Market Wrap-Up

• SET วันที่ 4 ส.ค.68 ปิด +11.07 จุด อยู่ที่ 1,229.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,358 ลบ. ต่างชาติซื้อ 2,609 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 137 ลบ. สถาบันขาย 623 ลบ. และรายย่อยขาย 849 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 2,861 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,BDMS,CPALL,ADVANC,SCC และยอดขายหุ้น MINT,CPF,KTB,BA,AAV มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,682 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ XIAOMI01,TENCENT01,CPAXT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 9,725 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 112,485 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 447 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ +1.34%, S&P500 +1.47%, Nasdaq +1.95% นำโดยกลุ่มบริการสื่อสาร +2.6%,เทคโนโลยี +2.15% หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ค.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.90% ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร นำโดย Lloyds +9%,Barclays +2% หลังศาลฎีกาอังกฤษกลับคำพิพากษาในคดีคอมมิชชั่นจากการจัดไฟแนนท์รถยนต์
• Market View
• ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ฟื้นตัว หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ค. เพิ่มขึ้น 73,000 น้อยกว่าคาดจะเพิ่ม 106,000 ตำแหน่ง และได้ปรับลดตัวเลขจ้างงาน มิ.ย. , พ.ค. ลงอยู่ที่ 14,000 และ 19,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้ตลาดคาดมีโอกาส 84% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 25% ในการประชุม ก.ย. และอาจลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่ม Growth โดยนักลงทุนรอการประชุม ธ.กลางหลัก ๆ ที่แจ๊คสัน โฮล วันที่ 21 – 23 ส.ค. เพื่อจับสัญญาณการลดดอกเบี้ยของ ปธ.เฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม ตัวเลขส่งออก – นำเข้าสหรัฐ มิ.ย., S&P Global และ ISM จะรายงานดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐ ก.ค.
• ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ +0.90% นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารอังกฤษ เช่น Lloyds, Barclays หลังศาลฎีกาอังกฤษกลับคำพิพากษาในกรณีค่าคอมมิชชั่นในการจัดไฟแนนท์รถยนต์ ซึ่งช่วยลดภาระค่าชดเชยกว่า 1 หมื่น ล.ปอนด์ ขณะที่ดัชนีหุ้นสวิซเซอร์แลนด์วานนี้ -.0.15% หลังถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 39% ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มผู้ผลิตนาฬิกา Swatch -2.3% และสินค้าส่งออกสำคัญไปตลาดสหรัฐ เช่น ยา เครื่องสำอาง ช็อตโกแลต ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม PPI ยูโรโซน ก.ค. คาด 0.5% & มิ.ย. 0.3% YoY, PMI ภาคบริการยูโรโซน ก.ค.คาด 51.2 & มิ.ย. 50.5 และวันพฤหัส ประชุม BOE อังกฤษซึ่งคาดมีโอกาสลดดอกเบี้ยลง 0.25%
• ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.66%, ฮั่งเส็ง +0.92% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ +2.2%, กลุ่มธนาคาร +1.0% และรอผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – จีนที่จะถึงเส้นตายในวันที่ 12 ส.ค. ขณะที่ดัชนีนิเกอิ -1.25% จากแรงชายกลุ่มธนาคาร หลังอัตราดอกเบี้ยระยะยาวอาจลดลง กอปรกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัว ส่งผลให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น ส่วนเช้านี้ติดตาม PMI ภาคบริการญี่ปุ่น & จีน ก.ค.
• SET วานนี้ +0.91% ปริมาณการซื้อขาย 43 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 2,609 ลบ. สถาบันขาย 623 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 137 ลบ. และรายย่อยขาย 1,849 ลบ. โดยดัชนี SET ฟื้นตัวหลังถูกแรงขาย Sell on Fact เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังทราบอัตราภาษีศุลกากรที่สหรัฐเก็บกับสินค้านำเข้าไทยที่ 19% ซึ่งเป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับกลุ่มประเทศในอาเซียน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการชะลอตัวลงแรงของเศรษฐกิจไทยในช่วง 2H/68 และคาด GDP ไทยปีนี้มีโอกาสขยายตัวที่ระดับ 2.0 – 2.3% โดยดัขนีได้แรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชายที่เริ่มซื้อสะสมหุ้นไทย จากคาดการณ์ กนง.มีโอกาสลดดอกเบี้ยปีนี้ 1 – 2 ครั้ง ส่งผลให้ SET Earning Yield Gap อยู่สูงกว่าระดับ 6.1% ซึ่งอยู่ในโซนน่าสะสมลงทุน ขณะที่สัปดาห์นี้นักลงทุนอยู่ระหว่างรอการรายงานงบ Q2/68 ของ บจ.หลัก ๆ เช่น TRUE,ADVANC,GULF,GPSC,BCP,CPAXT,WHA และวันพรุ่งนี้ ก.พาณิชย์จะรายงาน CPI ไทย ก.ค. คาด -0.42% & มิ.ย. -0.25% YoY ก่อนการประชุม กนง.ในวันที่ 13 ส.ค.   

