สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (24 กรกฎาคม 2568 )-----นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมิถุนายน 2568 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมิถุนายน 2568 มีทั้งสิ้น 130,223 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2568 ร้อยละ 6.44 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 11.98 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้นจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) เพิ่มขึ้นร้อยละ 314.55 และผลิตรถกระบะเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.39 จากการผลิตรถกระบะส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.00 และผลิตเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.27 จากฐานต่ำในเดือนเดียวกันปีที่แล้ว
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 724,715 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 4.80
รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ 51,019 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 18.56 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 27,020 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 61
- รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 3,304 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 55
- รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 317 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 99
- รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 20,378 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ52
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 มีจำนวน 264,668 คัน เท่ากับร้อยละ 36.52 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 6.55 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 118,730 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 04
- รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 23,798 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ48
- รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 9,937 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 60
- รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 112,203 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 77
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนมิถุนายน 2568 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 ไม่มีการผลิต
รถยนต์บรรทุก เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งหมด 79,204 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 8.12 และตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 460,047 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 3.76
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งหมด 78,492 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 8.39 และตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 455,678 คัน เท่ากับร้อยละ 62.88 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 2.37 โดยแบ่งเป็น
- รถกระบะบรรทุก 73,057 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 29
- รถกระบะดับเบิลแค็บ 293,028 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 24
- รถกระบะดับเบิลแค็บ BEV 90 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 100
- รถกระบะ PPV 89,503 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 51
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน - มากกว่า 10 ตัน เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ 712 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 15.14 รวมเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 ผลิตได้ 4,369 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 61.23
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ 84,918 คัน เท่ากับร้อยละ 65.21 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 3.85 ส่วนเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 475,013 คัน เท่ากับร้อยละ 65.54 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 7.98
รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตเพื่อการส่งออก 24,454 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 3.50 และตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 97,570 คัน เท่ากับร้อยละ 36.87 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ลดลงจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 35.60
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2568 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 60,464 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 4 และตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 377,443 คัน เท่ากับร้อยละ 82.83 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 3.50 โดยแบ่งเป็น
- รถกระบะบรรทุก 41,536 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 54
- รถกระบะดับเบิลแค็บ 265,833 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 28
- รถกระบะ PPV 70,074 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 62
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ 45,305 คัน เท่ากับร้อยละ 34.79 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 31.24 และเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 ผลิตได้ 249,702 คัน เท่ากับร้อยละ 34.46 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 1.90
รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 26,565 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 36.89 และตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ผลิตได้ 167,098 คัน เท่ากับร้อยละ 63.13 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.86
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2568 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 18,028 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 26.27 และตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 78,235 คัน เท่ากับร้อยละ 17.17 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 23.35 ซึ่งแบ่งเป็น
- รถกระบะบรรทุก 31,611 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 33
- รถกระบะดับเบิลแค็บ 27,195 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 74
- รถกระบะ PPV 19,429 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ16
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนมิถุนายน 2568 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 ไม่มีการผลิต
รถบรรทุก เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ 712 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 15.14 และตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 4,369 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 61.23
รถจักรยานยนต์
เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 205,565 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 12.01 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 176,134 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 12.48 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 29,431 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 9.29
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,269,946 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 6.08 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,041,992 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 4.77 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 227,954 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 12.50
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมิถุนายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 50,079 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2568 ร้อยละ 4.12 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 5.07 เพราะฐานต่ำของปีที่แล้วจากยอดขายที่ลดลงตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 เป็นต้นมา เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกันจากการขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นและรถ PPV เพิ่มขึ้นจากการออกรุ่นใหม่ของบางบริษัท แต่รถกระบะยังคงขายลดลงร้อยละ 19.9 จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศยังคงอ่อนแอจากการลงทุนภาคเอกชนไตรมาสหนึ่งของปี 2568 ลดลงร้อยละ 0.9 จากไตรมาสหนึ่งของปีก่อน ส่งผลให้แรงงาน โดยภาคการผลิตลดลง 0.4% สาขาก่อสร้างลดลง 5.1% อำนาจซื้อของประชาชนจึงอ่อนแอ
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 32,252 คัน เท่ากับร้อยละ 64.40 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 14.80
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 12,242 คัน เท่ากับร้อยละ45 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 3.36
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 9,263 คัน เท่ากับร้อยละ 50 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 72.82
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 557 คัน เท่ากับร้อยละ 11 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 150.90
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 10,190 คัน เท่ากับร้อยละ35 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.49
