Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.ทิสโก้ : TU คงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 11.3 บาท

66

 

Company Note
Thai Union Group


TU ประกาศข่าวการแสดงเจตจำนงซื้อหุ้น TU จาก Mitsubishi Corporation (MC) ซึ่งถือหุ้นอยู่แล้ว 6.19% เพื่อเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมอีก 13.81% ในราคาหุ้นละ 12.50 บาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นรวมหลังดีลที่ 20.0%

TU ประกาศงบ 2Q25F ดีกว่าที่เราและตลาดคาด จากอัตรามาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้, บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ลดลง 1-2% YoY สะท้อนภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จากไทยที่มีการประกาศ 19% เริ่ม 1 ส.ค.25 นี้ และบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.35 บาท/หุ้น (XD 15 ส.ค.25)

กำไรสุทธิ 2Q25 เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

TU ประกาศกำไรสุทธิ 2Q25 อยู่ที่ 1,273 ล้านบาท (+4%YoY, +25%QoQ) ดีกว่าที่เราและตลาดคาดประมาณ 9% จากอัตรามาร์จิ้นที่ดีกว่าที่คาด โดยรายได้รวมลดลง 5% YoY แต่เพิ่มขึ้น 12% QoQ รายได้แบ่งเป็น 1) ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป (Ambient seafood) -4% YoY แต่เพิ่มขึ้น 12% QoQ จากยอดขายในกลุ่มยุโรป สหรัฐฯ และประเทศไทยเพิ่มขึ้น 2) ธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งคาดรายได้ลดลง -7% YoY แต่เพิ่มขึ้น 19% QoQ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น 3) ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงลดลงเล็กน้อย -2% YoY จากผลกระทบค่าเงินบาทที่แข็งค่า แต่เพิ่มขึ้น 5% QoQ จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นในยุโรปและสหรัฐฯ เป็นหลัก 4) ธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าคาดลดลง -9% YoY และทรงตัว -2% QoQ

อัตรามาร์จิ้น 2Q25 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 19.7% จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนวัตถุดิบราคาปลาทูน่าที่ลดลงเทียบกับปีที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย 14% (ใกล้เคียงกับที่บริษัทคาดทั้งปีที่ 13.5-14%) เพิ่มขึ้น YoY จากค่าใช้จ่าย transformation ที่เพิ่มขึ้น และค่าทำการตลาดสินค้าใหม่ และค่าขนส่งทางเรือที่ลดลง แต่ลดลง QoQ เนื่องจาก 1Q25 มีสัดส่วนรายได้ค่อนข้างต่ำส่งผลให้อัตราค่าใช้จ่ายและการบริหารเทียบกับยอดขายสูงกว่าปกติ บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไร 158 ล้านบาท ลดลง -12% YoY และ -46% QoQ จากธุรกิจ Avanti เป็นหลัก และบริษัทรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 26 ล้านบาท QoQ และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 237 ล้านบาท YoY อัตราภาษีจ่ายที่ 13% เพิ่มขึ้นเนื่องจากสิทธิประโยชน์ภาษี BOI หมดแล้ว และมีผลกระทบจาก global minimum tax เข้ามาเล็กน้อย

บริษัทปรับเป้าหมายรายได้ลงสะท้อนผลกระทบภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ

บริษัทปรับเป้าหมายผลประกอบการปีนี้ โดยอ้างอิงผลกระทบภาษีนำเข้าของ US ต่อไทย ที่ประกาศ 19% จาก คาดรายได้ปีนี้ลดลง 1-2% YoY (จากเดิมคาด US tariff ที่ 10% รายได้ +1-3%) คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นที่ 18.5 – 19.5% (เพิ่มขึ้นจากเดิม18–19%) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเท่าเดิม 13.5 – 14.0% จากต้นทุน transformation (0.7%) และเงินลงทุนคาด ~3.5 – 4 พันล้านบาท (จากเดิมคาดที่ ~3 – 3.5 พันล้านบาท) และนโยบายการจ่ายเงินปันผลคงเดิมไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิ

ข่าวจากตลาดฯ TU ได้รับหนังสือแสดงเจตจำนงจาก Mitsubishi Corporation (MC) ซึ่งถือหุ้นอยู่แล้ว 6.19% เพื่อเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมอีก 13.81% ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 12.50 บาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นรวมหลังดีลที่ 20.0% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด (ไม่รวมหุ้นซื้อคืน) ดีลดังกล่าวยังอยู่ภายใต้เงื่อนไข เช่น การมี foreign room เพียงพอ, ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลในต่างประเทศ รวมถึงการลงนามใน Business Alliance Agreement อย่างเป็นทางการ

