดิมเกิน 80%) หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังบ่งชี้ไปในทิศทางแข็งแกร่ง โดยเฉพาะภาคการผลิตสหรัฐฯเบื้องต้นพลิกกลับมาอยู่ในโซนขยายตัวในเดือน ส.ค. 68 (PMI > 50 จุด) ซึ่งดัชนี PMI MANUFACTURING อยู่ที่53.3ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 39 เดือน อีกทั้งประธาน FED สาขาแคนซัสซิตีแสดงความไม่มั่นใจเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. จากความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ยังเสี่ยงดีดตัวขึ้น

อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากมาตร TARIFF ต่อเงินเฟ้ออาจมีโอกาสผ่อนคลายลง หลังล่าสุดสหรัฐฯ – ยุโรป บรรลุข้อตกลงทางการค้าได้แล้ว โดยหลักๆ สหรัฐฯ เก็บภาษี 15% กับสินค้านำเข้าจาก EU ส่วนใหญ่ (รถยนต์ ยา ชิป ไม้แปรรูป)ซึ่งลดลงจากที่เคยขู่ไว้ที่ 250% แลกเปลี่ยนกับ EU เพิ่มการซื้อพลังงานและชิป รวมถึงลงทุนเพิ่มเติมในสหรัฐฯ

ซึ่งคาดว่าสหรัฐฯ จะได้ประโยชน์ชัดเจนจากส่งออกพลังงาน, เทคโนโลยี (AI/ชิป), และเกษตรกรรม ส่วน EU ได้ลดแรงกดดันภาษี (รถยนการต์ ยา ชิป) แต่ยังเสียเปรียบด้านการพึ่งพาพลังงานและเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ขณะที่ในมุมSENTIMENT ต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มยานยนต์ พลังงาน และเทคโลยี อาทิ HANA,
KCE, DELTA, ASML01, NVDA01, NVDA19, NVDA80, AMD80 เป็นต้น

น้ำมันปิโตร-โรงกลั่นแข็งแกร่ง ผลักดัน SET และมี MOMENTTUM ไปต่อ
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลง0.27% ปิดตัวระดับ 1244.79จุด แต่ได้แรงหนุนหลักจากกลุ่มหุ้นปิโตรฯ-โรงกลั่นเป็นหลัก PTTGC +14.75% IVL +9.30% SCC +5.09% ซึ่งปีจจัยหนุนกลุ่มหุ้นปิโตรเคมีมีอยู่ 2 ปัจจัย ดังนี้
เกาหลีใต้ลดผลิตปิโตรเคมี: รัฐบาลเกาหลีใต้ ประกาศแผนสำหรับบริษัทปิโตรเคมี 10 แห่งของประเทศ โดยการปรับโครงสร้าง และการปรับลดกำลังการผลิตแนฟทา (NAPHTHA) ลง 2.7–3.7 ล้านตัน ต่อปี (1–1.2% ของโลก) ซึ่งไทยส่งออกเกาหลีใต้
จีนเตรียมปฏิรูปอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและการกลั่นน้ำมัน : โดยจะทยอยปิดโรงงานขนาดเล็กและบังคับให้โรงงานเก่าปรับปรุงประสิทธิภาพ (ระยะเวลาเกิดภายใน 1 เดือน) เพื่อเร่งเลิกสายการผลิตเก่า ลดการแข่งขัน และนำโครงสร้างพื้นฐานไปใช้สร้างไลน์ผลิตใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ซึ่งไทยสัดส่วนการส่งออกกลุ่มสินค้าปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติกไปจีน-เกาหลีใต้ มีมูลค่าสูงสุดในอันดับ TOP10 จึงทำให้หุ้นอย่าง IVL PTTGC SCC มีโอกาสได้รับ SENTIMENT บวกและเพิ่ม UPSIDE ต่อประมาณการในอนาคต บวกกับ VALUATION ยังถูก (DEEP VALUE) หลายบริษัทซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (P/BV < 1)จึงถือ
เป็นโอกาสสะสม

แม้มี 2 คดีเปลี่ยนฉากการเมืองไทย แต่สถิติบ่งชี้ว่า SET เตรียมดีดเด้ง
วานนี้ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวน "คดีคลิปเสียง" ของ "แพทองธาร ชินวัตร" กับ "ฮุน เซน" ซึ่งกระบวนการจะไปสิ้นสุด ณ 29 ส.ค. 68 รอฟังคำวินิจฉัยและประกาศผลโดยศาลรัฐธรรมนูญ ส่วน 22 ส.ค.2568 ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษา "คดีมาตรา 112" กรณีกล่าวหา "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ หลังให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี2558ซึ่งกล่าวได้ว่า ปลายเดือนสิงหาคม 2568 เป็น “โค้งชี้ชะตาทางการเมืองและคดีความ” ของทั้งพ่อ-ลูกตระกูลชินวัตรและอาจเห็นความเสี่ยงการยุบพรรค-ยุบสภา และทำให้กระบวนการทางการเมืองชัดเจนขึ้นไปอีกระดับ

โดยสถิติหุ้นมักค่อยๆ ขึ้น หลังเหตุการณ์ศาลตัดสินผู้นำ โดยหลังศาลตัดสินผู้นำ SET INDEX มักขึ้นแรงเฉลี่ยระดับ10.3% ใน 2 เดือนหลังจากนั้น(ทั้งตอนคุฯพิธา และคุณเศรษฐา)

ซึ่งผลตอบแทนเฉลี่ยราย SECTOR หลังศาลตัดสินผู้นำปี 2023 และ 2024 ที่เป็นกลุ่ม OUTPERFORM SET คือกลุ่ม FIN(JMT SAWAD MTC KTC) ETRON(CCET HANA DELTA KCE) MEDIA(PLANB) CONS(CK)COMM(CRC CPALL) PROP(AP SPALI AMATA WHA) ICT(TRUE ADVANC) เป็นต้น

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์