Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

115

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 21 ก.ค.68 ปิด +1.55 จุด อยู่ที่ 1,208.13 จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,213 ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,149 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 87 ลบ. รายย่อยขาย 329 ลบ. และสถาบันขาย 907 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 921 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น SCB,CPALL,TOP,PTT,CPN และยอดขายหุ้น KBANK,DELTA,AOT,CRC,GLOBAL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,996 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ PTTEP,BBL,CKP โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 7,182 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 122,444 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 566 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ -0.04%, S&P500 +0.14%, Nasdaq +0.38% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสื่อสาร +1.9%, สินค้าฟุ่มเฟือย +0.6% ขณะที่กลุ่มพลังงาน -0.96% ส่วน Conference Board เผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ (LEI) มิ.ย. -0.3% & คาด -0.2% MoM ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.08% จากแรงขายกลุ่มบริการสุขภาพ ขณะที่กลุ่มเหมืองแร่, สายการบินปรับขึ้น โดยนักลงทุนรอผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – อียู
  • Market View
  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ S&P500 +0.14%, Nasdaq +0.38% ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Magnificant 7 นำโดย Alphabet +2.7% ก่อนจะรายงานกำไร Q2/68 ส่งผลบวกไปหุ้นอื่น ๆ เช่น Apple, Amazon โดย LSEG คาดกำไร Q2/68 ของ บจ.ใน S&P500 +6.7% ได้แรงหนุนจากกำไรของกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ส่วนการเจรจาข้อตกลงการค้านั้น ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับคู่ค้าสำคัญ ๆ เช่น อียู, แคนาดา, ญี่ปุ่น และบราซิล ก่อนเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. ประเด็นที่ต้องติดตามค่ำวันนี้ ปธ.เฟด จะแถลงในหัวข้อกรอบเงินกองทุนของธนาคารขนาดใหญ่ที่กรุงวอชิงตัน โดยนักลงทุนยังรอจับสัญญาณบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐ ก่อนการประชุมเฟดวันที่ 29 – 30 ก.ค. ซึ่งตลาดคาดจะยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25 – 4.5%
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดทรงตัว ได้แรงหนุนจากกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับขึ้นตามราคาโลหะอุต ฯ จากความหวังเชิงบวกต่อ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ขณะที่กลุ่มสายการบิน เช่น Ryanair +5.7% หลังรายงานกำไร Q2/68 ดีกว่าคาด ส่งผลบวกไปยังหุ้นสายการบินอื่น ๆ เช่น Lufthansa, EasyJet โดยนักลงทุนยังรอผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ –อียูก่อนเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. สัปดาห์นี้วันพฤหัสติดตามผลการประชุม ECB คาดคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2% และ PMI ภาคการผลิต & บริการยูโรโซน เบื้องต้น ก.ค.
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.72%, ฮั่งเส็ง +0.68% หลัง ธ.กลางจีนคงดอกเบี้ย LPR 1 ปี, 5 ปี ที่ 3.1%, 3.5% ตามลำดับ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีน ส่วน Kospi เกาหลีใต้วานนี้ +0.71% ได้แรงหนุนจาก Fund Flow ของต่างชาติ โดยนักลงทุนยังรอความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, กลุ่มประเทศอาเซียน และอินเดีย
  • SET วานนี้ +0.13% ปริมาณการซื้อขาย 3 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,149 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 87 ลบ. สถาบันขาย 907 ลบ. และรายย่อยขาย 329 ลบ. ได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ นำโดย DELTA ที่ปรับขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐ หลัง US Bond Yield 10 ปี เริ่มปรับลดลง ขณะที่กลุ่มไฟแนนท์ก็มีแรงซื้อเก็งกำไร จากประเด็นข่าวผลการประชุม ครม.วันนี้ คาดจะมีการเสนอชื่อ นายวิทัย รัตนากร เป็นผู้ว่า ธปท. คนใหม่ ที่มีแนวนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ซึ่งเป็นผลบวกต่อต้นทุนด้านการเงินของกลุ่มไฟแนนท์ ส่วนกลุ่มธนาคารก็มีแรงซื้อเก็งกำไร นำโดย SCB หลังรายงานกำไร Q2/68 ดีกว่าตลาด +14 % สาเหตุมาจากกำไรจากเงินลงทุน และยังคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้ดี โดยกำไร Q2/68 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 8 แห่งรวมอยู่ที่ 64,588 ลบ. -2% QoQ, +4.6% YoY และดีกว่าคาด +8.8% ได้แรงหนุนจากกำไรจากเงินลงทุน, กำไรผ่าน FVTPL ขณะที่ NIM มีแนวโน้มหดตัวตามการปรับลดลงของดอกเบี้ยนโยบาย และสำรอง ECL ยังอยู่ระดับสูง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากนโยบายภาษีของสหรัฐ ส่งผลให้แนวโน้มกำไร Q3/68 ของกลุ่มธนาคารยังชะลอตัว QoQ     

