ภาวะตลาด : SET Index วานนี้รีบาวด์ หนุนโดยแรงซื้อหุ้นใหญ่ ได้แก่ DELTA, CPALL, BH, TRUE, KBANK เป็นต้น ขณะที่ตลาดยังไม่มีปัจจัยสำคัญใหม่เข้ามา ดัชนีปิดตลาดที่ 1229.40 เพิ่มขึ้น +11.07 จุด (+0.91%) มูลค่าซื้อขาย 4.4 หมื่นลบ. (ถ้าไม่รวม THAI จะอยู่ที่ 3.9 หมื่นลบ.) นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ -623 ลบ. ต่างชาติซื้อสุทธิ +2.6 พันลบ.
ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ: นักลงทุนประเมินโอกาสที่เฟดจะลดดบ. 3 ครั้งๆ ละ 0.25% ในช่วงที่เหลือปีนี้มีมากขึ้น หลังภาคการผลิตและภาคแรงงานชะลอตัวลง
• สหรัฐ-รัสเซีย: ทรัมป์ ส่งเรือดำน้ำนิวเคลียร์ตอบโต้คำกล่าวที่ก้าวร้าวของรองประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย
• สหรัฐ-อินเดีย: ทรัมป์ กล่าวหาอินเดียซื้อน้ำมันจากรัสเซีย แล้วไปขายต่อให้ประเทศอื่นเพื่อทำกำไร ขณะที่ชาวยูเครนถูกสังหารจำนวนมาก
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐรีบาวด์ จากคาดว่าเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้ สัญญาน้ำมันดิบร่วงต่อ 1.3-1.5% เป็น 66-68 US$/bbl สัญญาทองคำส่งมอบธ.ค.ปรับขึ้นต่อ +26.6 US$ เป็น 3,426.40 US$/ออนซ์
• ดัชนีค่าเงิน US$ ทรงที่ 98.7 เงินบาทแข็งค่าเป็น 32.31 บาท/ดอลลาร์ ส่วน US bond yield 10 ปีดิ่งมาที่ 4.20% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ทรงที่ 114.95 ดัชนี Baltic Dry Index ถอยมาที่ 1970 (high อยู่ที่ 2258)
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียดขึ้น ติดตามผลประชุม GBC ระหว่างไทย-เวียดนาม ในวันที่ 4-7 .ค.นี้ที่มาเลเซีย
• รฟม.-KTB เปิดตัวบัตรแมงมุม โดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยซื้อได้ตั้งแต่ 1 ส.ค.25 ทั้งนี้รัฐบาลระบุโครงการนี้จะเริ่ม 1 ต.ค.25 สิ้นสุด 30 ก.ย.26 สำหรับเงินชดเชยให้กับผู้ประกอบการ BTS และ BEM อยู่ระหว่างเจรจา เราคาดโครงการนี้จะเป็น positive upside ต่อคาดการณ์กำไร
• BJC: คาดกำไร 2Q25 เติบโตเลขสองหลัก YoY จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่ดีขึ้น (จากต้นทุนวัตถุดิบต่ำลง) และค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลง แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 26 บาท
• THAI: คาดจะเข้าคำนวณใน SET50 รอบถัดไป (คือ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.26) - ไม่มีการเข้าแบบ fast track สำหรับหุ้นที่เข้าฟื้นฟูกิจการ
กลยุทธ์ : แรงซื้อหุ้นใหญ่หนุนตลาด...แกว่งไม่มาก มีลุ้น 1240, 1250 ทั้งนี้การที่ดัชนีเด้งกลับขึ้นไปเหนือ 1220 จุดได้ทำให้สัญญาณทางเทคนิคดีขึ้น การปรับขึ้นต่อมีแนวต้าน 1235-1240, 1250 ส่วนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1220, 1210-1200
หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : KBANK – ธนาคารให้ guidance ว่าจะปรับเพิ่มอัตราการจ่ายปันผลปี 25F ขึ้นเป็น 50% ของกำไรสุทธิ (ปี 24: 46%, ปี 23:36%) โดยมีเป้าหมายระยะกลางที่ 50-60% ณ ราคาปัจจุบัน คาด DY ปีนี้ไว้ประมาณ 6% ต่อปี (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) นับว่าน่าจูงใจ ส่วนการปล่อยสินเชื่อยังคงใช้นโยบายระมัดระวังในช่วงเศรษฐกิจซบเซา คุณภาพสินทรัพย์บริหารจัดการได้ ให้ราคาพื้นฐาน 175 บาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829