Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : TIDLOR แนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 21.5 บาท

113

 


Tidlor Holdings (TIDLOR TB)
ชะลอการเติบโตของสินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์

แนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 21.5 บาท
แนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 21.5 บาท (P/BV ปี 68 ที่ 1.8 เท่า และ ROE ที่ 14.5%) จากเดิม 20 บาท เราชอบกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่และปล่อยสินเชื่อวงเงินขนาดเล็กเพื่อปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ เราปรับประมาณการกำไรปี 68-70 ขึ้น 3-4% สะท้อนถึงต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (credit cost) ที่ลดลง เราประเมินอัตราการจ่ายเงินปันผลจะเพิ่มจาก 30% ในปี 68 เป็น 40% และ 50% ในปี 69 และ 70 ตามลำดับ เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อที่ชะลอลงและอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่อยู่ในระดับต่ำที่ 2.5 เท่า ปัจจัยเสี่ยงหลักคือคุณภาพสินทรัพย์ที่อาจต่ำกว่าคาด

 

ชะลอการเติบโตของสินเชื่อเพื่อลดความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์
TIDLOR ปรับลดเป้าการเติบโตของสินเชื่อในปีนี้ลงเหลือ 7% จากเดิม 10-12% เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ โดย ณ สิ้น 2Q68 สินเชื่อเติบโตเพียง 2% YTD ทั้งนี้ CEO มุ่งลดอัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) และให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อวงเงินขนาดเล็กเพื่อยกระดับคุณภาพสินทรัพย์ ปัจจุบันบริษัทสามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้ 9% YoY เพื่อชดเชยยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ลดลงในช่วงครึ่งปีแรก ด้านบวกคือ TIDLOR ยังคงขยายส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจนายหน้าประกันภัย และคาดว่ารายได้จากนายหน้าประกันภัยจะเติบโต 10-12% ในปีนี้ เราคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจะเติบโตเร็วกว่ารายได้ดอกเบี้ยในปีนี้

 

ปรับประมาณการกำไรขึ้น สะท้อน credit cost ที่ลดลง
เราปรับลดประมาณการ credit cost ลง 15bps เหลือ 2.85% / 2.75% และปรับลดการเติบโตของสินเชื่อลงเหลือ 7-8% สำหรับปี 68/69 เพื่อสะท้อนผลประกอบการ 2Q68 และแนวโน้มจากผู้บริหาร ส่งผลให้เราปรับประมาณการกำไรปี 68-69 ขึ้น 3-4% CEO ให้มุมมองว่า credit cost และอัตราการเกิด NPL จะทรงตัว QoQ ใน 3Q68 และ 4Q68 และ credit cost จะอยู่ต่ำกว่า 3% ในปี 68 อัตราส่วน NPL คาดว่าจะต่ำกว่า 2.0% ตลอดทั้งปี ในขณะที่ราคารถยนต์มือสองคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งใน 3Q68

 


กำไร 2Q68 ดีกว่าคาดจาก credit cost ที่ลดลง
กำไรสุทธิ 2Q68 เพิ่มขึ้น 19% YoY อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท จาก credit cost ที่ลดลง สินเชื่อเติบโต 1% QoQ และ 3% YoY จากการเติบโตของสินเชื่อจำนำทะเบียน อัตราผลตอบแทนสินเชื่อ (NIM) เพิ่มขึ้น 20bps QoQ จากการใช้ระบบคิดอัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยง (risk-based pricing) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (non-NII) เพิ่มขึ้น 11% YoY จากยอดขายประกันวินาศภัยที่แข็งแกร่ง บริษัทตั้งสำรองไว้ที่ 692 ล้านบาท ลดลง 24% YoY คิดเป็น credit cost 2.67% อัตราส่วน NPL ทรงตัว QoQ ที่ 1.81% ขณะที่อัตราการเกิด NPL ลดลง 10bps QoQ เหลือ 2.0% ใน 2Q68

 

Jesada Techahusdin, CFA
jesada.t@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1395

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

โหมดพักตัว By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มาอัพเดทข่าวสารในวันศุกร์ที่ 8 เดือน 8 ปี 68 หุ้นไทยในภาคเช้าที่ผ่านมา เข้าสู่โหมดพักตัว .....

IND ทำดีเพื่อสังคม มอบน้ำดื่ม 500 ขวด สนับสนุน "มูลนิธินวัตกรรมเพื่อชุมชน"

IND ทำดีเพื่อสังคม มอบน้ำดื่ม 500 ขวด สนับสนุน "มูลนิธินวัตกรรมเพื่อชุมชน"

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ ทอล์ค : PTG มุ่งสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุนทุกคน

หุ้นอินไซด์ ทอล์ค : PTG มุ่งสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุนทุกคน

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้