Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

104

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 8 ส.ค.68 ปิด -6.08 จุด อยู่ที่ 1,259.33 จุด มูลค่าการซื้อขาย 51,232 ลบ. สถาบันขาย 1,929 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 246 ลบ. ต่างชาติซื้อ 105 ลบ. และรายย่อยซื้อ 070 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 1,121 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น THAI,KBANK,KTB,HMPRO,BH และยอดขายหุ้น CPALL,BDMS,KTC,AOT,ADVANC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,951 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HK01,HKCE01,TDEX โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 12,291 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 107,970 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 440 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ +1.10%, S&P500 +1.13%, Nasdaq +1.39% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสื่อสาร +1.8%, เทคโนโลยี +1.4% นำโดย Alphabet +1.2% และ Intel +5.6% หลัง CEO ของ Intel ได้หารือกับ ปธน.ทรัมป์ในกรณีผลประโยชน์ทับซ้อนกับจีน ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.21% ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน +1.5% นำโดย Vestas Wind System +4.7% ตอบรับค่ำสั่งซื้อจากสหรัฐ ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยี -2.1%
  • Market View
  • DJIA +1.3%, S&P500 +2.4%, Nasdaq +3.9% WoW โดย Nasdaq ทำ New High +11% YTD ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี & บริการสื่อสาร หลัง Apple ปรับขึ้นรับข่าวการลงทุน 1 แสน ล.ดอลลาร์ในสหรัฐ ส่งผลให้ได้รับการยกเว้นภาษีการนำเข้าชิปจากต่างประเทศ และได้ปัจจัยหนุนจากรายงานกำไร Q2/68 ของบจ. 450 แห่งใน S&P500 +13.2% สูงกว่าเดิมคาด +5.8% YoY ขณะที่วานนี้ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับขึ้น หลังข้อมูล US CPI ก.ค. +2.7% ต่ำกว่าคาดที่ +2.8% YoY ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดมีโอกาส 98% จะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. กอปรกับสหรัฐได้ขยายข้อตกลงการค้ากับจีนต่ออีก 90 วัน สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล US PPI, ยอดค้าปลีก, การผลิตภาคอุตสาหกรรม ก.ค., ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, เฟดนิวยอร์ครายงานดัชนีภาคการผลิต ส.ค. และม.มิชิแกนรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เบื้องต้น ส.ค.
  • Stoxx600 ยุโรป +2.2% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร หลังรายงานกำไร Q2/68 ของบริษัท 198 แห่งใน Stoxx600 มีกำไร +4.8% สูงกว่าคาดที่ +3.1% YoY ขณะที่ BOE อังกฤษมีมติ 5 – 4 ลดดอกเบี้ยลง 25% อยู่ที่ 4.0% แต่ยังกังวลเงินเฟ้ออังกฤษ มิ.ย. ปรับสูงขึ้น ส่วนดัชนีหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน และรอผลการหารือระหว่าง ปธน.ทรัมป์กับเซเลนสกีในช่วงค่ำวันนี้ ก่อนที่ ปธน.ทรัมป์จะเจรจากับ ปธน.ปูตินในวันที่ 15 ส.ค. เพื่อยุติสงครามในยูเครน สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล GDP Q2/68 ของยูโรโซน, อังกฤษ
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ปรับขึ้น นำโดยดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.50%, ฮั่งเส็ง +0.25% หลัง ปธน.ทรัมป์ได้ขยาย ม.ผ่อนผันทางภาษีนำเข้าสินเข้าจีนออกไปอีก 90 วัน จนถึงวันที่ 10 พ.ย. ซึ่งช่วยความเสี่ยงที่สินค้าจีนจะถูกเก็บภาษีที่ 145% และสินค้าสหรัฐที่ 125% ขณะที่ดัชนีนิเกอิวานนี้ +2.15% หลังคลายความกังวลต่อ ม.ภาษีของสหรัฐ วันนี้ติดตามข้อมูล PPI ญี่ปุ่น ก.ค., วันศุกร์ GDP Q2/68 ของญี่ปุ่น และยอดปล่อยสินเชื่อ, ยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุต ฯ, ราคาบ้าน, อัตราว่างงานของจีน ก.ค.
  • SET +3.34% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 48 หมื่น ลบ. +2.18% WoW ต่างชาติซื้อ 6,453 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 157 ลบ. สถาบันขาย 79 ลบ. และรายย่อยขาย 6,531 ลบ. WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มขนส่ง +10.5% WoW นำโดย THAI ปรับขึ้นหลังผ่านแผนฟื้นฟูกิจการ และกลับเข้าซื้อขายใน ตลท.อีกครั้ง ส่งผลให้ Market Cap.ของ THAI ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.16 แสน ลบ. ซึ่งมีโอกาสถูกนำเข้าคำนวณดัชนี SET50 ในช่วงต้นปีหน้า ขณะที่ รพ. +6.5% WoW นำโดยกลุ่ม รพ.ขนาดใหญ่ที่คาดกำไรในช่วง Q2/68 ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และกลุ่มไฟแนนท์ +5.3% WoW ตอบรับรายงานกำไร Q2/68 ของ MTC +5% QoQ, +14% YoY กอปรกับ NPL ลดลงอยู่ที่ 2.62% & Q1/68 ที่ 2.69% ส่วน KTC ก็ปรับขึ้นรับข่าวถูกนำเข้าคำนวณดัชนี MSCI Small Cap Index ในวันที่ 26 ส.ค. โดยสัปดาห์ก่อนตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP ได้แรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติซื้อสุทธิ +206 ล.ดอลลาร์ จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ขณะที่รายงานกำไร บจ.ของไทย 184 บริษัทที่ส่งงบแล้วมีกำไรดีกว่า BB.Consensus คาดไว้ +13.8% กอปรกับดัชนีราคาของ SET ยัง Underperform -10% YTD เมื่อเทียบกับดัชนีหุ้นอินโด ฯ +10% และดัชนีฟิลิปปินส์ -3.6% YTD ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูด Fund Flow ในระยะสั้น ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ คือ ผลการประชุม กนง.ว่าจะตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,250 แนวต้าน 1,270 คาดได้ปัจจัยหนุนจากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. กอปรกับสหรัฐ – จีนขยาย ม.ผ่อนผันการค้าอีก 90 วัน ส่งผลให้ภาวะสงครามการค้าลดลง แนะนำซื้อเก็งกำไร GULF,GPSC,KTC,TCAP,DIF,3BBIF จากโอกาสที่ กนง.จะลดดอกเบี้ยลงปีนี้อย่างน้อย 1 ครั้ง / ทยอยซื้อ BCPG, CKP คาดกำไร Q3/68 ยังขยายตัวได้ดี  
  • CKP* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 3.86 บาท) ผลประกอบการ 2Q68 มีกำไรสุทธิ 610 ล้านบาท +771%QoQ, +724%YoY โดยรายได้เติบโตจากปริมาณขายไฟฟ้าของโครงการ BIC ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจาก XPCL ที่เพิ่มขึ้น และ LPCL มี FX Gain จากเงินบาทแข็งค่า ส่วนแนวโน้ม 3Q68 คาดกำไร (Core net profit) เติบโตได้ QoQ จากปัจจัยฤดูกาลที่ส่งผลบวกต่อปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ ขณะที่ YoY จะไม่มีการหยุดผลิตไฟฟ้าของโครงการไซยะบุรีเหมือนปีก่อน ส่วนต้นทุนทางการมีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ตลาดคาดกำไรปี 68 ในระดับ 7 พันล้านบาท (+26%YoY)
  • ITC* (ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 15.59 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 696 ลบ.(-31%YoY, +3%QoQ) QoQ มีแรงหนุนในเชิง Volume ตามฤดูกาลและต้นทุนปลาทูน่าที่ปรับลดลง แต่ YoY กดดันจากรายได้ที่อ่อนตามบาทที่แข็งค่า(ถ้าเทียบยอดขายเป็น usd จะ +9%YoY), Product Mix ที่มีสัดส่วนสินค้าPremium ลดลง, และค่าใช้จ่ายที่ปรึกษา อย่างไรก็ตาม ปัจจัยกดดันอย่างภาษีทรัมป์มีความชัดเจนขึ้นส่งผลให้ความเสี่ยงลดลง ขณะที่การดำเนินงาน 3Q68 คาดว่าว่ารายได้ยังอยู่ในทิศทางที่ดีต่อจากยังเป็นฤดูกาลขาย ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ ITC* จะอยู่ที่ 3,018 ลบ.(-16%YoY) และ 3,346 ลบ.(+11%YoY)