รถกระบะมีจำนวน 11,153 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 20.74 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 110 ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถกระบะ REEV มีจำนวน 6 คัน ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 4,032 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 55.02 เพราะมีบางบริษัทแนะนำรถ PPV รุ่นใหม่สู่ตลาดในขณะที่ปีนี้ที่ยังไม่มีจำหน่าย รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,353 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 11.68 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,173 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 13.94
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 154,317 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2567 ร้อยละ 6.28 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 2.50
ตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 รถยนต์มียอดขาย 302,694 คัน ลดลงจากปี 2567 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 1.73 แยกเป็น
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 193,683 คันเท่ากับร้อยละ 63.99 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 4.99
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 72,512 คัน เท่ากับร้อยละ96 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 12.28
- รถยนต์นั่งแหละรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 54,084 คัน เท่ากับร้อยละ87 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 61.41
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 5,004 คัน เท่ากับร้อยละ77 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 315.96
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 62,083 คัน เท่ากับร้อยละ51 ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.49
รถกระบะมีจำนวน 73,620 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 17.82 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 369 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถกระบะ REEV มีจำนวน 6 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 20,714 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 9.85 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 7,206 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 13.59 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 7,096 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนช่วงกันในปีที่แล้ว 4.82
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 906,165 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 1.76
การส่งออก
รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนมิถุนายน 2568 ส่งออกได้ 88,085 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 8.65 แต่ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 1.11 ลดลงจากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกบางรุ่นจากการเข้มงวดเรื่องอุปกรณ์ช่วยเหลือการขับเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงของประเทศคู่ค้า
ขอบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ประเทศไทยย้อนหล้ง "เดือนเมษายน 2568 เป็นเดือนแรกที่มีการผลิตรถกระบะไฟฟ้าในประเทศไทย เดือนพฤษภาคม 2568 เป็นเดือนแรกที่ส่งออกรถกระบะไฟฟ้าจากการผลิตในประเทศไทย”
ประเภทรถยนต์ส่งออกเดือนมิถุนายน 2568 แบ่งเป็น ดังนี้
- รถกระบะ 54,988 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 43 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 0.79
- รถกระบะ BEV 49 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 06 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
- รถยนต์นั่ง ICE 16,979 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 28 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567ร้อยละ 15.64
- รถยนต์นั่ง BEV 4 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 01 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออกรถยนต์นั่ง BEV
- รถยนต์นั่ง HEV 4,511 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 12 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 22.25
- รถ PPV 11,554 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 12 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 8.01
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 57,439.52 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 8.97 แต่เครื่องยนต์และชิ้นส่วนส่งออกเพิ่มขึ้นดังนี้
- เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,328.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 48
- ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 16,412.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 02
- อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,069.38 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 26
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมิถุนายน 2568 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 79,250.39 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 5.78
เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 459,357 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 11.50 แบ่งเป็น
- รถกระบะ 294,996 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 22 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 2.16
- รถกระบะ BEV 71 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 02 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
- รถยนต์นั่ง ICE 70,630 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 38 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 41.22
- รถยนต์นั่ง BEV 664 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 21 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
- รถยนต์นั่ง HEV 26,725 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 82 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 2.86
- รถ PPV 66,271 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 43 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 5.15
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 314,370.86 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 13.51 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 18,499.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 11
- ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 95,115.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 44
- อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 13,198.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 99
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 441,184.40 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 9.17
รถจักรยานยนต์
เดือนมิถุนายน 2568 มีจำนวนส่งออก 65,803 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2568 ร้อยละ 1.87 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 20.27 โดยมีมูลค่า 5,074.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 22.42
- ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น85 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 13.24
- อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 203
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนมิถุนายน 2568 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 5,484.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 23.83
เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 436,178 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 5.28 มีมูลค่า 31,727.75 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 3.06
- ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,079.51 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ82
- อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,294.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ39
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 34,101.67 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 1.84
เดือนมิถุนายน 2568 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 84,734.83 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 4.30
เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 475,286.07 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 8.68
ปรับเป้าการผลิตรถยนต์ ปี 2568 จาก 1,500,000 คันเป็น 1,450,000 คัน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยตัวเลขประมาณการการผลิตรถยนต์ของสมาชิกกลุ่มฯ ในปี พ.ศ. 2568 (ใหม่)
ปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 2568 จาก 1,500,000 คัน ลดลงร้อยละ 3.33 เป็น 1,450,000 คัน ลดลง 50,000 คัน โดยปรับเป้าเฉพาะผลิตเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 5 จาก 1,000,000 คันเป็น 950,000 คัน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับลดเป้าหมายการผลิตเพื่อการส่งออก ดังนี้
- มาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่อาจกระทบต่อมูลค่าการค้าโลกภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อและยอดจำหน่ายรถยนต์ลดลง
- การเพิ่มความเข้มงวดด้านข้อกำหนดการปล่อยคาร์บอน
- การยุติการผลิตรถยนต์บางรุ่นเพื่อปรับไลน์การผลิตสู่รุ่นใหม่
- ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาคของโลก
- การรุกตลาดของรถยนต์ในประเทศคู่ค้า ซึ่งเพิ่มการแข่งขันและกดดันยอดขาย
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมิถุนายน 2568
เดือนมิถุนายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 15,100 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 88.99 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 13,312 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน2567 ร้อยละ99
