Equality for All
BCP : บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น
2H25 คาดฟื้นตัวกว่าครึ่งปีแรก หลัก ๆ มาจากรายการพิเศษที่ไม่มากเท่า : สรุปได้ดังนี้
โรงกลั่น คาดกำลังการกลั่นรวมคาดจะเพิ่มขึ้นหลังโรงกลั่นศรีราชากลับมาผลิตตามปกติหลังจากไตรมาสก่อนหน้ามีชะลอการกลั่นเพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพหน่วยกลั่นเพื่อให้สามารถผลิตน้ำมันดีเซลได้เพิ่มขึ้น คาดว่าปริมาณการผลิตในครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นราว 10-12% จากในครึ่งปีแรก และในส่วน GRM คาดจะดีขึ้นกว่าในครึ่งปีแรกเช่นกันจากส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น ขณะที่ในส่วนการใช้เรือขนาด VLCC เพื่อขนน้ำมันนั้น อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากกรมเจ้าท่าซึ่งคาดจะเริ่มใช้ในช่วงครึ่งปีหลัง และจะช่วยให้ต้นทุนลดลงราว 0.35-0.45 เหรียญ/ บาร์เรล
ธุรกิจการตลาด ปริมาณขายน้ำมันสำเร็จรูปคาดจะเพิ่มขึ้นราว 2-3% จากในครึ่งปีแรกจากยอดขายน้ำมันอุตสาหกรรม ประกอบกับการเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว
ธุรกิจชีวภาพ คาดปริมาณขายน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 20% จากในครึ่งปีแรกโดยเฉพาะกลุ่มเอทานอล ส่วนไบโอดีเซลคาดยังได้รับผลจากสต็อกจำนวนมาก
ธุรกิจไฟฟ้า คาดการดำเนินงานจะดีขึ้นทั้งจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว และการปรับราคาขายไฟในสหรัฐเพิ่มขึ้นจากโครงการที่ไปลงทุน
ทรัพยากรธรรมชาติ การดำเนินงานทรง ๆ ถึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากคาดจะได้ปัจจัยหนุนจากราคาก๊าซที่เพิ่มขึ้น แต่หากราคาน้ำมันอาจปรับลง ขณะที่ปริมาณขายเพิ่มขึ้นไม่มากหากเทียบกับในครึ่งปีแรก
อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่ออกมาต่ำกว่าคาดมากส่วนหนึ่งจากรายการพิเศษที่เกิดขึ้นทำให้เราปรับลดประมาณการลง 63% จากเดิม ภายใต้
โรงกลั่น GRM 5.03 เหรียญ/ บาร์เรล
ธุรกิจการตลาด คาดปริมาณขายน้ำมันเพิ่ม +5% y-y เป็น 1,210 ล้านลิตร/ วัน ค่าการตลาด 0.88 บาท/ ลิตร
ธุรกิจไฟฟ้า คาดปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นตามโรงไฟฟ้าใหม่ที่จะเข้ามาทั้งที่เวียดนาม และลาว
ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ คาดปริมาณขาย 39 KBOED
เราปรับกำไรสุทธิลงเหลือ 2,451 ลบ. และจากการปรับลดประมาณการลงทำให้เราปรับราคาเหมาะสมลงเหลือ 36.00 บาท/ หุ้น
ประเด็น TTCL บอกเลิกสัญญาออกแบบกับโครงการพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างยั่งยืน (SAF) : TTCL แจ้งบอกเลิกสัญญาออกแบบโครงการ SAF เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2025 ที่ผ่านมา โดย BCP ชี้แจงว่าปัจจุบันอยู่ในกระบวนการตามกฎหมายแล้วอาจไม่สามารถให้ข้อมูลได้ แต่ความคืบหน้าโครงการได้ผ่านระดับ 98% แล้วหยุดลง และทาง BCP มีการเรียกคืนเงินประกันมาแล้วและอยู่ระหว่างสรรหาผู้รับเหมารายใหม่เข้ามาแทน ถึงจะบอกได้ว่าจะ COD ได้เมื่อไหร่
SAF เป็นโครงการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนซึ่งจะผลิตจากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว ตามแผนเดิมจะมีกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรล/ วัน และจะเริ่ม COD 4Q25 ด้วยเงินลงทุนทั้งสิ้น 8,500 ลบ. เรามองว่าจากปัญหาที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของโครงการจากเดิมที่ล่าช้าอยู่แล้วจะยิ่งล่าช้าออกไป อย่างไรก็ดี SAF ยังไม่ได้อยู่ในประมาณการ
ครึ่งปีหลังพอเก็งกำไรได้
“ระยะสั้นราคาหุ้นถูกกดดันจากปัญหาโครงการ SAF ที่มีผลกระทบที่ทำให้การเริ่มต้นอาจช้ากว่าแผนไปมาก แต่ในเชิงผลการดำเนินงานนั้น เราคาดว่าครึ่งปีหลังจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งโดยเฉพาะจากกลุ่มโรงกลั่น และโรงไฟฟ้าที่จะกลับมาฟื้นตัว
กลยุทธ์การลงทุนยังคงแนะนำ ซื้อเก็งกำไรตามการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน และ GRM ที่ดีขึ้น”
นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th