Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

PSG ประกาศวิสัยทัศน์มุ่งสู่บริษัทชั้นนำระดับภูมิภาค ตั้งเป้ารายได้ต่อปีเติบโตก้าวกระโดด แตะระดับ 20,000 – 30,000 ล้านบาทภายในปี 78

96

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 21 กรกฎาคม 2568 )----- ‘พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น’ หรือ PSGC (ชื่อย่อหลักทรัพย์ PSG) ผู้นำด้านการให้บริการรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร ประกาศยุทธศาสตร์เติบโตครั้งสำคัญ ขยายความแข็งแกร่งในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ไปสู่ 2 ธุรกิจที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ และธุรกิจพลังงาน กางวิสัยทัศน์มุ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับภูมิภาคด้านการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าหมายรายได้ต่อปีเติบโตก้าวกระโดดแตะระดับ 20,000 – 30,000ล้านบาทภายในปี 2578 เดินหน้าขยายโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV ควบคู่การปรับโครงสร้างทุน เพื่อเสริมสร้างฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น


นายเดวิด แวน ดาว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PSGC (ชื่อย่อหลักทรัพย์ PSG) เปิดเผยว่า PSGC ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง 2 โครงการสำคัญใน สปป.ลาว ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสำหรับแผนการขยายธุรกิจ ได้แก่

1.โครงการขยายกำลังการผลิตเหมือง XPPL Phase 1 โครงการประกอบด้วยงานก่อสร้างถนน อาคารคลังสินค้า แคมป์ถาวร และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหมืองในพื้นที่ลาวใต้ มูลค่าโครงการ 239.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเทียบเท่า 8,082.23 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ชนะการประมูล) ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 มีความคืบหน้างาน 81% และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2569


2.โครงการก่อสร้างพื้นที่พัฒนาเพื่อการตั้งถิ่นฐานใหม่ Resettlement Development งานก่อสร้างเพื่อพัฒนาชุมชนใหม่และโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ลาวเหนือ มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 มีความคืบหน้างาน 21% และคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2570


“ความสำเร็จในการดำเนิน 2 โครงการก่อสร้างข้างต้น สะท้อนถึงความสามารถของ PSGC ในการบริหารและดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการขยายธุรกิจในหลากหลายด้าน ความสำเร็จดังกล่าวผลักดันให้บริษัทฯ กำหนดวิสัยทัศน์ ในการดำเนินธุรกิจขึ้นใหม่ คือ ก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำในการพัฒนาโครงการพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างในการขยายสู่ธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาของภูมิภาค” นายเดวิดกล่าว


อ้างอิงรายงานของธนาคารโลกซึ่งระบุว่าเศรษฐกิจของ สปป.ลาว ในปีที่ผ่านมาขยายตัวร้อยละ 4.1 โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากภาคพลังงาน เหมืองแร่ และเกษตรกรรม “แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา PSGC ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตระยะยาวของ สปป.ลาว เราให้ความสำคัญกับการลงทุนใน สปป.ลาว อย่างต่อเนื่อง และมองเห็นสัญญาณบวกจากการปฏิรูปหลายด้าน เราเชื่อว่าภายใต้การนำของคณะผู้บริหารในปัจจุบัน ประเทศจะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง” นายเดวิดกล่าวเสริม


นายเดวิด กล่าวว่า ปี 2568 นี้ PSGC วางแผนขยายการเติบโตจากการก่อสร้างโครงการใหม่ 1-2 โครงการ เน้นงานที่มีมูลค่าใกล้เคียงกับโครงการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ล่าสุด บริษัทฯ มีโครงการก่อสร้างที่อยู่ระหว่างสรุปรายละเอียด 2 โครงการสำคัญใน สปป.ลาว ได้แก่


1. โครงการก่อสร้างอาคารประกอบอุปกรณ์สนับสนุนสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนเซกอง (XTPPL) ขนาด 1,800 เมกะวัตต์ งานโยธาและการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับโรงไฟฟ้าขนาด 1,800 เมกะวัตต์ ในเมืองกะลึม แขวงเซกอง โครงการยังรวมถึงเหมืองแบบบูรณาการ และสายส่งไฟฟ้าแรงสูงขนาด 500 กิโลโวลต์ ความยาว 253 กิโลเมตร เชื่อมต่อจากโรงไฟฟ้าไปยังชายแดนลาว–กัมพูชา ทั้งนี้ ได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับ Electricité du Cambodge (EDC) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของประเทศกัมพูชา โดยมีกำหนดการก่อสร้างตั้งแต่ไตรมาส 4/2568 ถึงไตรมาส 1/2573


2. โครงการก่อสร้างระบบลำเลียงถ่านหินและเถ้าสำหรับโรงไฟฟ้าขนาด 1,800 เมกะวัตต์ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ XTPPL โดยทำหน้าที่ขนส่งเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าและบริหารการจัดการผลพลอยได้จากเถ้าถ่านที่เกิดจากกระบวนการผลิตไฟฟ้า กำหนดระยะเวลาก่อสร้างปี 2568 - ไตรมาส 1/2570


