สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(5 สิงหาคม 2568)--------ตารางราคาน้ำมันเฉลี่ยรายสัปดาห์ [เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ]
น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป
เบรนท์
(ICE Brent) เวสท์เท็กซัสฯ
(NYMEX WTI) ดูไบ
(Dubai) เบนซิน
ออกเทน 95 ดีเซล
ราคา 71.43 68.50 73.51 80.60 92.33
เปลี่ยนแปลง +2.64 +2.71 +2.57 +2.52 +0.63
ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากตลาดกังวลอุปทานน้ำมันจะได้รับผลกระทบ
หากรัสเซียและยูเครน ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ก่อนวันที่ 8 ส.ค. 68
• ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump มีแผนลดกรอบเวลาที่กำหนดให้รัสเซียกับยูเครนบรรลุข้อตกลงหยุดยิงจากเดิมภายในวันที่ 8 ส.ค. 68 มิฉะนั้นประธานาธิบดี Trump จะบังคับใช้มาตรการภาษีทุติยภูมิ (Secondary Tariffs) ต่อรัสเซีย โดยจะตั้งกำแพงภาษี 100% ต่อประเทศที่นำเข้าสินค้าจากรัสเซีย
• วันที่ 1 ส.ค. 68 ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นาย Donald Trump ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารปรับภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) 10-41% อาทิ สวิตเซอร์แลนด์ที่ 39%, แคนาดา 35%, แอฟริกาใต้ 30%, ไต้หวัน 20%, เมียนมาร์และลาว 40% รวมถึงไทยและกัมพูชา 19% และประกาศอัตราภาษีขั้นต่ำทั่วโลกที่ 10% (ประเทศที่เกินดุลการค้าอย่างมีนัยสำคัญกับสหรัฐอเมริกาจะอยู่ที่ 15% ขึ้นไป)
• วันที่ 30 ก.ค. 68 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Open Market Committee: FOMC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.25-4.50% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 (ตามที่ตลาดคาดการณ์) โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve: Fed) นาย Jerome Powell เผยว่า Fed ยังต้องคงอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ (เดือน มิ.ย. 68 อยู่ที่ +2.7% จากปีก่อนหน้า สูงสุดในรอบ 4 เดือน)
• วันที่ 3 ส.ค. 68 สมาชิกกลุ่ม OPEC+ 8 ประเทศมีมติเพิ่มปริมาณการผลิต 547,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ย. ซึ่งทำให้เพิ่มการผลิตสะสมในเดือน เม.ย. - ก.ย. 68 รวม 2.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเป็นการชดเชยส่วนที่เคยอาสาลดการผลิตโดยสมัครใจ ปริมาณ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เร็วกว่าแผนเดิมซึ่งจะเสร็จสิ้นเดือน ก.ย. 69) และผนวกกับโควตาใหม่ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ในการเพิ่มปริมาณการผลิตช่วง มิถุนายน ถึง ก.ย. 68 อีก 260,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ สมาชิกกลุ่ม OPEC+ มีแผนจัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 7 ก.ย. 68