สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 9 สิงหาคม 2568 )------บริษัท โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) COMAN เปิดเผยว่า ที้ประชุมคณะกรรมการ บริษัท โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ครั้งที่ 4/2568 ซึ่งจัดขึ้น เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ได้มีมติที่สำคัญ ดังต่อไปนี้
1. อนุมัติปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทย่อย เพื่อให้บริษัทย่อยมีคุณสมบัติสอดคล้องกับข้อกำหนดในการดำเนินธุรกิจ ของแฟรนไชส์ โดยมีมติอนุมัติในเรื่องดังต่อไปนี้
1.1 อนุมัติลดทุนจดทะเบียนของบริษัท บีทีโบว์ทิวาราตรี จำกัด (“BTR”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน ร้อยละ 99.99 จากทุนจดทะเบียน 10,000,000 บาท เป็น 9,000,000 บาท โดยเป็นการลดจำนวนหุ้นสามัญจาก 100,000 หุ้น เป็น 90,000 หุ้น และพิจารณาอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 5. ของบริษัท เป็น “ข้อ 5. ทุนของบริษัทกำหนดไว้เป็นจำนวน 9,000,000 บาท แบ่งออกเป็น 90,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท (หนึ่งร้อยบาท) โดยคาดว่าจะจดทะเบียนลดทุนจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2568
1.2 อนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ บริษัท บีทีสโตร์สุขใจ จำกัด (“BTS”) โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ ดังต่อไปนี้
ชื่อบริษัทย่อย : บริษัท บีทีสโตร์สุขใจ จำกัด (BTS)
วันที่จดทะเบียนจัดตั้ง : ภายในเดือนกันยายน (หลังจากการลดทุนของบริษัท บีทีโบว์ทิวาราตรี จำกัด เสร็จสิ้น)
วัตถุประสงค์การจัดตั้ง : เพื่อเข้าดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์แทนบริษัทเดิม (บริษัท บีทีโบว์ทิวาราตรี จำกัด)
ประเภทธุรกิจ กิจการจำหน่ายสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม และผลิตต่าง ๆ ในลักษณะร้านสะดวกซื้อ หรือ มินิมาร์ท
ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท จำนวนหุ้นสามัญ 10,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท
โครงสร้างการถือหุ้น
บมจ. โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล ร้อยละ 99.998
นางสาวแฟโรนิก้า มุทเทนธาเลอร์ ร้อยละ 0.001
นางสาวอินท์ชลิตา ศิริโชตินันทสิน ร้อยละ 0.001
1.3 อนุมัติควบรวมกิจการของบริษัทย่อย โดยทำการควบรวมกิจการบริษัท บีทีโบว์ทิวาราตรี จำกัด (BTR) เข้ากับ บริษัท บีทีสโตร์สุขใจ จำกัด (BTS) (ภายหลังการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่เสร็จสิ้น) เพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจ และโอนสิทธิ หน้าที่ และสินทรัพย์ทั้งหมดมายังบริษัทใหม่ โดยภายหลังการควบรวม จะคงเหลือ บริษัท บีทีสโตร์สุขใจ จำกัด (BTS) จะเป็นผู้ดำเนินธุรกิจร้านแฟรนไชส์ต่อ และพิจารณาอนุมัติมอบอำนาจให้กรรมการผู้มีอำนาจลงนามหรือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นผู้ดำเนินการจดทะเบียน และลงนามในเอกสารต่าง ๆ เพื่อให้การควบรวมกิจการ ดำเนินไปโดยสมบูรณ์
การปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทย่อยดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยแต่ ประการใด เนื่องจากเป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทย่อย เพื่อให้บริษัทย่อยมีคุณสมบัติสอดคล้องกับข้อกำหนดในการ ดำเนินธุรกิจของแฟรนไชส์