Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาด SET วันนี้ มีโอกาสชะลอตัว -เจรจาการค้ายังไม่ได้ข้อสรุป

76

 

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 18 กรกฎาคม 2568 )----- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ขอนำส่งบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 18 กรกฎาคม 2568  คาดตลาดมีโอกาสชะลอตัว หลังวานนี้ปรับขึ้นแรงจาก DELTA และ Fund Flow ที่เริ่มไหลเข้าตลาดหุ้นอาเซียน (เวียดนาม อินโดนีเซีย) เนื่องจากรับรู้อัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ไปแล้ว ประเมินแนวต้าน 1212/1230 แนวรับ 1185/1180 โดย SET ที่ระดับ 1230-1250 (คิดเป็น PER ราว 15 เท่า) จะสะท้อนถึงความคาดหวังว่าไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ ในระดับ 20% หรือต่ำกว่าไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ดีต้องจับตาการเจรจาการค้าที่ยังไม่ได้ข้อสรุป

 


ประเด็นสำคัญ
• วานนี้อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร กล่าวปาฐกถาพิเศษหนุนปรับขึ้นค่า PSC ของสนามบิน เพื่อเพิ่มรายได้-ขยายสนามบิน, ยกระดับการท่องเที่ยวด้วยการเพิ่มความปลอดภัยผ่านการติดกล้อง AI และส่งเสริมการจัดการแข่งรถ F1, หนุนทำ Sand Box การใช้คริปโตทั้งประเทศ และมองการเจรจาการค้าสหรัฐฯ กระทบสินค้าเกษตร, อัญมนี และธุรกิจ SMEs
• กกพ. มีมติเปิดรับฟังความคิดเห็น (17-28 ก.ค. 68) สำหรับค่าไฟฟ้างวด ก.ย.-ธ.ค. 2568 ที่ 3.98-5.10 บาท/หน่วย ชี้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงคลายตัว ทั้งนี้เรามองค่าไฟฟ้าที่ระดับสูงกว่า 3.98 บาท/หน่วย เป็นไปได้ยากหลังก่อนหน้านี้ รมว. พลังงานยืนยันค่าไฟฟ้าจะไม่เกิน 3.99 บาท/หน่วย คงแนะนำ Outperform สำหรับ GULF และ BCPG
• สมาคมผู้ค้าปลีกไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีก มิ.ย. 2568 ปรับลดลงต่อเนื่องจนทำ New Time Low ในรอบ 42 เดือน สะท้อนกำลังซื้อผู้บริโภคเปราะบาง ผู้ประกอบการชะลอลงทุน หนุนกระตุ้นเร่งด่วนจาก 2 แนวทาง Easy e-Receipt/ช็อปดีมีคืน
• ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ มิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.6%MoM สูงกว่าตลาดคาด และตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ 221,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าตลาดคาด บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน
• ประธานเฟดสาขานิวยอร์กเตือนผลกระทบจากมาตรการภาษีของ ปธน. ทรัมป์ยังเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น และนโยบายการเงินที่คุมเข้มเล็กน้อยยังเหมาะสมและช่วยให้เฟดมีเวลาวิเคราะห์ข้อมูล ประเมินภาษีการค้าจะทำให้เงินเฟ้อขึ้นอีกราว 1% ในช่วง 2H68-1H69

 

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวนเนื่องจากยังกังวลอัตราภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ ที่ประกาศเรียกเก็บจากประเทศคู่ค้าซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. นี้ สำหรับไทยถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% สูงกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญในกลุ่มอาเซียน ซึ่งทำให้ไทยมีโอกาสสูญเสียความสามารถในการแข่งขันและกดดันให้ GDP อาจเติบโตชะลอตัวได้ จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามความคืบหน้าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับไทยอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดีเราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 


แนวรับ-ต้าน
1185/1180– 1212/1230

 

ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET แกว่งตัวผันผวน ยังมีความกังวลไทยจะถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญในกลุ่มอาเซียนและอาจทำให้ไทยสูญเสียความสามารถการแข่งขันและกดดันการเติบโต GDP ลง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play โมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC
2. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำและผลการดำเนินงานต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ (ผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายในและภายนอก) อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BCH DIF
3. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
4. Trading Ideas: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Undervalue (PER และ PBV < -1SD) และเราแนะนำ Outperform อีกทั้งคาดให้ Div. Yield ไม่ต่ำกว่าปีละ 3% แนะนำ BBL BCPG BDMS CPALL DIF PTT SIRI TIDLOR 2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวไทย แนะนำ ERW CENTEL AAV และ 3) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วหากเชื่อว่าการเจรจาจะทำให้สหรัฐฯ พิจารณาปรับลดภาษีไทยลงมาอยู่ที่ระดับ 20% หรือต่ำกว่า แนะนำ AMATA GPSC WHA

 

daily top picks
KTB: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น หลังผลประกอบการกลุ่มธนาคารทั้ง BBL และ TISCO ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ KTB เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร และมี Upside จากการเพิ่มอัตราการจ่ายปันผลเพิ่มและ Credit Cost สูงสุดใน 1Q68 แล้วมีโอกาสลดลงในช่วงที่เหลือของปี ในขณะที่ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ มี LLR Coverage สูง

GPSC: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจาก กกพ. เสนอทางเลือกค่าไฟฟ้างวด ก.ย.-ธ.ค. 2568 ระหว่าง 3.98-5.10 บาท/หน่วย 2568 โดยคาดว่าจะไม่สูงกว่าในงวดก่อนที่ 3.98 บาท/หน่วย ทำให้ผลกระทบต่อผลประกอบการจำกัด ขณะที่ปี 2568 คาดกำไรปกติจะเติบโต 3.9%YoY โดยมีปัจจัยหนุนจาก การเพิ่มกำลังการผลิต, ต้นทุนเชื้อเพลิงและผลตอบแทนพันธบัตรลดลง และไม่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้ภาษีขั้นต่ำสากล (GMT)

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หุ้น ดักข่าวล่วงหน้า By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็น ดัชนีตลาดหุ้นไทย เดินหน้าบวกต่อเนื่อง ดันดัชนีฯเช้าวันนี้ ยืนเหนือ 1,200 จุด ได้แล้ว ....

มัลติมีเดีย

BPS ครึ่งปีแรกปี68 เดินหน้าลงทุนตามแผน มุ่งสร้างนวัตกรรมหนุนผลงานเติบโต

BPS ครึ่งปีแรกปี68 เดินหน้าลงทุนตามแผน มุ่งสร้างนวัตกรรมหนุนผลงานเติบโต

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้