Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาดวันนี้ SET ชะลอตัวตามแนวต้าน เริ่มสะท้อนภาษีสหรัฐฯ ต่ำบ้างแล้ว

91



สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 31 กรกฎาคม 2568 )---InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 คาดตลาดเริ่มมีโอกาสชะลอตัวตามแนวต้าน หลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและมาที่เป้าหมายระยะสั้นที่ระดับ 1230-1250 จุด ซึ่งสะท้อนความคาดหวังสหรัฐฯ จะเก็บภาษีจากไทยเท่ากับหรือต่ำกว่า 20% ไประดับหนึ่งแล้ว ในขณะที่ Fund Flow เริ่มชะลอตัว แนวรับประเมินไว้ที่ 1235/1228 หากยังเป็นบวกไม่ควรหลุดต่ำกว่า ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 1240/1255

 


ประเด็นสำคัญ
• ไทยอยู่ระหว่างพิจารณา Final Draft ภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ คาดอัตรา 19–20% ใกล้เคียงภูมิภาค ในขณะที่สหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีอินเดีย 25% เหตุมีอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-monetary Trade Barrier) และนำเข้าอาวุธและพลังงานรายใหญ่จากรัสเซียซึ่งอ้างว่าเป็นการสนับสนุนสงครามยูเครน เช้านี้สหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษี 15% กับเกาหลีใต้
• เฟดมีมติคงดอกเบี้ยที่ 4.25–4.50% จากแรงหนุนตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งและเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง ประธานเฟดระบุว่ายังเร็วเกินไปจะประเมินการลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. โดยชี้ว่านโยบายการเงินปัจจุบันอยู่ในระดับคุมเข้มแต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจ สอดคล้องมุมมองเราที่คาดว่าเฟดไม่ลดดอกเบี้ยในปีนี้
• กระทรวงการคลังปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 2568 จะขยายตัว 2.2% (กรอบ 1.7-2.7%) จากเดิมที่ 2.1% หนุนจากภาคการผลิตอุตฯ และการส่งออกที่ขยายตัวดีกว่าคาด ขณะที่การบริโภคภายในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับ IMF ที่ปรับคาดการณ์ GDP ไทยปี 2568 ขึ้นเช่นกันเป็นขยายตัว 2.0% จากเดิมที่ 1.8%
• สศอ. เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) มิ.ย. 2568 ที่ 97.35 ขยายตัว 0.58%YoY ติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม หนุนจากการฟื้นตัวในอุตฯ ยานยนต์, ชิ้นส่วนอิเล็กฯ และน้ำมันปาล์ม, การส่งออกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และมาตรการกระตุ้น ศก.ภาครัฐ อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 59.58%
• ประมาณการครั้งแรก GDP สหรัฐฯ 2Q68 ขยายตัว 3.0%QoQ สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.5%QoQ จากไตรมาสก่อนที่หดตัว 0.5%QoQ หนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ขยายตัว 1.4% และการนำเข้าที่พลิกหดตัว 30.3%QoQ ไตรมาสก่อนมีการนำเข้าซึ่งขยายตัวมากถึง 37.9%QoQ

 


กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยประเมินการฟื้นตัวของ SET มายืนเหนือระดับ 1200 จุด ใกล้เป้าหมายที่ประเมินระดับ 1230-1250 จุด ซึ่งสะท้อนความคาดหวังสหรัฐฯ จะเก็บภาษีจากไทยเท่ากับหรือต่ำกว่า 20% คาด SET เริ่มมี Upside จำกัดและอาจต้องระมัดระวังหากการเจรจาไม่ประสบผลหรือเกิด Sell on Fact ได้หากจบดีลการค้าตามที่คาดหวังได้จริง ส่วนความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชามองกระทบจำกัดต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย เพราะมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกันน้อยและไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยต่อหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50/SET100 อย่างไรก็ดีหาก Fund Flow ยังไหลเข้า คาดมีโอกาสจะหนุนให้ในระยะถัดไป SET กลับไปซื้อขายที่ PER เฉลี่ยระยะยาวอีกครั้งที่ระดับ 16 เท่า หรือ 1376 จุด กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

 

แนวรับ – แนวต้าน : 1235/1228– 1255/1260

 

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET แกว่งตัว Sideways และเริ่มมี Upside จำกัด ระหว่างรอติดตามผลสรุปอัตราภาษีศุลกากรใหม่ที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บจากไทยหลังการเจรจาการค้าเสร็จสิ้นไปแล้ว ก่อนจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. นี้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play โมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลช่วง 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
3. Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Laggard Play ซึ่งคาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเลือกหุ้น SET50 ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้น MTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก (PBV และ PER 2568F < -1SD) และพื้นฐานดี แนะนำ BDMS CPALL MINT MTC PTT 2) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วและเชื่อว่าการเจรจาจะทำให้สหรัฐฯ พิจารณาปรับลดภาษีไทยลงมาที่ระดับ 20% หรือต่ำกว่า จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นและทำให้ FDI กลับเข้าสู่ไทย แนะนำ AMATA GPSC WHA และ 3) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วและเชื่อว่าความขัดแย้งไทย-กัมพูชาจะคลี่คลายลงหรือยุติได้เร็ว แนะนำ AEONTS CBG

 


Daily Top Picks
BDMS: มองเป็นหุ้น Laggard ที่ปรับขึ้นเพียง 4.3%MTD (SET 14.1%MTD) เช้านี้ กำไรของกลุ่มการแพทย์มีสัญญาณที่ดี จาก BH รายงานกำไรสูงกว่าที่ตลาดคาด 10% ส่วน Valuation อยู่ในระดับต่ำ PE ปี 2568F ที่ 19 เท่า (ต่ำกว่า -2SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต) ช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น และเป็นหนึ่งในหุ้นเด่นในกลุ่มการแพทย์


CPALL: มองเป็นหุ้น Laggard และได้รับผลกระทบจากประเด็นกัมพูชาและภาษีสหรัฐฯ จำกัด คาดกำไร 2Q68 จะเติบโต 8%YoY และปี 2568 จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มที่ 15%YoY มอง 2Q68 จะเป็นไตรมาสต่ำสุดของปี ก่อนเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี โครงการซื้อหุ้นคืนช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

บรรลุการค้า..แล้ว By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ในที่ประเทศไทย ก็บรรลุการค้า ภาษีกับสหรัฐ แล้ว แต่ตัวเลขที่เท่าไรนั้น คาดการณ์กันไปต่างๆนาๆ..

ช่วยกันแบก By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม วันก่อน ต่างชาติซื้อ วานนี้ขาย ฝั่ง สถาบันในประเทศ ซื้อ นำพาSET ไปต่อ ทะลุ 1,238 จุด เส้นกราฟ เส้นเทคนิค ...

มัลติมีเดีย

คุยกับ Genใหม่ TNDT "ธนรรจ์ ศตวุฒิ"

คุยกับ Genใหม่ TNDT "ธนรรจ์ ศตวุฒิ"

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้