วันพุธที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนสหรัฐและจีนตกลงยืดการเจรจาออกไปอีก 90 วัน ประกอบกับความคาดหวังว่าไทยจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐได้ก่อนวันที่ 1 ส.ค.นี้ มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ อสังหาฯ และโรงพยาบาล ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,244.14 จุด+10.46 จุด +0.85% มูลค่าการซื้อขาย 54,671 ลบ. Program Trading -402.7 ลบ. ต่างชาติ -264.9 ลบ.TFEX -834 สัญญา ตราสารหนี้+66.9 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ +1.14% ปิดที่70 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนจับตาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กำหนดเส้นตายที่เร็วขึ้นกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน รวมทั้งการที่ปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
+/- FOMC มีมติด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ4.25-4.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธตามคาด โดยระบุว่าอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำ และตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ในขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
+ สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ของ GDP 2Q68 โดยระบุว่าGDP ขยายตัว 3% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3% และดีกว่ามากเมื่อเทียบกับการหดตัว 0.5% ใน 1Q68 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี
+ ปธน.ทรัมป์กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าส่งออกของเกาหลีใต้ไปยังสหรัฐฯ ที่ 15% เกาหลีเก็บภาษีสหรัฐ 0% ลดลงจาก 25%
+ ADP เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น104,000 ต าแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ64,000 ต าแหน่ง หลังจากลดลง 23,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
+ สศอ. เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมิ.ย. 2568 อยู่ที่ระดับ97.35 ขยายตัว 0.58%YoY ขยายตัวต่อเนื่องเดือนที่ 3 อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 59.58% ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม 2Q68อยู่ที่ระดับ 96.75 ขยายตัว 1.47% สะท้อนว่าภาคอุตสาหกรรมกลับมาผลิตเพิ่มขึ้น
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 171.71 จุด หรือ -0.38% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธาน FED ทำให้นักลงทุนมีความหวังน้อยลงเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่ส าคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร
- ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยว่า อินเดียอาจเผชิญกับภาษีศุลกากรในอัตรา20-25% พร้อมเตือนว่าการเรียกเก็บภาษีขั้นสุดท้ายยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากกำลังเจรจาข้อตกลงการค้าก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค.นี้
- เจอโรม พาวเวล ประธาน FED แถลงข่าวว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนก.ย.หรือไม่ และระบุว่านโยบายการเงินของเฟดในปัจจุบันอยู่ในระดับที่คุมเข้มเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยฉุดรั้งเศรษฐกิจ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสพักตัวออกข้าง โดยนักลงทุนยังจับตาผลการเจรจามาตรการภาษีของสหรัฐ-ไทย ก่อนจะถึงเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค. ประกอบกับติดตามการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมา มองกรอบดัชนีที่ 1,235 -1,250 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- เที่ยวไทยคนละครึ่ง : AWC MINT ERW CENTEL SHR
- หุ้น Defensive : ADVANC PR9 TISCO BGRIM
- หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการที่ก.ล.ต.เตรียมเปิด Sandbox ให้ชาวต่างชาติน าคริปโตแลกเงินบาทนำมาใช้จ่าย
ธนาคาร KBANK SCB BAY โรงแรม MINT CENTEL ERW AWC สายการบิน AAV BA บันเทิง MAJOR
ค้าปลีก CPALL CPAXT หุ้นคริปโต JTS BTC XPG ZIGA
- ได้รับผลกระทบเชิงลบจากความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา : CBG SAV