BTSGIF : แนวโน้มเงินปันผลแข็งแกร่งแม้ค่าโดยสารจะผันผวน

รายได้จากการลงทุนสุทธิเติบโต YoY แต่ลดลง QoQ
BTSGIF รายงานกำไรสุทธิ 475.7 ล้านบาทใน 1Q25/26 เพิ่มขึ้น 16% YoY และพลิกกลับมาขาดทุนสุทธิ 2.36 พันล้านบาทใน 4Q24/25 กองทุนบันทึกผลขาดทุนจากการลงทุนสุทธิ 600 ล้านบาทในไตรมาสนี้ ซึ่งสะท้อนถึงระยะเวลาสัมปทานที่เหลือที่สั้นลง หากไม่รวมผลขาดทุนนี้ รายได้จากการลงทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 12% YoY แต่ลดลง 13% QoQ

ต้นทุนที่ลดลงช่วยหนุน YoY แต่จำนวนผู้โดยสารที่ลดลงส่งผลต่อ QoQ
รายได้จากการลงทุนสุทธิที่เพิ่มขึ้น YoY เป็นผลมาจากรายได้จากการลงทุนใน NRTA ที่เพิ่มขึ้น 12% ซึ่งได้รับแรงหนุนจากต้นทุนการดำเนินงานและการบำรุงรักษาที่ลดลง 25% แม้ว่าจำนวนผู้โดยสารจะลดลง 3% เหลือ 46.4 ล้านเที่ยว ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง กำไรลดลง QoQ เนื่องจากรายได้จากสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า (NRTA) ลดลง 13% ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ค่าโดยสารที่ลดลง 7.6% (เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารลดลง 10.9% จากระดับที่สูง QoQ ในช่วงการเดินทางฟรีระหว่างวันที่ 25-31 มกราคม) และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบำรุงรักษาที่เพิ่มขึ้น 8% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายพนักงานที่เกี่ยวข้องกับโบนัส

คาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจที่ 30.5% สำหรับปีงบประมาณ 2025/26F
เนื่องจากยังมีขาดทุนสะสม BTSGIF จึงประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับ 1Q25/26 ที่ 0.20 บาทต่อหน่วย โดยจะจ่ายผ่านการลดทุน วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผลคือวันที่ 25 สิงหาคม และกำหนดจ่ายในวันที่ 10 กันยายน สำหรับปีงบประมาณ 2025/26 คาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 0.816 บาทต่อหน่วย ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลโดยประมาณที่ 30.5% สำหรับนโยบายค่าโดยสารคงที่ 20 บาทของรัฐบาลที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ BTSC (ผู้ดำเนินการ) และ BTSGIF กำลังอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับผลกระทบในทางลบ หากมีความคืบหน้าใดๆ กองทุนจะแจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบเพื่อพิจารณาและอนุมัติโดยเร็ว

คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BTSGIF โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 3.40 บาท
เรายังคงประมาณการและมูลค่าที่เหมาะสมที่คำนวณจากวิธี DCF ที่ 3.40 บาท โดยใช้ WACC ที่ 9.6% อัตราผลตอบแทนที่ปราศจากความเสี่ยงที่ 3.2% และเบี้ยประกันความเสี่ยงที่ 6.4% ด้วยศักยภาพในการเติบโตที่ 21% และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 30.5% เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”