Bangkok Bank (BBL TB)
ราคาหุ้นต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน
โอกาสเข้าลงทุน หุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร
เราแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 180 บาท (อิง P/BV ปี 68 ที่ 0.6 เท่า และ ROE ที่ 8.2%) BBL เป็นหุ้นที่น่าสนใจด้วยราคาที่ถูก แนวโน้มกำไรที่ชัดเจน และคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง แม้จะให้ผลตอบแทนเงินปันผลต่ำกว่าคู่แข่ง แต่ราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ PER ปี 68 เพียง 6 เท่า และ P/BV เพียง 0.48 เท่า ซึ่งต่ำที่สุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ ขณะที่ผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ที่ 6.0% BBL ยังถือเป็น “หุ้น laggard” โดยให้ผลตอบแทนรวม (รวมเงินปันผล) แค่ 2% ตั้งแต่ต้นปี เทียบกับธนาคารใหญ่รายอื่นที่อยู่ในช่วง 7–9% ความเสี่ยงที่ควรระวัง คุณภาพสินทรัพย์ที่อาจแย่กว่าคาด และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่อาจลดลง
เศรษฐกิจครึ่งหลังปี 68 มุมมองระมัดระวังมากขึ้น
BBL ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 68 ลงเหลือ 1.5–2.0% จากเดิม 2.0% โดยมองว่าภาคท่องเที่ยวและการส่งออกน่าจะชะลอตัว ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจล่าช้าจากปัญหาการเมือง ธนาคารยังคงเป้า NIM ไว้ที่ 2.8% โดยอิงสมมติฐานว่า กนง. จะลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 25bps ในครึ่งปีหลัง ผู้บริหารยืนยันว่าไม่มีแผนรับรู้กำไรจากการลงทุนเพื่อชดเชยรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติปกติในช่วงดอกเบี้ยต่ำ ทั้งนี้ BBL ยังมีพอร์ตการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มธนาคาร (มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท) เนื่องจากมีอัตราส่วนเงินให้กู้ต่อเงินฝากต่ำสุดในกลุ่ม (เพียง 85%)
ตั้งสำรองปี 68 คาดทรงตัว NPL เพิ่มใน Q3 แล้วลดลงใน Q4
ผู้บริหารคาดว่า NPL จะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3Q68 และจะลดลงชัดเจนในไตรมาส 4Q68 จากการปรับโครงสร้างหนี้ โดย NPL ส่วนใหญ่เป็นหนี้เสียเดิมที่กลับมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็น SME ที่ต้องตั้งสำรองในระดับต่ำ ธนาคารคาดว่าจะตั้งสำรองทั้งปีไว้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 35,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น credit cost 1.25% (สูงกว่าเป้าที่ 0.9–1.0%) โดยในครึ่งปีแรกตั้งสำรองล่วงหน้าไว้แล้ว 19,800 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่าครึ่งปีหลังจะตั้งสำรองเพียงราว 15,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารจะไม่กลับรายการสำรองที่ตั้งไว้สำหรับ THAI Airways และยังคงกันสำรองพิเศษไว้ต่อไป
คงประมาณการกำไร กำไรจากการลงทุนช่วยชดเชย NII ที่ลดลง
เราคงประมาณการกำไรทั้งปี โดยได้ปรับรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยและ credit cost ให้สอดคล้องกับผลประกอบการครึ่งปีแรก และแนวโน้มครึ่งปีหลัง คาดว่าในครึ่งปีหลัง ธนาคารจะรับรู้กำไรจากการลงทุนเพื่อชดเชย NII ที่อ่อนแอลง ขณะที่การตั้งสำรองจะลดลงหลังจากที่ตั้งไว้ล่วงหน้าไปมากแล้วในครึ่งปีแรก โดยรวม เราคาดว่ากำไรจะเติบโต 3–6% และ ROE จะอยู่ที่ 8.1% ทั้งในปีนี้และปีหน้า ด้านเงินปันผล BBL มีนโยบายจ่ายปันผลที่ 30–40% ของกำไรสุทธิ และไม่มีแผนซื้อหุ้นคืน โดยคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 8.50 บาทต่อหุ้น ในปี 68
Jesada Techahusdin, CFA
jesada.t@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1395