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,190 – 1,120 แนวต้าน 1,210 คาดดัชนีทรงตัว รอผลการประชุม ครม.วันนี้ ในการพิจารณาแต่งตั้งผู้ว่า ธปท. ท่านใหม่ แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว กลุ่มไฟแนนท์ TIDLOR, MTC, KKP, NCAP, BAM / โรงไฟฟ้า GULF, GPSC, BGRIM ที่คาดจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงใน 2H/68
  • MTC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 53.50 บาท) แนวโน้มกำไร 2Q68 ยังขยายตัวได้ QoQ, YoY หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นตามพอร์ตสินเชื่อ ขณะที่การค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ปรับลดลงจากการชำระเงินของลูกหนี้และควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ดี โดยการขยายตัวของสินเชื่อส่วนใหญ่จากสินเชื่อจำนำทะเบียน ทั้งนี้คาดปี 68 บริษัทยังสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายสินเชื่อโต 10-15% มีแผนเปิดสาขาเพิ่ม 600 สาขา ขณะที่ credit cost มีแนวโน้มลดลงการค่าใช้จ่ายสำรอง ECL (NPL ไม่เกิน 7%) ส่วน NIM อาจถูกกดดัน แต่เชื่อต้นทุนทางการเงินน่าจะดีขึ้นจากการลดดอกเบี้ยนโยบายใน 2H68 ต่อเนื่องไปยังไป 69 ทั้งนี้อิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 68 ที่ 6.8 พันล้านบาท +16%YoY
  • ITC* (ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 14.43 บาท) หุ้นกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงมี Sentiment บวกหลังไทยส่งข้อเสนอการค้าใหม่ให้กับสหรัฐฯรอบที่2 โดยรายได้ภูมิภาคอเมริกาของ ITC* อยู่ที่ราว 50-55% ส่วนแนวโน้มกำไรในไตรมาส2/68 BB consensus คาดกำไร ITC อยู่ที่ 731 ลบ.(-28%YoY, +8%QoQ) QoQ มีแรงหนุนในเชิง Volume ตามฤดูกาลและต้นทุนปลาทูน่าที่ปรับลดลง แต่ YoY กดดันจากบาทที่แข็งค่าและ Product Mix ที่มีสัดส่วนสินค้าPremium ลดลง ด้านการดำเนินงาน 3Q68 คาดว่าว่ารายได้ยังอยู่ในทิศทางที่ดีต่อจากยังเป็นฤดูกาลขาย ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ ITC* จะอยู่ที่ 2,853 ลบ.(-21%YoY) และ 3,200 ลบ.(+12%YoY) ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ส.ค.-$0.14 อยู่ที่ $67.20 / บาร์เรล, Brent ก.ย. -$0.07 อยู่ที่ $69.21/บาร์เรล หลังอียูได้อนุมัติ ม.คว่ำบาตรครั้งที่ 18 ต่อรัสเซีย จากเหตุสงครามในยูเครน โดยมุ่งเป้าไปที่บริษัทนารายา เอนเนอร์จีของอินเดีย ที่เป็นผู้ส่งออกน้ำมันกลั่นจากรัสเซีย ขณะที่นักลงทุนยังรอผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าสำคัญ ๆ ซึ่งจะมีผลต่ออุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก

 

Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$48.10 อยู่ที่ $3,406.40 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.6% และ US Bond Yield 10 ปี ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +24.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +35.68 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -11.05 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -0.64 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 32.26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.376 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -36 จุด อยู่ที่ 2,016

(-) BitCoin เช้านี้ -0.05% อยู่ที่ 117,291 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

31 ก.ค.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ        

ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

สัปดาห์ที5 สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

 

ต่างประเทศ

22 ก.ค.     US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ

23 ก.ค.     US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (มิ.ย.)  

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

24 ก.ค.     EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ( ก.ค.)

                EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป 

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ก.ค.) 

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ก.ค.)  17

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.)

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: MONO*, PR9*, IVL*,PTTGC*,GULF*, TIDLOR*

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ร้องเพลงรอ.. By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ชั่วโมงต้องร้องเพลงรอ รอข่าวแบบลุ้น ทราบผลประชุมครม.ว่า ใครจะมาเป็นผู้ว่าฯแบงก์ชาติ วันนี้ ...

มัลติมีเดีย

TMILL วางกลยุทธ์ ขยายตลาดควบคู่เน้นบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้นสดใส

TMILL วางกลยุทธ์ ขยายตลาดควบคู่เน้นบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้นสดใส

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้