วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน โดยมีแรงกดดันจากผลการประชุมเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ขณะที่ความคาดหวังผลการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและไทยเป็นปัจจัยช่วยพยุงดัชนี มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และธนาคาร มีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มขนส่งและค้าปลีก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,242.35 จุด -1.79 จุด -0.14% มูลค่าการซื้อขาย54,200.06 ลบ. (เดือนที่ผ่านมาดัชนี +152.79 จุด +14.02%) Program Trading +1,026.19 ลบ. ต่างชาติ+558.40 ลบ. TFEX -3,606 สัญญา ตราสารหนี้+225.90 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ สหรัฐฯ เปิดเผยว่าดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)ปรับตัวขึ้น 2.6%YoY ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ2.5%YoY จากระดับ 2.4%YoY ในเดือนพ.ค.
+ สหรัฐเปิดเผยอัตราภาษีศุลกากรที่จะเรียกเก็บจากสินค้านำเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 19% เท่ากับกัมพูชาและมาเลเซีย โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.นี้
+ ผลสำรวจของสมาคมนักลงทุนรายย่อยอเมริกัน (AAII) พบว่า นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นต่อทิศทางของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในระยะ 6 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้นักลงทุนที่มีความเชื่อมั่นต่อทิศทางของตลาดหุ้นในระยะ 6 เดือนข้างหน้า มีจำนวน 40.3% เพิ่มขึ้นจากระดับ 36.8% ในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ 37.5%

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 330.30 จุด หรือ -0.74% ขณะที่ดัชนี S&P500และ Nasdaq ปิดลบเช่นกัน เนื่องจากกระแสตอบรับผลประกอบการของบริษัทไมโครซอฟท์ และเมตา แพลตฟอร์มส์ แผ่วลงในช่วงท้าย ขณะที่นักลงทุนรอดูผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างแอปเปิ้ล และอะเมซอน ซึ่งจะเปิดเผยหลังตลาดปิดทำการ รวมทั้งติดตามความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และบรรดาประเทศคู่ค้า ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค.
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 74 เซนต์ หรือ -1.06% ปิดที่ 69.26ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า โดยขณะนี้ใกล้ถึงกำหนดเส้นตายการเรียกเก็บภาษีศุลกากรอัตราสูงในวันที่ 1 ส.ค.
- ธ.กรุงไทยประเมินว่า สถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาจะส่งผลกระทบผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ การค้าชายแดน การท่องเที่ยว และการลงทุน ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าความเสียหายอย่างน้อยราว 17,000 ล้านบาทต่อเดือน โดยในด้านการค้าชายแดนนั้น ถือเป็นช่องทางที่จะได้รับผลกระทบจากการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชามากที่สุด เนื่องจากการค้าชายแดนไทยและกัมพูชาคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 48% ของมูลค่าการค้าระหว่างไทยและกัมพูชาทั้งหมด
- SCB EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศCLMV จะชะลอลงเหลือ 5.1% ในปี 2568 จาก 6.3% ในปี 2567 เนื่องจากอัตราภาษีของสหรัฐฯที่สูงขึ้นภายใต้นโยบาย Trump 2.0
- นายอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า สหรัฐจะต้องชดเชยความเสียหายที่อิหร่านได้รับจากสงครามในเดือนมิ.ย. ก่อนที่อิหร่านจะกลับมาเจรจาประเด็นนิวเคลียร์กับสหรัฐ
- ธปท. กล่าวว่า จะเริ่มเห็นการชะลอลงของเศรษฐกิจไทยในเดือน มิ.ย. และชะลอต่อในไตรมาสที่ 3 จากผลกระทบของนโยบายการค้าโลกต่อการส่งออกสินค้า และการผลิตทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Sideway ออกข้างตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังทำเนียบขาวเปิดเผยรายละเอียดสุดเกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากรที่จะเรียกเก็บจากประเทศต่าง ๆ โดยกำหนดว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้าน าเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 19% (ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด) มองกรอบดัชนีที่ 1,235 -1,250 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
-เที่ยวไทยคนละครึ่ง : AWC MINT ERW CENTEL SHR
- หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการที่ก.ล.ต.เตรียมเปิด Sandbox ให้ชาวต่างชาตินำคริปโตแลกเงินบาทนำมาใช้จ่าย
ธนาคาร KBANK SCB อBAY โรงแรม MINT CENTEL ERW AWC สายการบิน AAV BA บันเทิง MAJOR
ค้าปลีก CPALL CPAXT หุ้นคริปโต JTS BTC XPG ZIGA
-ได้รับผลกระทบเชิงลบจากความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา : CBG SAV
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการภาษีที่ต่ำกว่า 36% : AMATA WHA ROJNA TU ITC AAI HANA KCE DELTA