สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 21 สิงหาคม 2568)------บมจ. เอส.ซี.แอล. มอเตอร์ พาร์ท (SCL) ผู้นำธุรกิจศูนย์อะไหล่รถยนต์ โชว์ผลงานครึ่งแรกปี 2568 แข็งแกร่ง กำไรสุทธิโต 8.71% รับแรงหนุนจากดีมานด์รถยนต์สะสมในประเทศ และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ เดินหน้าครึ่งปีหลังเร่งขยายพอร์ต ลุยตลาดอะไหล่ EV และปั้นสินค้า House Brand เสริมศักยภาพการแข่งขัน หนุนเป้ารายได้ปีนี้แตะ 2,000 ล้านบาทตามแผน ขณะที่ภาพรวมตลาดยังสดใส จากจำนวนรถสะสมในประเทศที่เพิ่มขึ้นทุกปี สะท้อนความต้องการอะไหล่เพื่อซ่อมบำรุงที่ยังเติบโตต่อเนื่อง
นายสกล ตั้งก่อสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส.ซี.แอล. มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SCL ผู้นำศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์อะไหล่รถยนต์ที่ครอบคลุมค่ายรถยนต์ชั้นนำในประเทศไทย เปิดเผยถึงภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ว่า SCL มีกำไรสุทธิ 11.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการขาย 450.93 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อย 0.87% แต่ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นและการดำเนินงานได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะยอดขายในกลุ่มอะไหล่ทดแทน (Replacement Parts) ที่เติบโตตามความต้องการของผู้ใช้รถที่หันมาซ่อมบำรุงรถคันเดิม ท่ามกลางภาวะสินเชื่อรถใหม่ที่ยังคงเข้มงวด
ส่งผลให้ภาพรวมครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 24.56 ล้านบาท เติบโต 8.71% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการขายรวม 922.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.82% ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดรถยนต์สะสมในประเทศ และประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายทางการเงิน
SCL ยังตอกย้ำจุดแข็งในฐานะศูนย์รวมจำหน่ายอะไหล่รถยนต์รายใหญ่ของประเทศ ด้วยสินค้ามากกว่า 190,000 รายการ จากแบรนด์ชั้นนำกว่า 50 แบรนด์ พร้อมเดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารคลังสินค้าและเครือข่ายการจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งนี้ บริษัทยังลงทุนพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน เช่น โครงการ Solar Rooftop, ระบบคลังสินค้าอัจฉริยะ และการดำเนินงานตามกรอบ ESG
สำหรับครึ่งปีหลัง SCL วางเป้าหมายเร่งขยายตลาดในกลุ่มอะไหล่รถยนต์ EV และพัฒนาสินค้า House Brand เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว พร้อมรักษาเป้ารายได้ปี 2568 ที่ 2,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 15% จากปีก่อน ตามแผนที่วางไว้
"ภาพรวมครึ่งปีแรกมีดีมานด์อะไหล่รถยนต์เข้ามาต่อเนื่อง จากรถยนต์สะสมในประเทศกว่า 20 ล้านคัน ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มรถอายุเกิน 5–7 ปี ที่ความต้องการซ่อมแซมยังเพิ่มขึ้นอย่างไรก็ดี บริษัทได้มีการติดตั้งระบบการจัดการภายในศูนย์กระจายสินค้าให้ทันสมัย ทำให้ภาพรวมรายได้ในครึ่งปีแรกอาจยังโตไม่เต็มที่นัก แต่มองครึ่งปีหลังเราพร้อมเดินหน้ารุกตลาดอะไหล่รถยนต์ในทุกมิติ เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกับมองหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ" นายสกล กล่าว