13 ส.ค. 2568 10:55:29 87
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 483 จุด (+1.1%) ขณะที่ Nasdaq และ S&P500 ปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังจากเงินเฟ้อสอดคล้องกับที่คาดหมายไว้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.7% กังวลอุปสงค์ชะลอลง
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อประจำเดือน ก.ค. พบว่าขยายตัว 2.7%YoY ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 2.8%YoY ปัจจัยกดดันยังคงมาจากราคาพลังงาน (Energy -1.6%YoY บ้ำมันเบนซิน -9.5%YoY) แต่อย่างไรก็ตามเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้า แต่นักลงทุนคล้ายกับว่าจะตอบรับเชิงบวกและมองในทางผ่อนคลาย สะท้อนผ่านการปรับลงของ US Bond Yield ด้านปัจจัยในประเทศวันนี้นักลงทุนจะไปให้น้ำหนักกับประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินที่จะทราบผลทางการในช่วง 14.00 ข้อมูลจาก Bloomberg Consensus เชื่อว่าที่ประชุมจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% โดยสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ราว 23 ท่าน พบว่าจำนวนเสียงราว 14 ท่านเชื่อว่าจะปรับลดดอกเบี้ยและอีก 9 ท่านเชื่อว่าจะคงดอกเบี้ยระดับเดิม จากข้อมูลข้างต้นพบว่าเสียงค่อนข้างก้ำกึ่งระหว่างลดกับไม่ลด ไม่ไปทางใดทางหนึ่งอย่างมีนัยยะ แต่ความเห็นเราเชื่อว่าจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% เนื่องด้วยเงินเฟ้อไทยที่ต่ำ (ล่าสุด -0.7%YoY) และมีแนวโน้มว่าจะติดลบต่อเนื่องเพราะราคาน้ำมันที่อยู่ระดับต่ำผสานกับค่าไฟฟ้าที่ปรับลง (FT) ประกอบกับเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่ำและในช่วงถัดไปมีแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำลงกว่าครึ่งปีแรกเพราะว่าส่งออกได้เร่งไปก่อนหน้าแล้ว ในขณะที่การท่องเที่ยวยังไม่มีสัญญาณเชิงบวกจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีน ข้อมูลล่าสุดพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่ช่วง 1 ม.ค. – 10 ส.ค. สะสมที่ 20.19 ล้านราย (-6.9%YoY) และหากพิจารณาเป็นรายสัปดาห์จะพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมขยายตัวเล็กน้อย 7%WoW โดยนักท่องเที่ยวจีนกลับมาขยายตัว 5%WoW มาเลเซียขยายตัว 11%WoW มองเป็นปัจจัยหนุนระยะสั้นเพราะหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนยังลดลง แต่อย่างไรก็ตามการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นปัจจัยหนุนต่อกลุ่มการเงิน (MTC SAWAD) ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ -0.9 ล้านบาร์เรล วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1250 – 1270 มีปัจจัยหนุนจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกหลังเงินเฟ้อต่ำกว่าคาดการณ์ แต่ยังเชื่อว่า Upside จำกัด ด้วยพื้นฐานไทยและ Valuation ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนจึงเน้นเพียงแค่การเก็งกำไรระยะสั้นพร้อมกับเลือกหุ้นที่มีปัจจัยหนุน อาทิ การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ค้าปลีก (CPALL) อสังหาฯ (AP SPALI) เครื่องดื่ม (TACC)
CPAXT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท)รายงานกำไรสุทธิ 2Q25 ที่ 2.3 พันล้านบาท (+5%YoY, -14%QoQ) ใกล้เคียงกับที่เราและตลาดคาด หนุนจากยอดขายที่โต 2%YoY อัตรากำไรขั้นต้นรวมทรงตัว YoY ค่าใช้จ่ายต่อยอดขายลดลง 15 bps YoY จาก Synergy benefits และการค่าใช้จ่ายควบคุมที่ดี กำไร 1H25 คิดเป็น 43% ของประมาณการกำไรปี2025
KTC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 32.00 บาท)ผลการดำเนินงานใน 2Q25 ออกมาคาดที่ 1.9 พันล้านบาท (+3.8% YoY, +1.8% QoQ) งบดุลแข็งแกร่ง NPL ratio ลดลงที่ 1.8% เรามองว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้กำลังซื้อลดลง และการปล่อยสินเชื่อใหม่ระมัดระวังสูงขึ้น ส่งผลสินเชื่อขยายตัวจำกัด ดังนั้น คาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรได้เพียง 1.5% ในปี 2025-26 อย่างไรก็ดี เราแนะนำ "ซื้อ" จาก (1) Valuation ไม่แพง ซื้อขายที่ PBV'25E ที่ 1.6x
: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์
สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ เยี่ยมชมกิจการ "SMO"
แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ชมบิ๊กแคป หลายตัว ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามแรงซื้อ ตามกระแสทุนนอกที่ยังคงไหล....
หุ้นอินไซด์ ทอล์ค : PTG มุ่งสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุนทุกคน
Hooninside
สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้
ชื่อหรือรหัสของคุณไม่ถูกต้อง
Please, check your email format before submit.
Please, Enter you password.
Please, Enter minimum 3 character.
Please, Enter minimum 6 character.
กรุณากรอกอีเมล์ที่คุณใช้สมัครสมาชิกแล้วกดส่งเมล์