สรุปมุมมอง: เราให้มุมมอง “เชิงบวก” ต่อดีลนี้ในเชิงกลยุทธ์ แม้ยังมีเงื่อนไขต้องติดตาม และดีลอาจไม่เกิดขึ้นหากไม่ผ่านเกณฑ์ All-or-Nothing แต่หากสำเร็จ TU จะได้พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และมีศักยภาพในการต่อยอดธุรกิจในระยะยาว ทั้งด้านการตลาด นวัตกรรม และความยั่งยืน เราเชื่อว่าการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของ MC สะท้อนความเชื่อมั่นต่อธุรกิจ TU ในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารทะเลระดับโลก และจะเป็นการยกระดับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในหลายด้าน อาทิ: การเข้าถึงตลาดใหม่โดยเฉพาะในญี่ปุ่น และตลาดที่ MC มีฐานอยู่ และการร่วมลงทุนหรือสนับสนุนการขยายกำลังการผลิต/ธุรกิจใหม่ในอนาคต

ดีลนี้ไม่ใช่การทำเทนเดอร์แบบ Takeover (ไม่เกิน 25%) จึงยังไม่มีนัยต่อโครงสร้างการควบคุมกิจการในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หาก MC ได้หุ้นครบตามเป้า จะมีสถานะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ลำดับต้น ๆ ซึ่งอาจมีบทบาทในเชิงกลยุทธ์เพิ่มขึ้นในอนาคต

ประเด็นที่ต้องติดตาม โอกาสที่ดีลอาจไม่สำเร็จยังมี เนื่องจากใช้โครงสร้าง All-or-Nothing หากได้หุ้นไม่ครบตามเป้า (13.81%) MC จะไม่ดำเนินการต่อ, ต้องติดตาม foreign room ซึ่งหากใกล้เต็ม อาจกระทบการเข้าถือหุ้นเพิ่ม และราคารับซื้อหุ้นที่ 12.50 บาท แม้จะมีพรีเมียมจากราคาตลาดในบางช่วง แต่หากตลาดปรับขึ้น อาจไม่จูงใจนักลงทุนรายย่อย

คงประมาณการเดิม คาดผลประกอบการปีนี้ลดลงจากผลกระทบภาษีนำเข้าสหรัฐฯและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และคาดผลประกอบการจะเริ่มดีขึ้นปีหน้า

สำหรับกำไรก่อนรายการพิเศษ 1H25 ลดลง 9% YoY และคิดเป็น 50% ของกำไรทั้งปี เรายังคงประมาณการเดิม คาดกำไรปี 2025F อยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท (-12% YoY) จากผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลต่อ demand ที่ลดลง และปัจจัยลบจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ คาดกำไรสุทธิปี 2026F จะกลับมาเพิ่มขึ้น 16%YoY จากสถานการณ์การต่างๆเริ่มปรับตัว คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นลดลงจากราคาปลาทูน่าที่คาดที่ 1,600 US$/tons เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 11% สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดเพิ่มขึ้นจากการทำการตลาดและค่าขนส่งทางเรือที่เพิ่มขึ้น (บริษัทมีการขายสินค้าเป็น FOB ส่วนใหญ่ และบางธุรกิจเป็น CIF คิดเป็น 3% ของค่าใช้จ่ายรวม) และการทำการตลาดเพิ่มขึ้น และคาดอัตราภาษีจ่ายที่ 12%

เราคงคำแนะนำ “ถือ” แนวโน้มผลประกอบการที่เราคาดจะลดลงจากผลกระทบของภาพรวมเศรษฐกิจที่สะดุดจากนโยบายภาษีนำเข้าสหรัฐฯที่กระทบทั่วโลก รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 11.3 บาท อ้างอิง historical PE forward ย้อนหลัง 5 ปี -1SD ที่ 12X โดยราคาหุ้นปัจจุบันมี PER25F ที่ 12.5X, PBV25F 0.9X และคาด Dividend Yield 25F ที่ 4.5% ความเสี่ยง : ภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว, ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบ, การขาดแคลนเรือนขนส่ง

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

FTI เติมเต็มคุณภาพชีวิตเด็ก สานต่อภารกิจส่งมอบน้ำสะอาดผ่าน "โครงการเปลี่ยนไส้กรองน้ำ"

FTI เติมเต็มคุณภาพชีวิตเด็ก สานต่อภารกิจส่งมอบน้ำสะอาดผ่าน "โครงการเปลี่ยนไส้กรองน้ำ"

หักด่านต้าน By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หุ้นใหญ่ ชักธงเขียว ระหว่างชั่วโมงเทรด หักด่าน ฝ่าต้าน ไกลสุด 1,246.61 จุด .....

มัลติมีเดีย

คุยกับ Genใหม่ TNDT "ธนรรจ์ ศตวุฒิ"

คุยกับ Genใหม่ TNDT "ธนรรจ์ ศตวุฒิ"

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้