Company Note
วีจีไอ
คาดกำไร 1Q25/26F ลดล YoY และ QoQ
เราคาด VGI จะมีกำไร 1Q25/26F อยู่ที่ 49 ล้านบาท ลดลง 22% YoY และ 7% QoQ เนื่องจากการรับรู้รายได้สื่อโฆษณาตอหม้อใต้ BTS ลดลง สำหรับรายได้กลุ่มสื่อโฆษณานอกบ้านคาดลดลงเนื่องจาก media capacity ที่ลดลงอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท/ปี จากเดิม 4,600 ล้านบาท/ปี จากสื่อตอหม้อใต้ BTS สิ้นสุดสัญญาให้ PLANB ดำเนินการบริหารสื่อแทน ในขณะที่สื่อบนรถไฟฟ้า BTS มีอัตราการใช้สื่อโฆษณาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 45% จาก 42% บนฐาน media capacity 4,000 ล้านบาท
รายได้ธุรกิจ digital service เพิ่มขึ้นจากกลุ่ม Rabbit Group จาก R-cash มีการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น, R-care การขายประกันเพิ่มขึ้น และ R-card ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น สำหรับรายได้จากธุรกิจขายสินค้าลดลง เนื่องจาก Fanslink เน้นขายสินค้าแบรนด์ตนเองเพิ่มขึ้นและลดการขายสินค้าจีน แต่รายได้ Super turtle เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาเพิ่ม 5 สาขา รวมเป็น 28 สาขา คาดบริษัทรับรู้กำไรจากบริษัทร่วมทุนลดลง YoY เนื่องจากไม่มีการรับรู้จาก Roctec แล้ว แต่ดีขึ้น YoY จากกำไร JMART เพิ่มขึ้น
อัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น YoY จากอัตราการใช้สื่อโฆษณาเพิ่มขึ้น และการขายปลีกเน้นการขายสินค้าตนเองเพิ่มขึ้นซึ่งมีมาร์จิ้นที่ดีกว่า การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานของธุรกิจ Rcare ลดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาด และการขยายสาขาร้าน Turtle ช่วยประหยัดขนาด (Economy of scale) สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากการให้ค่าธรรมเนียมในการบริหารสื่อโฆษณากับทาง PLANB
คาดผลประกอบการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
เราคาดผลประกอบการปี 2025/26F -2026/27F เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3% และ 7% ตามลำดับ จากคาดรายได้จากสื่อโฆษณามีอัตราการใช้สื่อที่ 53-55% จากปี 2024/25 อยู่ที่ 52% คาดรายได้ธุรกิจ digital service เพิ่มขึ้นปีละ 7% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา จากกลุ่ม Rabbit Group จาก R-cash, R-care และรายได้จากธุรกิจขายสินค้าคาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยปีละ 5% สะท้อนสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว Fanslink เน้นขายสินค้าแบรนด์ตนเองเพิ่มขึ้น และการขยายสาขา Super turtle ต้องใช้เวลาคาด 60 สาขาถึงจุดคุ้มทุน เราคาดบริษัทมีรายได้จากดอกเบี้ยหลังจากการเพิ่มทุน คาดเบื้องต้นที่ 300 ล้านบาท/ปี คาดอัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้นตามอัตราการใช้สื่อโฆษณาเพิ่มขึ้น และการเน้นขายสินค้าแบรนด์ตนเองเพิ่มขึ้นซึ่งมีอัตรามาร์จิ้นดีกว่า คาด SG&A ลดลงจากการลดค่าใช้จ่ายการตลาดและการบริหารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ยังคงคำแนะนำเป็น “ขาย” ราคาเป้าหมาย 2.2 บาท
เรายังคงคำแนะนำ “ขาย” ยังมีความไม่ชัดเจนจากการเพิ่มทุนเพื่อลงทุนธุรกิจโครงการใหญ่ Entertainment Complex ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าจะถึงจุดคุ้มทุน มูลค่าปัจจัยพื้นฐานของเราอยู่ที่ 2.2 บาทอ้างอิงวิธี sum-of- the part (SOTP) ซึ่งเราได้รวมผลกระทบจาก dilution effect จากการเพิ่มทุน PP และการใช้สิทธิ warrant ที่จะหมดอายุ 3 ก.ย.25 และมีราคาใช้สิทธิที่ 1.5 บาท ทำให้มีโอกาสจะเกิดการใช้สิทธิสูง