KTC : ผลประกอบการใน 2Q25 เป็นไปตามคาด หุ้นซื้อขายที่ P/BV ปี 2025F อยู่ที่ 1.6 เท่า โดยมี ROE อยู่ที่ 18.7%
ผลประกอบการใน 2Q25 เป็นไปตามคาดการณ์ของตลาดและประมาณการของเรา
บัตรกรุงไทย (KTC) รายงานกำไรสุทธิรวม 2Q25 ที่ 1.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% YoY และ 1.8% QoQ ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวัง กำไรก่อนตั้งสำรองอยู่ในระดับคงที่ทั้ง YoY และ QoQ โดยการเติบโตของกำไรสุทธิมาจากคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง ช่วยสนับสนุนให้มีการตั้งสำรองที่ต่ำลง (credit cost) สำหรับไตรมาสนี้ สินเชื่อรวมไม่รวมธุรกิจลีสซิ่งยังคงอยู่ในระดับคงที่ QoQ แต่เติบโต 2.0% YoY เป็น 105.3 พันล้านบาท พอร์ตโฟลิโอบัตรเครดิตอยู่ในระดับคงที่ทั้ง QoQ และ YoY ที่ 6.99 หมื่นล้านบาท ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 1.5% QoQ และ 4.0% YoY เป็น 3.54 หมื่นล้านบาท
คุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งยังคงช่วยหนุนกำไรสุทธิ
ไม่รวมธุรกิจลีสซิ่ง (KTC ลดพอร์ตโฟลิโอนี้ลงเหลือเพียง 1.8 พันล้านบาท หรือ 1.7% ของสินเชื่อรวม) หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ของบริษัทยังคงแนวโน้มลดลง โดยลดลง 2.9% QoQ เป็น 1.6 พันล้านบาท ทำให้อัตรา NPL ลดลงเป็น 1.53% ใน 2Q25 จาก 1.58% ใน 1Q25 เมื่อ Stage 2 ของทั้งสองพอร์ตโฟลิโออยู่ในระดับคงที่ credit cost ลดลงเป็น 5.48% ใน 2Q25 เทียบกับ 5.63% ใน 1Q25 และ 6.14% ใน 2Q24 Loan-loss Coverage แบบ stand-alone basis อยู่ที่ 471% ขณะที่แบบ consolidated อยู่ที่ 420%
คาดการณ์กำไร 2025F เพิ่มขึ้น 5.7% YoY เป็น 7.86 พันล้านบาท
เนื่องจากทีมเศรษฐกิจของเราลดการคาดการณ์ GDP ของไทยสำหรับปีนี้และปีหน้า (เนื่องจากความไม่แน่นอนทั่วโลกจากภาษีศุลกากร) เราได้ปรับการคาดการณ์ : 1) การเติบโตของสินเชื่อสำหรับ FY25F/FY26F ลดลงเป็น 3.6%/3.7% (จากเดิม 5.1%/5.5%) 2) รายได้จากการติดตามหนี้ที่ลดลง และ 3) ค่าธรรมเนียมที่ลดลง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลให้กำไรลดลง 7.4%/9.3% สำหรับ FY25F/FY26F
การประเมินมูลค่าใหม่หลังจากการขายใน big-lots และสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซามากขึ้น
ในปี 2025 อัตราการจ่ายเงินปันผลของ KTC อยู่ที่ 45.8% โดยสมมติให้สูงขึ้นเล็กน้อยเป็น 48.0% เราคาดการณ์ DPS ปี FY25F ที่ 1.46 บาทต่อหุ้น (เทียบกับ 1.32 บาทต่อหุ้นใน FY24) ซึ่งหมายถึงผลตอบแทนเงินปันผลที่ 5.3% เราลดการประเมินมูลค่า FY25F ลงเป็น 32.00 บาทต่อหุ้น จากเดิม 53.00 บาทต่อหุ้น สะท้อนการลดลงของกำไรและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในช่วง 2H25 และ 2026 รวมทั้งการลดลงของอัตราส่วน P/BV เป็น 1.9 เท่า (เทียบกับเดิม 3.0 เท่า) เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลในอุตสาหกรรมที่อ่อนแอลง ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ KTC โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 32.00 บาท