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ก.ย.-$0.79 อยู่ที่ $63.17 / บาร์เรล, Brent ต.ค. -$0.51 อยู่ที่ $66.12/บาร์เรล จากความกังวลต่อความต้องการใช้น้ำมันจะชะลอตัวในช่วงฤดูการขับขี่ในช่วงฤดูร้อนของสหรัฐที่จะสิ้นสุดใน ก.ย. ซึ่งสะท้อนจากอุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลที่ลดลง ขณะที่ API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 1.5 ล.บาร์เรล และรอผลการเจรจาสันติภาพระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & ปูตินในวันศุกร์นี้

 

Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$5.70 อยู่ที่ $3,399.0 /ออนซ์ หลังข้อมูล US CPI ก.ค. +2.7% ต่ำกว่าคาดที่ +2.8% YoY ส่งผลให้นักลงทุนคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม ก.ย.

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +140.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +135.82 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +4.21 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 32.36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.302 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -21 จุด อยู่ที่ 2,017

(+) BitCoin เช้านี้ +0.73% อยู่ที่ 119,831 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

07 ส.ค.     ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์

13 ส.ค.     ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ครั้งที่ 4/2568

สัปดาห์ที3 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่น

หอการค้าไทย

 

ต่างประเทศ

07 ส.ค.     CN ดุลการค้า (ก.ค.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

12 ส.ค.     US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ( ก.ค.)

14 ส.ค.     US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ( ก.ค.)

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

15 ส.ค.     US ดัชนียอดขายปลีก ( ก.ค.)

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio August 2025: MONO*, PR9*, IVL*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*, BH

 

 

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ เยี่ยมชมกิจการ "SMO"

สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ เยี่ยมชมกิจการ "SMO"

บิ๊กแคป เขียว By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ชมบิ๊กแคป หลายตัว ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามแรงซื้อ ตามกระแสทุนนอกที่ยังคงไหล....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ ทอล์ค : PTG มุ่งสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุนทุกคน

หุ้นอินไซด์ ทอล์ค : PTG มุ่งสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุนทุกคน

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้