EKH : การดำเนินงานยังคงอ่อนแอ

กำไรหลักลดลงจากรายได้และอัตรากำไรที่อ่อนแอ
บริษัท เอกชัยการแพทย์ (EKH) รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2025 อยู่ที่ 47.1 ล้านบาท ลดลง 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 22% จากไตรมาสก่อนหน้า หากไม่รวมผลกระทบจาก KLINIQ ในไตรมาส 2 ปี 2024 กำไรหลักลดลงถึง 29% YoY โดยทั้งโรงพยาบาลเอกชัยและธุรกิจ IVF เผชิญแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่อ่อนแอ เราคาดว่าจำนวนผู้ป่วยชาวจีนจะยังคงลดลงต่อเนื่องตลอดปี 2025

ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชัยและ IVF ยังอ่อนแอ
รายได้จากโรงพยาบาลลดลง 11% YoY โดยสาเหตุหลักมาจากความอ่อนแอของโรงพยาบาลเอกชัยและธุรกิจ EKI-IVF อัตราการเข้าพักของโรงพยาบาลเอกชัยลดลงเหลือ 50% ในไตรมาส 2 ปี 2025 จาก 65% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยลดลงทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจ IVF ลดลง 23% YoY เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยชาวจีนลดลงจากความกังวลด้านความปลอดภัยที่เกิดจากกรณีลักพาตัวล่าสุด ในทางกลับกัน รายได้จากโรงพยาบาลคูนเพิ่มขึ้น 14% YoY ในไตรมาส 2 ปี 2025 โดยได้รับแรงหนุนจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น

อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) แคบลง YoY
GPM ในไตรมาส 2 ปี 2025 อยู่ที่ 38.1% ลดลงจาก 42.8% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยใน (IPD) ที่ลดลงจาก 51% ในไตรมาส 2 ปี 2024 เหลือ 50% ในไตรมาส 2 ปี 2025 ขณะที่ SG&A ต่อรายได้ลดลงจาก 22% ในไตรมาส 2 ปี 2024 เหลือ 19.9% ในไตรมาส 2 ปี 2025 ซึ่งน่าจะสะท้อนถึงค่าใช้จ่ายด้านการขายที่ลดลงในธุรกิจ IVF

โครงการซื้อหุ้นคืนสิ้นสุดลง
เราคาดว่าการสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืนของ EKH (ระหว่างวันที่ 13 มกราคม 2025 ถึง 11 กรกฎาคม 2025 คิดเป็น 6.5% ของทุนจดทะเบียน) จะส่งผลให้ราคาหุ้น EKH อ่อนตัวหลังจากสิ้นสุดโครงการ (EKH -7.2% ตั้งแต่ต้นปี เทียบกับ SETHELTH -13% และ SET
-8.7%) ฝ่ายบริหารยังคงเปิดโอกาสในการออกหุ้นใหม่เพื่อรองรับโครงการควบรวมกิจการ (M&A) ในอนาคต เราแนะนำให้ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 7.90 บาท