สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 29 กรกฎาคม 2568 )--- นายวิทูร สุริยวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) GLOBAL เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิประจำไตรมาสที่ 2/2568 จำนวน 518.95 ล้านบาท ลดลง 245.19 ล้านบาท หรือลดลง 32.09% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2567 และหากเปรียบเทียบกับยอดขายคิดเป็น 6.34% ของยอดขาย และสำหรับงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เท่ากับ 1,136.44 ล้านบาท ลดลง 351.29 ล้านบาท หรือลดลง 23.61% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2567 และหากเปรียบเทียบกับยอดขายคิดเป็น 6.86% ของยอดขาย โดยมีปัจจัยหลัก ดังนี้
1) รายได้จากการขายประจำไตรมาส2/2568 เท่ากับ 8,183.00 ล้านบาท ลดลงจากระยะเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 532.44 ล้านบาท หรือ 6.11% และสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เท่ากับ 16,556.62 ล้านบาท ลดลงจากระยะเวลา เดียวกันของปี 2567 จำนวน 926.25 ล้านบาท หรือ 5.30% เป็นผลมาจากการลดลงของยอดขายสาขาเดิม
2) รายได้อื่นประจำไตรมาส2/2568 เท่ากับ 202.13 ล้านบาท ลดลงจากระยะเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 4.28 ล้านบาท หรือ 2.07% และสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เท่ากับ 416.66 ล้านบาท ลดลงจากระยะเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 2.42 ล้านบาท หรือ 0.58% เนื่องจากรายได้ค่าบริการที่ได้รับจากลูกค้าและรายได้ส่งเสริมการขายที่ได้รับจากคู่ค้าลดลง
3) กำไรขั้นต้นประจำไตรมาส2/2568 เท่ากับ 2,080.13 ล้านบาท ลดลงจากระยะเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 240.05 ล้านบาท หรือ 10.35% และคิดเป็นอัตรา 25.42% ของรายได้จากการขาย มีสัดส่วนลดลง 1.20% และสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เท่ากับ 4,185.45 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2567 จำนวน 324.61 ล้านบาท หรือ 7.20% คิดเป็น อัตรา 25.28% ของรายได้จากการขาย มีสัดส่วนลดลง 0.52% เป็นไปตามยอดขายที่ลดลง
4) ต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายการบริหาร(ไม่รวมค่าเสื่อมราคา กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เกิดขึ้นจริง และ กำไร (ขาดทุน)จากเงินลงทุนชั่วคราวที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง) ประจำไตรมาส 2/2568 เท่ากับ 1,303.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเวลา เดียวกันของปี 2567 จำนวน 52.19 ล้านบาท หรือ 4.17% โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวคิดเป็น 15.92% ของยอดขาย และคิดเป็นต้นทุน ในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารเฉลี่ยต่อสาขา เท่ากับ 13.86 ล้านบาท ลดลง 1.42% จากระยะเวลาเดียวกันของปีที่ ผ่านมา และสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เท่ากับ 2,463.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2567 จำนวน 73.24 ล้านบาท หรือ 3.06% โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวคิดเป็น 14.88% ของยอดขาย และคิดเป็นต้นทุนในการจัดจำหน่ายและ ค่าใช้จ่ายในการบริหารเฉลี่ยต่อสาขา เท่ากับ 26.20 ล้านบาท ลดลง 2.42% จากระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมา จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายกลุ่มเงินเดือนพนักงาน และค่าใช้จ่ายของสาขาที่เปิดใหม่ 5 สาขา
5) ต้นทุนทางการเงินประจำไตรมาส 2/2568 เท่ากับ 59.51 ล้านบาท ลดลงจากระยะเวลาเดียวกันของปี2567 จำนวน 10.94 ล้าน บาท หรือ 15.53% และสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2568 เท่ากับ 123.67 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของ ปี2567 จำนวน 32.80 ล้านบาท หรือ 20.96% เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมของสถาบันการเงิน
6) ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ประจำไตรมาส 2/2568 เท่ากับ 111.07 ล้านบาท ลดลงจากระยะเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 67.65 ล้านบาท หรือ 37.85% และสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เท่ากับ 260.01 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกัน ของปี2567 จำนวน 97.61 ล้านบาท หรือ 27.29% เป็นผลจากกำไรก่อนหักภาษีลดลง
7) กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา(EBITDA) ประจำไตรมาส 2/2568 เท่ากับ 1,025.28 ล้านบาท ลดลงจากระยะเวลา เดียวกันของปี 2567 จำนวน 304.89 ล้านบาท หรือ 22.92% และสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เท่ากับ 2,215.99 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2567 จำนวน 429.27 ล้านบาท หรือ 16.23%
สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ(เฉพาะกิจการ) เท่ากับ 477.13 ล้านบาท ลดลงจาก ช่วงเวลาเดียวกันของปี2567 จำนวน 223.46 ล้านบาท หรือลดลง 31.89% เมื่อรวมส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าผ่านบริษัท โกลบอลเฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และการลงทุนในบริษัทย่อย บริษัทฯมีผลกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมเท่ากับ 518.95 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 245.19 ล้านบาท หรือ ลดลง 32.09%
ขณะที่ผลประกอบการสะสมสำหรับประจำงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 บริษัทฯมีกำไรสุทธิตามงบการเงิน รวม เท่ากับ 1,136.44 ล้านบาท ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 351.29 ล้านบาท หรือ 23.61% มีสาเหตุหลัก จากยอดขายที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ยังคงมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย อันเป็น ผลจากกำลังซื้อที่เปราะบางและแนวโน้มการบริโภคที่ชะลอตัว
ณ 30 มิถุนายน 2568 บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) มีสาขาที่เปิดให้บริการในประเทศรวม 92 สาขา เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 5 สาขา และมีสาขาของบริษัทย่อยในประเทศกัมพูชาอีก 2 สาขา