Daily Strategy

• ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,215 – 1,220 แนวต้าน 1,240 คาดตลาดมีโอกาสฟื้นตัวตามดัชนีภูมิภาค จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. กอปรกับ กนง.ของไทยก็มีโอกาสลดดอกเบี้ย 1 – 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยช่วยหนุน Valuation ของดัชนี แนะนำทยอยซื้อ ADVANC,CPF,TFG,TFM,BCH,ADVICE,PLANB เป็นกลุ่มที่ Bloomberg Consensus คาดกำไร Q2/68 +QoQ, +YoY / BH,BDMS,BCH คาดกำไร Q2/68 มีโอกาสฟื้นตัว QoQ หลังผ่านช่วง Low Season
• ADVICE* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 6.10 บาท) แนวโน้มกำไร 2Q68 ยังเติบโตขึ้นต่อ QoQ, YoY หนุนจากรายได้กลุ่มสินค้า Apple ที่ปรับตัวขึ้นตามการเปิดร้าน iStore (ปัจจุบัน 8 สาขา) ขณะที่กลุ่มสินค้า IT จะมาจากการ์ดจอและแล็ปท็อป ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A ได้ดีโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการตลาด แนวโน้ม 2H68 คาดรายได้เติบโต YoY จากการเร่งเปิดสาขา iStore ควบคู่กับร้าน Advice เพื่อให้เกิดโอกาสในการขายมากขึ้น โดยบริษัทมีเป้าหมายขยายสาขา Advice iStore ให้ครบ 22 สาขาภายในปี 68 และเป้ารายได้ +20%YoY ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68 อยู่ที่ 265 ล้านบาท +14%YoY
• ADVICE* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.05 บาท) กลุ่มสินค้าไอทีมี Demand จากการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ให้ทันกับเทคโนโลยี(เช่น AI PC) รวมถึงการใช้งาน cloud/อุปกรณ์IoT ที่แพร่หลายขึ้น ส่วนการดำเนินงานปกติ 2Q68 คาดว่ายังมีแรงหนุน YoY QoQ จาก กลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะสินค้า Apple ด้าน ADVICE* เองวางเป้ารายได้ปีนี้ +20%YoY ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากสมาร์ทโฟนเป็น 50% ภายในปี70 (ปัจจุบัน 1Q68 ที่ 16% แบ่งเป็น Apple 12% และ Android 4%) ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ ADVICE* จะอยู่ที่ระดับ 268 ลบ.(+15%YoY) และ 312 ลบ.(+17%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ก.ย.-$1.04 อยู่ที่ $66.29 / บาร์เรล, Brent ก.ย. -$0.91 อยู่ที่ $68.76/บาร์เรล หลัง ปธน.ทรัมป์ขู่จะเก็บภาษีอัตรา 100% ต่อผู้ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย เช่น จีน, อินเดีย ซึ่งส่งกระทบจากการส่งออกน้ำมันของรัสเซียราว 2.75 ล.บาร์เรล/วัน ขณะที่โอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 547,000 บาร์เรล/วัน ใน ก.ย. เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด

 

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$26.60 อยู่ที่ $3,426.40 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.36% หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ค.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย.

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ +13.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +80.38 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -62.07 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -4.50 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 32.30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.185 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -48 จุด อยู่ที่ 1,970

(+) BitCoin เช้านี้ +0.19% อยู่ที่ 114,900 ดอลลาร์สหรัฐ

(+) PMI ภาคบริการญี่ปุ่น ก.ค. คาด 53.6 & มิ.ย. 53.5

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

 

ต่างประเทศ

05 ส.ค.     CN ดัชนี PMI ภาคการบริการของจีนจากสถาบัน Caixin ( ก.ค.)

                EU ดัชนี PMI ภาคการบริการ ( ก.ค.)             

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ก.ค.)

                US ดุลการค้า (มิ.ย.)

06 ส.ค.     US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

07 ส.ค.     CN ดุลการค้า (ก.ค.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio August 2025: MONO*, PR9*, IVL*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*, BH

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th