- รถยนต์นั่งจำนวน 12,915 คัน
- รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 386 คัน
- รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 1 คัน
- รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 10 คัน
- รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 178 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 91%
- รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 1,591คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน2567 ร้อยละ02
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 1,591 คัน
- รถโดยสารมีทั้งสิ้น 10 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 96
- รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 6 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 29
เดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 69,055 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 33.03 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 57,027 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายน2567 ร้อยละ09
- รถยนต์นั่งจำนวน 55,831 คัน
- รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 1,083 คัน
- รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 13 คัน
- รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 145 คัน
- รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 300 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ 16
- รถยนต์สามล้อมีทั้งสิ้น 11คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มิถุนายน2567ร้อยละ90
- รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล 7 คัน
- รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 4 คัน
- รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 11,539คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มิถุนายน2567 ร้อยละ98
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 11,538 คัน
- รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 1 คัน
- รถโดยสารมีทั้งสิ้น 63 คัน ลดลงเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ71
- รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 115 คัน ลดลงเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ร้อยละ75
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนมิถุนายน 2568
เดือนมิถุนายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 11,520 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 8.49 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 11,384คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน2567 ร้อยละ04
- รถยนต์นั่งจำนวน 11,340 คัน
- รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 6 คัน
- รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 17 คัน
- รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 21 คัน
- รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 136 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน2567 ร้อยละ78
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 136 คัน
เดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 72,313 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 0.57 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 71,736 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน2567 ร้อยละ13
- รถยนต์นั่งจำนวน 71,507 คัน
- รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 23 คัน
- รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 119 คัน
- รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 85 คัน
- รถยนต์บริการให้เช่าจำนวน 2 คัน
- รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 577 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน2567 ร้อยละ74
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 577 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนมิถุนายน 2568
เดือนมิถุนายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,524 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 80.78 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 1,524 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ78
- รถยนต์นั่งจำนวน 1,519 คัน
- รถยนต์บริการทัศนาจร 5 คัน
เดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 11,346 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 131.74 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 11,346คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ74
- รถยนต์นั่งจำนวน 11,318 คัน
- รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 20 คัน
- รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 8 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 296,784 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 61.98 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
- รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 217,093 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 89
- รถยนต์นั่งมีจำนวน 212,313 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 77
- รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนมีจำนวน 3,568 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 81
- รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 220 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 36
- รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 203 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 88
- รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 3 คัน ซึ่งในช่วงเดียวกันไม่มีการจดทะเบียน
- รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 786 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ19
- รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 1,181 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 151.81
- รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 1,030 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 30
- รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 119 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 96
- รถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 911 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 35
- รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 73,617 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 72
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 73,512 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 83
- รถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 105 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ64
- อื่นๆ
- รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2,848 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 37
- รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 1,015 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 95
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 542,371 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 30.73 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
- รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 532,580 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 29
- รถยนต์นั่งมีจำนวน 531,171 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 24
- รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 512 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 49
- รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 193 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ42
- รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 305 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ23
- รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 7 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 40
- รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 392 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 02
- รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2567
- รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 9,788 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 94
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 9,788 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 94
- อื่นๆ
- รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2567
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 74,557 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 26.85 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
- รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 74,557 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 85
- รถยนต์นั่งมีจำนวน 74,458 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 85
- รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คนมีจำนวน 1 คัน ในปี 2567 ยังไม่มีการจดทะเบียน
- รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 60 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 34
- รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 27 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 85
- รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 67
- รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 6 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 20