วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากความคาดหวังเฟดปรับ ลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หลังสหรัฐเผยตัวเลขเงินเฟ้อ PPI ปรับตัวขึ้นต่่ากว่าคาด ประกอบกับความคาดหวังการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและไทย มีแรงซื้อนำโดยหุ้น DELTA หนุนดัชนีราว +18 จุดตามด้วยแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน ขนส่ง และค้าปลีก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,198.11 จุด+40.48 จุด +3.50% มูลค่าการซื้อขาย 63,374.58 ลบ. Program Trading +3,828.00 ลบ. ต่างชาติ+2,494.87 ลบ. TFEX +17,889 สัญญา ตราสารหนี้-291.49 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 229.71 จุด หรือ +0.52% ขณะที่ดัชนี S&P500 และNasdaq ปิดท่านิวไฮขานรับข้อมูลเศรษฐกิจและรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคของสหรัฐฯ ยังคงเต็มใจที่จะใช้จ่าย
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ หรือ +1.75% ปิดที่67.54 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าบ่อน้่ามันในแคว้นเคอร์ดิสถานของอิรักถูกโดรนโจมตีเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสี่ยงของอุปทานน้่ำมันในภูมิภาคแห่งนี้
+ สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6%MoM ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%YoY หลังจากลดลง 0.9%YoY ในเดือนพ.ค.ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 3.9%YoY ในเดือนมิ.ย. แข็งแกร่งกว่าในเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้น3.2%YoY
+ สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ221,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่่าสุดในรอบ 3 เดือน และต่่ากว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 232,000 ราย บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน
+ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) เรียบร้อยแล้ว
+ แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 2.4%ใน 2Q68 หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 0.5% ใน 1Q68
+ BOI เตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการขึ้นภาษีของสหรัฐ โดยจะเน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปสหรัฐ และเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น กลุ่มอาหาร ผลิตภัณฑ์ยาง ชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร อัญมณีและเครื่องประดับ
ปัจจัยลบ
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่าการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับญี่ปุ่นให้แล้วเสร็จภายในเส้นตายวันที่ 1 ส.ค.น่าจะทำได้ยาก
- สมาคมผู้ค้าปลีกไทยเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีก (Retail SentimentIndex : RSI) ประจำเดือนมิถุนายน 2568 ลดลงต่อเนื่อง จนแตะระดับต่่าที่สุดในรอบ 42 เดือน สะท้อนภาวะก่าลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัว และบรรยากาศการบริโภคที่หดตัวทั่วประเทศ ขณะที่ผู้ประกอบการและนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนจากนโยบายรัฐ อย่างเป็นรูปธรรม
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด(Anti-dumping Tariff) ในอัตราเบื้องต้น 93.5% ต่อสินค้าแกรไฟต์เกรดแอโนด(Anode-grade Graphite) ที่น่าเข้าจากประเทศจีน หลังสรุปว่าสินค้าดังกล่าวซึ่งเป็นส่วนประกอบส่าคัญส่าหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ถูกนำมาขายในสหรัฐฯ ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสพักตัวหลังจากปรับขึ้นแรงต่อเนื่อง โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐขณะที่ปัจจัยในประเทศ นักลงทุนยังติดตามการผลการเจรจามาตรการภาษีระหว่างสหรัฐ-ไทยอย่างใกล้ชิด มองกรอบดัชนีที่ 1,190-1,200 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- สงครามอิหร่าน-อิสราเอล : IRPC PTT PTTEP SPRC TOP
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Virtual Bank : SCB ADVANC OR TRUE
- เที่ยวไทยคนละครึ่ง : AWC MINT ERW CENTEL SHR
- หุ้น Defensive : ADVANC PR9 TISCO BGRIM
- หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการที่ก.ล.ต.เตรียมเปิด Sandbox ให้ชาวต่างชาติน่าคริปโตแลกเงินบาทน่ามาใช้จ่ายธนาคาร KBANK SCB BAY โรงแรม MINT CENTEL ERW AWC สายการบิน AAV BA บันเทิง MAJOR ค้าปลีก CPALL CPAXT หุ้นคริปโต JTS BTC XPG ZIGA