สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(29 กรกฎาคม 2568)--------------ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่นชำระค่าคลื่นความถี่ย่าน 2300 MHz งวดที่ 1 จำนวน 11,646,950,089.88 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และชำระค่าคลื่นความถี่ย่าน 1500 MHz งวดที่ 1 จำนวน 2,489,868,689.88 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมนำส่งหนังสือค้ำประกันการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่งวดที่เหลือแก่ สำนักงาน กสทช. ตามเงื่อนไขการดำเนินการก่อนรับใบอนุญาตครอบคลุมระยะเวลาการอนุญาต 15 ปี นับตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2568 โดยมีนายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ (ที่ 2 จากซ้าย) หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร พร้อมด้วย นายนฤพนธ์ รัตนสมาหาร (ที่ 6 จากซ้าย) หัวหน้าสายงานรัฐกิจสัมพันธ์และกำกับดูแล และนางสาวกนกพร คุณชัยเจริญกุล (ซ้ายสุด) หัวหน้าสายงานกลยุทธ์กฎระเบียบการกำกับดูแลกิจการ และ นางสาววีณา จ่างเจริญ (ขวาสุด) ผู้เชี่ยวชาญสายงานกลยุทธ์กฎระเบียบการกำกับดูแลกิจการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนบริษัทฯ ในการชำระค่าคลื่นความถี่ โดยมีนายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน (กลาง) รองเลขาธิการ กสทช.สายงานกิจการโทรคมนาคม พร้อมด้วยนางพุธชาด แมนมนตรี (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการสำนัก สำนักการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม 1 (ปท.1) และนายประถมพงศ์ ศรีนวล (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและการจัดการทรัพยากรโทรคมนาคม สำนักงาน กสทช. ร่วมรับมอบ ณ สำนักงาน กสทช.
จากการประมูลครั้งนี้ ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล ชนะการประมูลใบอนุญาตคลื่น 2300 MHz จำนวน 70 MHz ด้วยราคา 21,770,000,168 บาท และคลื่น 1500 MHz จำนวน 20 MHz ด้วยราคา 4,653,960,168 บาท ทำให้ ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล เป็นผู้ให้บริการที่มีชุดคลื่นความถี่ครอบคลุมและครบที่สุดในไทย รวม 8 คลื่นความถี่ ทั้งคลื่นความถี่ต่ำ-กลาง-สูง คือ คลื่น 700 MHz, 900 MHz, 1500 MHz, 1800 MHz, 2100 MHz, 2300 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz เพื่อการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยและยกระดับประสบการณ์การใช้บริการดิจิทัลของผู้ใช้งานในประเทศไทย
การลงทุนเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการจัดการคลื่นความถี่ที่มุ่งรองรับการเติบโตของเทคโนโลยี 5G, AI และ IoT คลื่น 2300 MHz สามารถให้บริการได้ทั้ง 5G และ 4G โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้ว เพื่อส่งมอบความเร็ว ความครอบคลุม และประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม สำหรับคลื่น 1500 MHz เป็นคลื่นใหม่ที่เหมาะสำหรับการพัฒนาเครือข่ายสู่อนาคต สามารถเพิ่มความจุของเครือข่ายและความครอบคลุมในช่วงดาวน์โหลด รองรับการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นทั้งในพื้นที่หนาแน่นและนอกเมือง
ทั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น จะเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำคลื่นความถี่ที่ได้จากการประมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งการขยายพื้นที่ให้บริการ เพิ่มประสิทธิภาพความเร็วและความเสถียรของเครือข่าย ตลอดจนการเสริมศักยภาพในการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งาน รองรับภารกิจการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กรธุรกิจ และส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในระยะยาว