Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาดวันนี้ SET ไซด์เวย์/พักตัว แรงงานสหรัฐฯ​กดดันจิตวิทยา

73

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 4 สิงหาคม 2568 )---- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 4 สิงหาคม 2568 คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/พักตัว ตลาดมีแรงเทขายออกมารุนแรงหลังหลุดต่ำกว่าแนวรับที่ไม่ควรหลุดที่ 1228 ทำจุดสูงสุดที่แนวต้าน 1255 ไม่ผ่านก่อนลง มีแรงขาย Sell on Fact หลังไทยได้อัตราภาษีอัตรา 19% ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดไว้ ในขณะที่จิตวิทยาการลงทุนภายนอกวันนี้เริ่มเป็นลบ ตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ NFPs ลดลงเร็ว ประเมินแนวรับ 1210/1200 ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 1228/1235

 

ประเด็นสำคัญ
• การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ใน ก.ค. 2568 เพิ่มขึ้น 7.3 หมื่นตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ และได้ปรับลดการเพิ่มขึ้นของจ้างงานใน มิ.ย. และ พ.ค. ลงเหลือ 1.4 และ 1.9 หมื่นตำแหน่ง จากที่เคยรายงานที่ 1.47 และ 1.25 แสนตำแหน่ง และอัตราว่างงานใน ก.ค. ที่เพิ่มขึ้นเป็น 4.2% สะท้อนภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ
• วันนี้ THAI กลับมาซื้อ-ขายเป็นวันแรก จากสถิติในอดีต 6 บริษัทที่กลับมาซื้อขาย (A5 SMPC NIPPON MDX THL TGPRO) พบว่าให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 1 เดือนหากซื้อที่ราคาเปิดราว 11% โดยมีความน่าจะเป็น 67% แต่ผลตอบแทนจะเป็นลบหากซื้อราคาปิดของการซื้อขายวันแรก
• ครม. ได้จัดการประชุมนัดพิเศษให้ “ทีมไทยแลนด์” นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องไทยถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ ในอัตรา 19% รวมถึงข้อเสนอต่างๆ ที่ไทยให้กับสหรัฐฯ โดยข้อเสนอจะยังไม่มีผลผูกพันในทันที และทั้งสองฝ่ายจะหารือลงในรายละเอียดต่อไป เช่น รายละเอียดของสินค้าสหรัฐฯ ที่ไทยจะทำเข้า และกฎเกณฑ์เกี่ยวกับ Rule of Origins
• รมว. ท่องเที่ยวฯ เผยช่วง 1H68 คนไทยมีการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศแล้วกว่า 100.23 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 2.5%YoY ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในประเทศ และคาดใน ส.ค. นี้ ซึ่งมีช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันแม่แห่งชาติจะเป็นช่วงสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
• OPEC+ มีมติเพิ่มการผลิตใน ก.ย. ขึ้น +547kBD ทำให้ตั้งแต่ เม.ย. OPEC+ มีแผนเพิ่มการผลิตรวม 2.5MBD หรือ 2.4% ของความต้องการโลก และเป็นการเพิ่มคืนมาตรการลดการผลิตโดยสมัครใจ 2.2MBD และการเป็นการเพิ่มการผลิตของ UAE โดย OPEC+ มองตลาดน้ำมันคงแข็งแกร่ง ท่ามกลางแรงกดดันต่อรัสเซียจากสหรัฐฯ และ EU

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาส Sideway หลังไทยได้ข้อสรุปการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ แม้ระยะสั้นอาจมีแรงขาย Sell on Fact จากการฟื้นตัวของ SET ขึ้นมาที่ระดับ 1230-1250 (PER ราว 14 เท่า) สะท้อนถึงความหวังว่าสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากไทยในระดับใกล้เคียงประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคไประดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ดี มองอัตราดังกล่าวในอัตรา 19% ยังต่ำกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนาม ทำให้มองไทยยังคงมีศักยภาพในการแข่งขันที่ดีในตลาดสหรัฐฯ และอาจจะช่วยหนุนให้ Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยได้ต่อเนื่อง และส่งผลให้ SET มีโอกาสกลับขึ้นไปซื้อขายกรอบที่ระดับ 14-16 เท่า หรือ 1242-1419 จุด กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy”

 


แนวรับ – แนวต้าน : 1210/1200– 1228/1235

 


ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET มีโอกาส Sideways หลังถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ในอัตราต่ำกว่าคู่แข่งสำคัญ Fund Flow ที่อาจหนุนเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 4 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play โมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
3. Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Laggard Play ซึ่งคาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเลือกหุ้น SET50 ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้น MTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก โดยมี PBV และ PER 2568F < -1SD อีกทั้งมีพื้นฐานดี (กำไรเติบโต, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมี SETESG Rating A-AAA) แนะนำ BDMS CPALL MINT MTC PTT 2) กลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้างที่ได้ประโยชน์หลังจากน้ำท่วม และยอดขายสาขาเดิมมีสัญญาณฟื้นตัว โดยลดในอัตราที่น้อยลง แนะนำ GLOBAL HMPRO 3) หุ้นที่ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลง แนะนำ TIDLOR MTC SIRI ก่อนการประชุม กนง. ในวันที่ 13 ส.ค. นี้ และ 4) หุ้นฟื้นตัวเร็วหลังปลดล็อกปัญหาภาษีสหรัฐฯ ได้แก่ AMATA GPSC WHA DELTA


Daily Top Picks
FTREIT: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากปลดล็อก Overhang ปัญหาภาษีสหรัฐฯ และคาดกำไรหลัก 3QFY68F (เม.ย. – มิ.ย. 68) จะอยู่ที่ 710 ลบ. เพิ่มขึ้น 7.1%YoY และ 1.2%QoQ แรงหนุนจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการโรงงานและคลังสินค้า อีกทั้งมีแผนซื้อสินทรัพย์กรรมสิทธิ์เพิ่มเติม 1.9 พันลบ. ในเดือน ก.ย. นี้

GPSC: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากราคาก๊าซฯ และ Bond Yield ลดลงแรง ตลาดรับรู้ กกพ. ประกาศค่าไฟงวด ก.ย.-ธ.ค. 2568 ที่ 3.94 บาท/หน่วย ไปในระดับหนึ่งแล้ว มองกระทบผลประกอบการจำกัด ปี 2568 คาดกำไรปกติจะเติบโต 3.9%YoY จากการเพิ่มกำลังการผลิต และต้นทุนเชื้อเพลิงและผลตอบแทนพันธบัตรลดลง

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้