AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ชะลอการขึ้น
เลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัว
Market Strategy
SET Index การขึ้นแรงสัปดาห์ที่ผ่านมา 88 จุด โดยที่ปัจจัยแวดล้อมไม่ได้มีประเด็นใหม่ขับเคลื่อน จึงอาจเอื้อต่อแรงขายทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้การขึ้นชะลอลง มองกรอบ 1185-1210 จุด หุ้นเลือก ERW และ SCGP
งานเสวนาปลดล็อคประเทศไทย สู้วิกฤตโลก ซึ่งคุณทักษิณได้มาแสดงวิสัยทัศน์เสนอแนวนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยนโยบายที่น่าสนใจและส่งผลต่อราคาหุ้นคือ 1) หนุนไทยเป็นศูนย์กลางการบินของ ASEAN โดยพัฒนาให้เป็น Passenger Hub , Cargo Hub และศูนย์ซ่อม โดยเงินสนับสนุนด้านหนึ่งนำมาจากการปรับขึ้นค่า PSC (ปัจจุบัน AOT เก็บค่า PSC อยู่ที่ 730 บาท หากปรับขึ้น PSC ทุก 100 บาท เราคาดหนุนกำไรเพิ่มขึ้น 2.6 พันล้านบาทต่อปี) ซึ่งเป็นบวกกับ AOT แต่ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นเร็ว 32% ในสัปดาห์นี้ จึงไม่แนะนำไล่ราคา 2) หนุนไทยเป็นศูนย์กลางไฟฟ้าสีเขียวควบคู่ดึงดูดการลงทุน Data Center ซึ่งเรามองเป็นบวกต่อพลังงานทดแทนและนิคม ซึ่งเราชอบ CKP และ WHA 3) นโยบายอื่นๆ AMC แก้หนี้ประชาชน, Smart City, ถมทะเล, Golden Visa เป็นโครงการที่ดีระยะยาว แต่ยังส่งผลต่อตลาดหุ้นระยะสั้นจำกัด
ด้านภาษีการค้าระหว่างไทยสหรัฐฯ อยู่ในช่วงการเจรจา ซึ่งแนวทางของไทย คือ เปิดให้นำเข้าสินค้าสหรัฐฯ 0% ครอบคลุม 90% รายการ ต้องรอการตอบสนองฝั่งสหรัฐฯต่อไป ในมุมมองของเรายังคาดจะสามารถลดอัตราภาษีลงจาก 36% ได้อยู่ ส่วนประเด็นต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้นในช่วง 0.5-0.8% หนุนจากรายงานยอดค้าปลีกเดือน มิ.ย.และตัวเลข Initial Jobless Claim ที่ดีกว่าคาด
Market Summary
SET Index ปรับขึ้นร้อนแรง 40 จุด หนุนหลักมาจากความคาดหวังต่อการเจรจาภาษีสหรัฐฯ โดยกลุ่มนำตลาดคือ อิเล็คทรอนิกส์ DELTA +16% หนุนดัชนี 18 จุด ตามด้วย AOT +11% จากความหวังต่อการปรับขึ้นค่า PSC กลุ่ม China Play ไปต่อ SCC 5.9% SCGP +5% และกลุ่มโรงกลั่นจากกำไรหลัก 2Q68 มีแนวโน้มฟื้นตัวตาม ค่าการกลั่นหนุน TOP +5% BCP +5% SPRC +3% แรงซื้อหลักมาจากต่างชาติ ซื้อสุทธิ 2.5 พันล้านบาท เช่น เดียวกับสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1.07 พันล้านบาท
DAILY Stock Pick
ERW
มาตรการท่องเที่ยวใหม่ หนุน
กอปร Valuation น่าสนใจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.00 บาท
รัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬา เผยเตรียมออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดยเน้นการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นหลัก ในวันจันทร์ที่ 21 ก.ค. 68 เป็นปัจจัยหนุน ซึ่ง ERW มีสัดส่วนจำนวนห้องในไทย คิดเป็น 80%
เราคาดกำไรในไตรมาส 2 ทำจุดต่ำสุดในรอบ 11 ไตรมาส ปรับตัวลงทั้ง YoYและ QoQ จากทั้งปัจจัยฤดูกาลและเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชะลอตัวลงเทียบปีก่อน โดยไตรมาส 3 เราคาดว่ากำไรฟื้นตัวจากไตรมาส 2 เนื่องจาก ยอด forward bookings ฟื้นตัวจากฐานต่ำ และเหตุการณ์เฉพาะตัวของ Hyatt Erawan ที่กดดันในปีก่อน ณ ปัจจุบัน ERW ถูกซื้อขาย PE ปี 68 ที่ 13.2 เท่า ต่ำที่สุดในกลุ่มโรงแรมที่เรา (ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 23.5 เท่า)
WEEKLY Stock Pick
SCGP
เก็งกำไร China Play รับจีนกระตุ้นเศรษฐกิจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 19.00 บาท
PBOC เสนอรัฐบาลจีน ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม มูลค่า 2.09 แสนล้านดอลลาร์ (ปัจจุบันอยู่ที่ 0.42 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อรับมือกับผลกระทบภาษีการค้าที่เกิดขึ้น ผ่านการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ หนุนการนำเข้าบรรจุภัณฑ์มากขึ้น (50% นำเข้าจาก ASEAN)
บริษัทคาดว่าราคาขายบรรจุภัณฑ์ในประเทศอินโดนีเซียปรับราคาขึ้นตามผู้นำตลาด อีกทั้งปริมาณการขายฟื้นตัวหลังผ่านช่วงหยุดยาวในอินโดนีเซีย หนุนผลประกอบการ Fajar ฟื้นตัวขึ้น QoQใน 2Q68 ณ ราคาปัจจุบัน Bloomberg Consensus คาด ซื้อขายที่ PE ปี 68 ที่ 17.4 เท่า
KEY FACTOR
นักลงทุนต่างชาติกลับมาเป็นแรงซื้อหลักในตลาดหุ้นไทย วานนี้ซื้อสุทธิ +2,494.87 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาแนวโน้มรายสัปดาห์พบว่า Fund Flow ในสัปดาห์ล่าสุด (14–17 ก.ค.) ไหลกลับมาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยยอดซื้อรวมในสัปดาห์นี้อยู่ที่ประมาณ +3,752 ล้านบาท สะท้อนโอกาสการเคลื่อนย้ายเงินทุนกลับสู่ตลาดที่ยัง Laggard ท่ามกลางความคาดหวัง เรื่องความคืบหน้าในการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ และภาวะเงินเฟ้อที่ชะลอลง
เงินเฟ้อ Eurozone เดือน มิ.ย. ปรับตัวตัวขึ้น +2.0% YoY และ +0.3% MoM เป็นไปตามประมาณการณ์ครั้งก่อน อย่างไรก็ตามตลาดยังให้น้ำหนักไม่ปิดโอกาสที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มในระยะกลาง เงินเฟ้อจะชะลอลงและมีโอกาสต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของ ECB ในระยะกลาง จากการเติบโตของค่าจ้างที่แผ่วลง และผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ทำให้มีโอกาสที่ ECB จะลดดอกเบี้ยต่อได้ในช่วงถัดไป
EYES ON
17 ก.ค. CPI ยูโรโซน เดือน มิ.ย.
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