Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

69

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 19 ส.ค.68 ปิด -6.55 จุด อยู่ที่ 1,235.76 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,590 ลบ. สถาบันขาย 1,092 ลบ. ต่างชาติขาย 416 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 46 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,462 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 101 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น KBANK,KTB,TRUE,PTTEP,SCB และยอดขายหุ้น ADVANC,CPALL,CPF,BDMS,HMPRO มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,595 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TDEX,CPAXT,PSL โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 603 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 108,745 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,009 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ+0.02%, S&P500 -0.59%, Nasdaq -1.46% ถูกแรงขายจากกลุ่มเทคโนโลยี -1.88%, บริการสื่อสาร -1.16% ขณะที่กลุ่มอสังหาฯ +1.8%, สินค้าอุปโภค +1% โดย DJIA ได้แรงหนุนจาก Home Depot +3.17% หลังคงคาดการณ์รายได้ปีนี้ไว้ที่ระดับเดิม ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.69% ได้แรงหนุนจากกลุ่มยานยนต์ +2.4%, อาหาร & เครื่องดื่ม +1.6% จากความหวังเชิงบวกต่อข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย – ยูเครน
  • Market View
  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ Nasdaq -1.46% หลัง CEO OpenAi ออกมาเตือนเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในอุตสาหกรรม Ai ส่งผลให้กลุ่มเทคโนโลยี & บริการสื่อสารปรับลดลง นำโดย Nvidia -3.5% กอปรนักลงทุนยังรอฟังถ้อยแถลงของ ปธ.เฟด ในงานประชุมประจำปีของเฟดที่แจ็คสัน โฮลในวันศุกร์นี้ ว่าจะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยหรือไม่ ซึ่ง CME FedWatch ชี้มีโอกาส 86.1% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 17 ก.ย.ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ติดตาม Fed Minutes ก.ค., ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, PMI ภาคผลิต & บริการสหรัฐ ส.ค., ยอดขายบ้านมือสอง ก.ค. และผลการประชุมที่แจ็คสัน โฮล วันที่ 21 – 23 ส.ค.
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับขึ้น นำโดยกลุ่มยานยนต์, อาหาร & เครื่องดื่ม และสินค้าหรูหรา ขณะที่กลุ่มป้องกันประเทศ -2.6% หลังนักลงทุนมีความหวังเชิงบวกต่อการเจรจาข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย – ยูเครน และรอการประชุม 3 ฝ่าย รัสเซีย ยูเครน และสหรัฐ เพื่อหาข้อสรุปของแผนสันติภาพ ส่วนข้อมูลเศรฐกิจวันนี้ติดตาม CPI อังกฤษ ก.ค. คาด 3.7% & มิ.ย. 3.6% YoY, CPI ยูโรโซน ก.ค. คาด 2.0% ทรงตัว YoY
  • ตลาดหุ้นเอเขียวานนี้ดัชนีนิเกอิ -0.38% จากแรงขายกลุ่มธนาคาร, ประกันภัย และยังรอผลการประชุม ธ.กลางที่แจ็คสัน โฮล ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.02%,ดัชนีฮั่งเส็ง -0.21% หลัง NBS ของจีนเผยอัตราว่างงานในกลุ่มอายุ 16- 24 ปีในเขตเมือง ก.ค. เพิ่มขึ้น +17.8% & มิ.ย. +14.5% สูงสุดในรอบ 11 เดือน โดยข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ ธ.กลางจีนคงดอกเบี้ย LPR 1 ปี, 5 ปี ที่ 3.0% และ 3.5% ตามลำดับ  และวันศุกร์ติดตามข้อมูล CPI ญี่ปุ่น ก.ค.
  • SET -0.53% ปริมาณการซื้อขาย 95 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 1,092 ลบ. ต่างชาติขาย 416 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 46 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,462 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มปิโตเคมี, บรรจภัณฑ์, วัสดุก่อสร้าง หลังข้อมูลอัตราว่างงานของคนอายุ 16 – 24 ปีของจีน ก.ค. ปรับขึ้น +17.8% & มิ.ย. +14.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวช้า ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่ม Global Play และ Cyclical ของไทยที่พึ่งพาอุปสงค์จากจีน ขณะที่กลุ่มพลังงาน -1.10% ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ จากความหวังเชิงบวกต่อการเจรจาสันติภาพรัสเซีย – ยูเครน และกลุ่มอิเล็ก ฯ -0.97% ระหว่างรอถ้อยแถลงของ ปธ.เฟดในวันศุกร์นี้ ว่าจะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยใน ก.ย. หรือไม่ ดังนั้นนักลงทุนจึงเลือก Wait & See และรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยวันที่ 22 ส.ค.ศาลอาญานัดฟังคำตัดสินคดี 112 ของคุณทักษิณ และวันที่ 29 ส.ค. ศาล รธน.นัดฟังคำตัดสินคดีคลิปเสียงของนายก ฯ กับฮุนเซน ว่าจะเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานด้านจริยธรรมหรือไม่

