ภาวะตลาด : SET Index วันศุกร์มี Sell on fact หลังอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐของไทยออกมา 19% ใกล้เคียงกับภูมิภาค ตามที่ตลาดคาดหวังไว้ ขณะที่ดัชนีเดือนก.ค.ปรับขึ้นไปแล้ว +14% m/m จึงมีแรงขายทำกำไรออกมา ดัชนีปิดตลาดที่ 1218.33 ลดลง -24.02 จุด (-1.93%) ซึ่งเป็นระดับเกือบต่ำสุดของวันโดยมีแรงขายหุ้นใหญ่ที่เคยนำตลาดขึ้น เช่น DELTA, PTT, PTTEP, CPALL, GULF, BDMS, AOT เป็นต้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -1.9 พันลบ. สถาบันในประเทศขายสุทธิ -1.9 พันลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ: ภาคผลิตเดือนก.ค.อ่อนแอลง เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผย ดัชนี PMI ภาคการผลิตลดลงสู่ระดับ 49.8 ในเดือนก.ค. จากระดับ 52.9 ในเดือนมิ.ย. ส่วน ISM เปิดเผยดัชนี PMI ภาคผลิตก.ค.ลดเป็น 48.0 ต่ำกว่าตลาดคาดและลดจาก 49.5 ในมิ.ย. จากคำสั่งซื้อลดลงมากและภาคแรงงานชะลอตัวลง
• สหรัฐ: ตัวเลขภาคแรงงานชะลอตัว โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) เดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 7.3 หมื่นตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 1.06 แสนตำแหน่งและปรับลดตัวเลขเดือนมิ.ย.เหลือเพิ่มเพียง 1.4 หมื่นตำแหน่ง (จากเดิม 1.47 แสนตำแหน่ง) ว่างงานเดือนก.ค.เพิ่มเป็น 4.2% (จาก 4.1% ในมิ.ย.)
• สหรัฐ: นักลงทุนปรับเพิ่มโอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้งมีมากขึ้นหลังตัวเลข NFP อ่อนแอกว่าที่คาดไว้
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐร่วง & VIX เพิ่มขึ้น ผิดหวังตัวเลข NFP ที่แย่กว่าคาด และทรัมป์ สั่งปลดเอริกา หัวหน้าสนง.สถิติแรงงานสหรัฐหลังเปิดเผยข้อมูลการจ้างงาน สัญญาน้ำมันดิบดิ่งต่อ -2.8% เป็ น 67-69 US$/bbl จากกลุ่มโอเปกพลัสจะเพิ่มการผลิต 5.47 แสนบาร์เรล/วันในเดือนก.ย. ผนวกกับภาคแรงงานสหรัฐอ่อนแอลง สัญญาทองคำส่งมอบธ.ค.พุ่งแรง +51.20 US$ (+1.53%) เป็น 3,399.80 US$/ออนซ์
• ดัชนีค่าเงิน US$ อ่อนเป็ น 98.68 หลังแตะ 100 ค่าเงินบาทแข็งค่าเป็น 32.44 บาท/ดอลลาร์ ส่วน US bond yield 10 ปีดิ่งมาที่ 4.22% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ถอยมาที่ 114.90 ดัชนี Baltic Dry Index ขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 2018 (high อยู่ที่ 2258)

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• สภาพัฒน์มีแนวโน้มปรับเพิ่มการเติบโตจีดีพีไทยปีนี้ขึ้น หลังสศค.ปรับขึ้นเป็น +2.2% (เดิม 2.1%) หลังภาษีทรัมป์ ของไทยออกมา 19% และความได้เปรียบเสียเปรียบปท.เพื่อนบ้านไม่เปลี่ยนแปลงนัก ขณะที่ไทยได้เปรียบเวียดนาม ทั้งจากอัตราภาษีที่ต่ำกว่าเล็กน้อย และไทยมีการผลิตในประเทศมากกว่า ทำให้เวียดนามโดนภาษี transshipping มากกว่า ปัจจัยติดตาม คือ ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาและผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
• THAI: กลับมาซื้อขายในตลาดวันนี้ (4 ส.ค.นี้) วันแรกไม่มีซิลลิ่ง-ฟลอร์ หลังฟื้นฟูกิจการและพ้นเหตุแห่งการเพิกถอน ตลาดฯห้ามขายชอร์ตนักวิเคราะห์ในตลาดประเมินราคาเป้า 7.65-10.80 บาท
• การเมืองไทย: ติดตามผลประชุม GBC ระหว่างไทย-เวียดนาม ในวันที่ 4-7 ส.ค.นี้ที่มาเลเซีย

กลุยทธ์ : ถ้ากลับไปยืนเหนือ 1220 ได้ก็ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อ แต่หากไม่ได้ ควรลดพอร์ตตาม ถ้ายังอ่อนตัวต่อจะดูไม่ดี ควรลดพอร์ตตาม แต่ถ้าเด้งกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1220 ได้อย่างมั่นคง จะมีแนวต้าน 1230-1240, 1250 การอ่อนตัวมีแนวรับ 1215-1210, 1200 หรือต่ำกว่า

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : COM7 – คาดยอดขาย 2Q25F เติบโตดี และ GPM สูงขึ้น y/y จากการปรับ product mix และผลจากเปลี่ยนวิธีบันทึกบัญชีสำหรับธุรกิจรถ EV และโซลาร์รูฟทอปได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า บริษัทมีแผนจะเปิดโชว์รูม AION เพิ่มอีก 5 แห่งภายในปีนี้ ธุรกิจให้เช่ารถแท็กซี่ไปได้ดีเนื่องจากบริษัทคิดค่าเช่าถูกกว่ารถน้ำมัน และต้นทุนเชื้อเพลิงผู้เช่าก็ต่ำกว่า บริษัทบรรลุเป้าหมายส่งมอบรถแท็กซี่ 200 คันในเฟสแรกแล้ว คาดกำไรหลักปีนี้โต +12% แนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 29.50 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829