“หากบริษัทฯ สามารถคว้างานดังกล่าวสำเร็จ จะส่งผลให้ Backlog งานก่อสร้างของ PSGC เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับแผนการเติบโตของบริษัทฯ” นายเดวิดกล่าว


ขณะเดียวกัน บริษัทฯ กำลังเริ่มทดลองให้บริการด้านการดำเนินงานและบริหารจัดการเหมืองใน สปป.ลาว ซึ่งเป็นรูปแบบธุรกิจใหม่ที่อยู่ระหว่างการทดสอบในพื้นที่เหมือง 2 แห่ง โดยผลการดำเนินงานเบื้องต้นเป็นที่น่าพอใจ และคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถสรุปรูปแบบการดำเนินงานได้ภายในสิ้นปีนี้ จากข้อมูลระบุมูลค่าการผลิตแร่รวมของ สปป.ลาว ในปี 2567 มีมูลค่าสูงกว่า 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อนหน้า สะท้อนถึงขนาดตลาดและโอกาสการเติบโตที่น่าสนใจ


สำหรับการเข้าสู่ธุรกิจพลังงานของ PSGC มุ่งเน้นใน 3 แนวทางยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่
1) ศึกษาความเป็นไปได้การปรับปรุงโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ (Pumped Storage Hydropower หรือ “PSH”) และได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ Electricite du Laos (EDL) รัฐวิสาหกิจด้านสาธารณูปโภคของสปป.ลาว เพื่อปรับปรุงโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเดิมของ EDL และบริษัทในเครือให้เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำแบบสูบกลับ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังน้ำอื่นๆ ที่ EDL อาจถือครองในอนาคต พร้อมทั้งศึกษาแนวทางการผนวกแหล่งพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม เข้าสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้าแห่ง สปป.ลาว เพื่อสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพของระบบโดยรวม


2) ศึกษาการผลิตพลังงานหมุนเวียนแบบผสมผสาน โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน (Hybrid) ที่รวมการผลิตไฟฟ้าจากระบบ PSH เข้ากับพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานหมุนเวียนรูปแบบอื่น ๆ ผลการศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นบนพื้นที่ขนาด 7,000 เฮกตาร์ในแขวงอัตตะปือ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาโซลาร์ฟาร์มขนาด 10,000 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นพลังงานสูบน้ำให้กับระบบ PSH ได้

3) แสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจ และตลาดจำหน่ายไฟฟ้า บริษัทฯได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับหน่วยงานพลังงานระดับภูมิภาค เพื่อศึกษาการส่งออกพลังงานไฟฟ้าจาก สปป.ลาวไปยังประเทศกัมพูชา สิงคโปร์และจีน

“วิสัยทัศน์ระยะยาว คือการสร้างให้ PSGC ก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับภูมิภาคในธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน และก่อสร้างภายในปี 2578” นายเดวิดกล่าว “แม้ว่าบริษัทฯ จะเริ่มต้นดำเนินธุรกิจใน สปป.ลาว แต่เป้าหมาย คือ การขยายสู่ระดับภูมิภาคอย่างมั่นคง”


ด้านนางสาวสมฤดี ห์ลีละเมียร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงิน บริษัท พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PSGC กล่าวว่า ปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยไตรมาส 1/2568 มีรายได้รวมกว่า 642 ล้านบาท กำไรสุทธิ 98.8 ล้านบาท และมี Backlog รอการรับรู้รายได้ถึงปี 2570 กว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมงานก่อสร้างอีก 2 โครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างสรุปรายละเอียด


เพื่อสนับสนุนการเติบโตและพัฒนาโครงสร้างทางการเงินมีความโปร่งใส ชัดเจนมากขึ้น บริษัทฯ ได้ดำเนินการรวมหุ้นและลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว ผ่านการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ วัตถุประสงค์เพื่อล้างรายการส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น การดำเนินการรวมหุ้นและลดทุนจดทะเบียนในรอบแรกจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ มีผลให้จำนวนหุ้นของบริษัทลดลงเหลือ 16,248,109,539 หุ้น และราคาหลักทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา


“เมื่อกระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้น งบการเงินของเราจะสะท้อนมูลค่าและสถานะที่แท้จริงของบริษัทได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักลงทุนสถาบันและกองทุนมากขึ้น” นางสาวสมฤดีกล่าว

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

OR–พาณิชย์ หนุนเกษตรกรเหนือ เดินหน้าเชื่อมตลาดลำไย กระจายผลผลิต

OR–พาณิชย์ หนุนเกษตรกรเหนือ เดินหน้าเชื่อมตลาดลำไย กระจายผลผลิต

มีย่อ มีพัก By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองหุ้นไทย เข้าสู่โหมดการย่อตัว พักตัว ปรับฐาน หลังจากมาแรงอย่างต่อเนื่อง บ่ายวันนี้ ....

มัลติมีเดีย

BPS ครึ่งปีแรกปี68 เดินหน้าลงทุนตามแผน มุ่งสร้างนวัตกรรมหนุนผลงานเติบโต

BPS ครึ่งปีแรกปี68 เดินหน้าลงทุนตามแผน มุ่งสร้างนวัตกรรมหนุนผลงานเติบโต

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้