วันวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้นในช่วงแรก มีแรงซื้อมาในหุ้น THAI ปรับตัวขึ้นสูงสุดถึง 19.40 บาท หรือ +20% โดยปิดตลาดที่ 17.80 บาท +1.70 หรือ +11% ส่งผลต่อดัชนี +3.8 จุด แต่มีแรงขายในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน ธนาคารเป็นต้น ทำให้ดัชนีอ่อนตัวลง หลังจากที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า นักลงทุนติดตามผลประกอบการงวด 2Q68F ที่ทยอยประกาศ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,266.67 จุด -10.76 จุด -0.84% มูลค่าการซื้อขาย 56,939 ลบ. Program Trading -248.62 ลบ. ต่างชาติ -549.67 ลบ. TFEX +228 สัญญา ตราสารหนี้+16 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ หรือ 2.09% ปิดที่ 63.96 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากมุมมองบวกที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า และการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตือนว่ารัสเซียจะเผชิญกับผลลัพธ์ที่รุนแรง หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ปฏิเสธการทำข้อตกลงเพื่อยุติสงครามในยูเครน
+ สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 3.3%YoY ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5%YoY จากระดับ 2.4%YoY ในเดือนมิ.ย.
+ญี่ปุ่นเผย GDP โตเกินคาด 1% ใน 2Q68 ขยายติดต่อกัน 5 ไตรมาสและแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 0.4% แม้เศรษฐกิจถูกกระทบจากภาษีทรัมป์ โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของการลงทุนด้านทุน (capital investment)
+ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลการใช้สิทธิ FTA ในช่วงเดือนมกราคมพฤษภาคม ปี 2568 มีมูลค่าการใช้สิทธิภายใต้ความตกลง FTA รวม 37,314.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิ 79.39% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ได้รับสิทธิเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 8.60%

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 11.01 จุด หรือ -0.02% หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าการประชุมที่กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียที่รัฐอะแลสกาในสหรัฐฯ มีโอกาสราว 25% ที่จะไม่ประสบความสำเร็จ
- รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลกล่าวว่าได้ทำการทบทวนปฏิบัติการทางทหารในการเข้ายึดกาซา ซิตี้ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการเตรียมความพร้อมในการใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในฉนวนกาซานับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้นในเดือนต.ค.2566
- ผลสำรวจของสมาคมนักลงทุนรายย่อยอเมริกัน (AAII) พบว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่เชื่อมั่นต่อทิศทางของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในระยะ 6 เดือนข้างหน้า โดยมีจำนวน 46.2% เพิ่มขึ้นจากระดับ 43.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ 31.0% -สมาคมโรงแรมไทยเปิดเผยผลส ารวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน ก.ค.2568 พบว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 58% ปรับขึ้นจากเดือน มิ.ย. ที่ 52% เป็นผลจากช่วงปิดเทอมฤดูร้อนของหลายประเทศในยุโรปที่หนุนให้เกิดการเดินทางเข้ามาในไทยมากขึ้น โดยมีแนวโน้มเดือน ส.ค. ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 56%

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสพักตัว หลังสิ้นสุกการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนยังติดตามศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,260-1,270 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
- เที่ยวไทยคนละครึ่ง : AWC MINT ERW CENTEL SHR
- หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการที่ก.ล.ต.เตรียมเปิด Sandbox ให้ชาวต่างชาตินำคริปโตแลกเงินบาทนำมาใช้จ่ายธนาคาร KBANK SCB BAY โรงแรม MINT CENTEL ERW AWC สายการบิน AAV BA บันเทิง MAJORค้าปลีก CPALL CPAXT หุ้นคริปโต JTS BTC XPG ZIGA
-หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการภาษีที่ต่ำกว่า 36% : AMATA WHA ROJNA TU ITC AAI HANA KCE DELTA
- MSCI ปรับน้ำหนักวันที่ 26 ส.ค. : MSCI Thailand เข้า - ออก HMPRO, OR MSCI Global Small Capเข้า KTC, HMPRO ออก ICHI, SISB, TPIPL
-หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : SAWAD TIDLOR THANI NCAP SAK