ภาวะตลาด : SET Index วานนี้ปรับขึ้นดี โดยแรงซื้อกระจายตัวไปในหลายกลุ่ม และมูลค่าซื้อขายเพิ่มเป็น 5.3 หมื่นลบ. ปิ ดตลาดดัชนี +17.56 จุด(+1.43%) ที่ 1246.96 (สูงสุดในวันอยู่ที่ 1250.36) ปัจจัยหนุน คือ ภาษีศุลกากรทรัมป์ มีความชัดเจนมากขึ้น ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ประเมินว่าอยู่ในระดับที่ยังแข่งขันได้ ขณะที่ผู้ที่ถูกกระทบ ก็จะมีมาตรการช่วยเหลือ นอกจากนั้นอัตราดอกเบี้ยขาลงก็เป็นอานิสงค์บวกกับตลาดหุ้นด้วย นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อ +2.06 พันลบ. สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ +1.75 พันลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ: ISM รายงานดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ค.ลดลงเป็ น 50.1 จาก 50.8 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าตลาดคาดที่ 51.5
• สหภาพยุโรป-สหรัฐ: EU ชะลอการขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐออกไป 6 เดือน (เดิมจะมีผล 7 ส.ค.นี้) เพื่อเปิดช่องให้เจรจาภาษีการค้ากันต่อ
• สหรัฐ-อินเดีย: ทรัมป์ ประกาศจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียอย่างมากภายใน 24 ชม. หลังอินเดียยังนำเข้าน้ำมันรัสเซียต่อเนื่อง (ปัจจุบันสินค้าอินเดียโดนเรียกเก็บภาษี 25%)
• DBS Group Research มองทรัมป์ กดดันอินเดียเรื่องนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย เป็น Upside risk กับราคาน้ำมันดิบในระยะสั้น โดยถ้าอินเดียหลีกเลี่ยงการซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย ก็อาจทำให้อุปทานในตลาดลดลงไป 1.5-2.0 ล้านบาร์เรล/วัน...ยังคงให้ PTTEP เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มพลังงานต้นน้ำ
• จับตามาเลเซีย-อินโดนีเซีย: คู่พิพาทใหม่ในอาเซียน ปมแย่งแหล่งน้ำมันในสุลาเวสี ซึ่งจะมีการประชุมเจรจากันต่อไป
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐลดลง จากกังวลภาษีทรัมป์ กระทบผลประกอบการ และดัชนี PMI ภาคบริการอ่อนลง สัญญาน้ำมันดิบร่วงต่อ 1.6-1.7% เป็น 65-67 US$/bbl หลังกลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มการผลิต กังวลอุปสงค์ชะลอหลังภาษีทรัมป์ มีผลบังคับใช้ จับตามาตรการคว่ำบาตรอินเดีย สัญญาทองคำส่งมอบธ.ค.ปรับขึ้นต่อ +8.3 US$ เป็น 3,434.70 US$/ออนซ์
• ดัชนีค่าเงิน US$ ทรงที่ 98.7 เงินบาททรงที่ 32.3 บาท/ดอลลาร์ ส่วน US bond yield 10 ปีขยับขึ้นเล็กน้อยสู่ 4.22% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ทรงที่ 114.8 ดัชนี Baltic Dry Index ถอยมาที่ 1921 (high อยู่ที่ 2258)

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ผู้ประกอบการกลุ่มอิเลคทรอนิกส์ของไทยยืนยันว่าไม่มี Transshipment และเชื่อว่าจะยังมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนกลุ่มอิเลคทรอนิกส์ในไทยต่อ
• สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงตึงเครียด รักษาการนายกฯ "ภูมิธรรม" สั่งยกร่างคำฟ้องอาญา-แพ่งระดับโลก กรณีกัมพูชารุกรานและสร้างความสูญเสียต่อไทย...ติดตามผลประชุม GBC ระหว่างไทย-เวียดนาม ในวันที่ 4-7 ส.ค.นี้ ที่มาเลเซีย

กลยุทธ์ : ที่แนวต้าน 1250-1260 อาจมีการแกว่งตัว แต่ถ้าไม่แรงก็มีลุ้นไปต่อ ดัชนีทดสอบแนวต้าน 1250 แล้วเมื่อวานนี้ และมีการพักตัวเล็กๆไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ดี ยังควรระวังการแกว่งตัวที่บริเวณแนวต้าน 1250-1260 แต่ถ้าอ่อนไม่มาก มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1270-1280 ส่วนการอ่อนตัวมีแนวรับ 1235-1230, 1225-1220 ตามลำดับ

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : MTC –กำไรสุทธิ 2Q25 เป็นไปตามคาด โดยเติบโต +14% y/y และ +4.8% q/q เป็น 1.6 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ ซึ่งเป็นผลจาก รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น (สินเชื่อเติบโต +13% YoY, +4.3%QoQ, +6.4% YTD ) และต้นทุนเครดิตลดลง รวมถึง NIM ขยับขึ้น q/q ด้านคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น ด้าน NPL เพิ่มขึ้น 1.8% QoQ ส่วน NPL ratio สิ้น 2Q25 ลดเป็น 2.62% (เทียบกับ 2.69% ณ สิ้น1Q25) แนวโน้มไปได้ดีจากสินเชื่อขยายตัวดี (โดยหลักจากการขยายสาขา) แนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 65 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829