Equality for All
PTTEP : บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตฯ
2Q25 กำไรสุทธิ 13,515 ลบ. หดตัว -18% q-q แม้ปริมาณขายเพิ่ม แต่ราคาขายเฉลี่ยลดลง และต้นทุนเพิ่มขึ้น :
ปริมาณขาย อยู่ที่ 505 KBOED เพิ่มขึ้น +4% q-q หลังโครงการ G2 และ G2 การหยุดซ่อมน้อยลง และการขายน้ำมันเพิ่มขึ้นแหล่งโอมาน และแอลจีเรีย
ราคาขายแก๊ส คาดลดลงเหลือ 5.8 เหรียญ/ MMBTU ตามราคาน้ำมันลดลง และไตรมาสนี้สัดส่วนการขาย liquid เพิ่มขึ้นเป็น 29% จากสัดส่วนการขายตะวันออกกลาง และแอฟริกาเพิ่มขึ้น โดยราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 44.01 เหรียญ/ BOE จาก 45.74 เหรียญ/ BOE
ต้นทุนการผลิต เพิ่มขึ้น q-q เป็น 31.10 เหรียญ/ บาร์เรล จากค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นหลังการผลิตในโครงการ G1 และ G2 เพิ่มขึ้น
ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม ลดลง q-q โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม (Seagreen) ในสก็อตแลนด์จากปัจจัยนอกฤดูกาล อีกทั้งการได้มาซึ่งโครงการสินภูฮ่อมเพิ่มทำให้รับรู้เป็นงบการเงินรวมจากเดิมรับรู้เฉพาะส่วนแบ่งกำไร
รายการพิเศษสุทธิ ที่ -18 ล้านเหรียญ (กำไรจากการป้องกันความเสี่ยง และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและอื่น ๆ +21 ล้านเหรียญ แต่มีขาดทุนจากโครงการในเม็กซิโกที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงด้านการลงทุนจึงหยุดไปและทำให้มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น -39 ล้านเหรียญ)
ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล : PTTEP ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกที่ 4.10 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผลราว 3.5% จากราคาปิดล่าสุด และจะขึ้นเครื่องหมาย XD 8 ส.ค. 2025 และวันจ่ายเงินปันผล 22 ส.ค. 2025 ขณะที่ทั้งปีเราคาดเงินปันผล 7 บาท/ หุ้น
แจ้งลงทุนแปลง A-18 ในมาเลเซียด้วยเงินลงทุน 450 ล้านเหรียญ : PTTEP แจ้งเข้าลงทุนในแปลง A-18 ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (MTJDA) ด้วยการซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท Hess International Oil Corporation ในสัดส่วน 50% หลังการควบรวมกิจการระหว่าง Chevron และ Hess ทำให้ต้องการขายธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป และส่วนที่เหลืออีก 50% ถือโดยปิโตรนาส มูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 450 ล้านเหรียญสหรัฐ
แปลง A-18 เป็นโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติและคอนเดทเสท มีกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุต/ วัน และส่งก๊าซมาให้ไทยและมาเลเซียในสัดส่วนเท่า ๆ กัน ขณะที่สัญญาสัมปทานจะหมดอายุในปี 2029 ซึ่งคาดว่าจะต่ออายุได้เนื่องจากอุปสงค์การใช้ก๊าซทั้งในไทยและมาเลเซียยังดีต่อเนื่องและจะต่อได้อย่างน้อยอีก 35 ปี
ปริมาณก๊าซคงเหลือ แม้สัญญาสัมปทานจะหมดปี 2029 แต่คาดปริมาณก๊าซคงเหลือมีอยู่ราว 2 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต/ วัน ประกอบกับแหล่งดังกล่าวเป็นแหล่งที่ดำเนินการผลิตอยู่แล้ว รวมถึงมีปริมาณสำรองแหล่งก๊าซด้วย อีกทั้งใกล้กับแหล่งเดิมที่บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนา การซื้อครั้งนี้จะทำให้ปริมาณผลิตเพิ่ม 17 KBOED ต่อปี ซึ่งในปีนี้จะรับรู้ราว 5 เดือนคิดเป็นส่วนเพิ่มต่อปริมาณขาย 7-10 KBOED ขณะที่ต้นทุนการผลิตใกล้เคียงกับเดิม และสร้างกระแสเงินสดราว 100 ล้านเหรียญ/ ปี
2H25 คาดปริมาณขายเพิ่มแต่อาจกดดันจากราคาขายที่ลดลง : แนวโน้มปริมาณขายใน 3Q25 คาดจะใกล้เคียงหรือดีขึ้นเล็กน้อย q-q แต่จะเร่งตัวขึ้นใน 4Q25 จากโครงการทั้งในไทยและตปท. และคาดว่าราคาขายเฉลี่ยจะลดลงตามราคาน้ำมันที่ลดลง แต่คาดต้นทุนการผลิตที่ลดลงจะมาชดเชยกับราคาขายที่ลดลงได้
ปรับประมาณการลง แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” : เราได้ปรับลดประมาณการกำไรลง 4.5% จากปรับลดสมมติฐานราคาน้ำมันลงตามราคาน้ำมันที่ปรับลง และปรับปริมาณขายเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่ PTTEP คาดไว้ว่าทั้งปีอยู่ที่ 505-510 KBOED ขณะที่ต้นทุนการผลิตคาดอยู่ที่ 30 เหรียญ/ BOE ปรับกำไรสุทธิลงเหลือ 58,607 ลบ. หดตัว -25.6% y-y ส่งผลให้ราคาเหมาะสมปรับลง 1.0% เหลือ 143.50 บาท/ หุ้น ยังคงเหลือ upside พอสำหรับแนะนำ “ซื้อ”
ซื้อขายตามราคาน้ำมัน
“2H25 แม้ปัจจัยบวกจะมาจากปริมาณขายเพิ่ม และต้นทุนการผลิตที่ลดลง แต่แนวโน้มราคาน้ำมันที่ลดลง รวมถึงการปรับราคาขายรอบใหญ่ซึ่งอาจทำให้แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังไม่เด่นมากนัก อย่างไรก็ตาม จากกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งทำให้ยังมีศักยภาพการจ่ายเงินปันผลที่ดี คาดผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ราว 6.0% ต่อปี
กลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำให้ซื้อขายเล่นรอบตามแนวโน้มราคาน้ำมันขาขึ้นเป็นหลัก ”
นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th