---ยังได้อานิสงค์จากการลงทุนย้ายฐานการผลิต---
ธนาคารปรับลดจีดีพีไทยปี 25 ลงเป็น 1.5-2.0% สะท้อนภาคส่งออกที่ชะลอตัวลงใน 2H25F หลังจากการส่งออกเร่งตัวมากใน 1H25 ก่อนภาษีทรัมป์จะมีผลบังคับใช้ นอกจากนั้นภาคท่องเที่ยวก็เติบโตน้อยกว่าคาด การลงทุนในประเทศและต่างประเทศยังซบเซาเนื่องจากความไม่แน่นอนของภาษีทรัมป์และการเมืองไทย
เราใช้สมมติฐานที่ conservative กว่าธนาคาร โดยธนาคารคาดสินเชื่อปีนี้เติบโต 3-4% โดยจะเร่งตัวขึ้นใน 4Q25F แต่เราให้ไว้ที่ 2% ส่วน NIM ลดลงตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาลง (โดยธนาคารคาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยนโยบาย 1 ครั้งที่ 0.25% ในช่วงที่เหลือของปีนี้) ต้นทุนเครดิตอยู่ในระดับสูงต่อ ขณะที่ NPL ratio อยู่ในระดับ 3.0+/-%
แนวโน้มกำไรสุทธิ 2H25F คาดว่าจะอ่อนลง h/h จาก NIM ที่แคบลง สัดส่วน C/I ratio ขยับขึ้นใน 2H25F เพราะรายได้ธนาคารอ่อนลง ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียม หนุนโดยรายได้จากการขายประกันและบริหารความมั่งคั่ง ด้านต้นทุนเครดิตคาดว่าจะลดลง h/h หลังจากตั้งสารองไปมากในช่วงครึ่งปีแรก
คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 196 บาท อิงกับ P/BV ปีนี้ที่ 0.65 เท่า (Mean) ทั้งนี้ธนาคารบริหารจัดดการคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี มีความสามารถในการขยายรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ธุรกิจในต่างประเทศไปได้ดี โดยสินเชื่อในอินโดนีเซียขยายตัวเป็นเลขหลักเดียวด้านสูง และ Valuation ถูก โดยมี P/BV ต่ำเพียง 0.5 เท่า
นักวิเคราะห์ : ธนินี สถิรเรืองชัย : thaninees@dbs.com : Tel. 02 857 7837