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,220 – 1,230 แนวต้าน 1,240 – 1,250 คาดดัชนีมีโอกาสทรงตัว รอผลการประชุม ธ.กลางที่แจ๊คสัน โฮล ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยหรือไม่ และความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศ ดังนั้นจึงแนะนำทยอยซื้อ GULF,GPSC,SAWAD,TIDLOR,NCAP,THANI ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และพักเงินในกลุ่มอาหาร เช่น CPF,GFPT,ITC ที่เป็นกลุ่มปลอดภัย
  • GPSC* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 40.25 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q68 ที่ 2 พันล้านบาท +77%QoQ, +41%YoY โดยกำไรปกติ 7 พันล้านบาท +44%QoQ, +21%YoY หนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม หลักๆ จากโครงการ CFXD ที่รับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน โรงไฟฟ้า XPCL ที่ผลประกอบการดีขึ้นตามปริมาณน้ำ และ AEPL ดีขึ้นจากรายการภาษี ขณะที่กำไรขั้นต้นจากการดำเนินงานหลักได้รับผลกระทบการลดลงของค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้า IPP และการสิ้นสุดสัญญาของโรงไฟฟ้า SPP บางแห่ง ความต้องการใช้ไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมลดลง รวมถึงค่า Ft ที่ลดลง ส่วนแนวโน้ม 3Q68 ดีต่อเนื่องมีปัจจัยบวกจากผลการดำเนินงานของ AEPL ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นและกำไรพิเศษจากการขายหุ้นออกไปบางส่วน (3.03%) รวมถึงการผลิตไฟฟ้า Hydro เป็น high season ชดเชยค่า Ft ในรอบ ก.ย.-ธ.ค.68 ที่ลดลงเล็กน้อย ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 4.6 พันล้านบาท +13%YoY และ 5.1 พันล้านบาท +11%YoY
  • AWC* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Median Consensus 2.90 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 1,404 ลบ.(+13%YoY, -29%QoQ) หนุนด้วยกำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงรายได้ธุรกิจโรงแรมที่สูงขึ้น YoY ส่วนการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะได้แรงหนุนจาตามฤดูกาล มีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากมาตรการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” นอกจากนี้ การเปิด Jurassic World: The Experience ธีมพาร์คของโครงการ เอเชียทีค ก็มีกระแสตอบรับที่ดี ปัจจุบัน IAA Consensus(Median) คาดกำไรสุทธิปี68 และ69 ของ AWC* ที่ 5,972 ลบ.(+2%YoY) และ 6,268 ลบ.(+5%YoY) ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ก.ย.-$1.07 อยู่ที่ $62.35 / บาร์เรล, Brent ต.ค. -$0.81 อยู่ที่ $65.79/บาร์เรล หลังตลาดคาดหวังเชิงบวกต่อการเจรจาข้อตกสันติภาพรัสเซีย – ยูเครน ส่งผลให้สหรัฐอาจจะยังไม่ใช้ ม.ภาษีกับประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่ API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 2.4 ล.บาร์เรล

 

Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$19.30 อยู่ที่ $3,358.70 /ออนซ์ ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า +0.10% อยู่ที่ 98.265 และรอฟังถ้อยแถลงของ ปธ.เฟด วันศุกร์นี้ในการประชุมที่แจ็คสัน โฮล ว่าจะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยหรือไม่

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +18.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -12.80 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +53.16 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -21.41 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 32.58 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.31 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -58 จุด อยู่ที่ 1,964

(-) BitCoin เช้านี้ -2.06% อยู่ที่ 113,408 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

18 ส.ค.     สภาพัฒน์ แถลง GDP ไตรมาส 2/68

19 ส.ค.     ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม  

27 ส.ค.     รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ

29 ส.ค.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สัปดาห์ที5 สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

 

ต่างประเทศ

20 ส.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ก.ค.)

21 ส.ค.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US รายงานการประชุมของ FOMC 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ส.ค.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ส.ค.) 

                US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( ก.ค.)

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio August 2025: KLINIQ, CPN*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้