สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(16 กรกฎาคม 2568)-------KEY POINTS
• ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้เป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ ต้องพิสูจน์ได้ด้วยข้อมูลคุณภาพและวัดผลได้ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ สู่ผลลัพธ์ที่ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืน
• แนะภาคธุรกิจมองกฎเกณฑ์ใหม่เป็นโอกาสสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ใช้กลไกการเงิน การคลัง ประกันภัย และตลาดทุนที่สนับสนุน เพื่อเร่งปรับตัวและเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
• ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกและไทยยืนยันตรงกัน ข้อมูลด้านความยั่งยืนและแผนการเปลี่ยนผ่านที่น่าเชื่อถือ (Credible Transition Plan) เป็นเกณฑ์สำคัญในการตัดสินใจจัดสรรเงินทุนและการประเมินมูลค่าธุรกิจจริง
--------------------------
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดสัมมนา SET Sustainability Forum ครั้งที่ 2/2568 ภายใต้แนวคิด “Claims, Consequences, and Credibility: Capital Market for Climate Action” ในวันที่ 16 ก.ค. 2568 สะท้อนทิศทางตลาดทุนโลกที่เปลี่ยนจากการให้ความสำคัญกับการตั้งเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ (Claims) ขยายสู่การพิสูจน์ความน่าเชื่อถือ (Credibility) ด้วยข้อมูลคุณภาพและการดำเนินการที่วัดผลได้ ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ทางการเงินที่ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันและการเข้าถึงเงินทุนระยะยาว (Consequences) โดยมีผู้บริหารระดับสูงองค์กรชั้นนำร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง
ดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และกรรมการอิสระ กรรมการบริหาร และกรรมการเทคโนโลยี บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวปาฐกถาพิเศษ "Proof Your Climate Pledges as Grounded Governance" ย้ำเป้าหมาย Net Zero จะไม่สามารถบรรลุได้หากไม่มี "ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็ง" (Grounded Governance) ซึ่งคณะกรรมการต้องเข้ามากำกับดูแลและผลักดันวาระด้านสภาพภูมิอากาศให้ผนวกกับกลยุทธ์หลัก นำไปสู่การปฏิบัติจริงทั้งองค์กร การประกาศเป้าหมายโดยปราศจากกลไกกำกับดูแลที่เข้มแข็งจะถูกมองว่าเป็นเพียงการสร้างภาพลักษณ์และอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านการฟอกเขียว (Greenwashing) ที่ลดทอนความเชื่อมั่นในที่สุด
ดร. ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงเป้าหมาย 3 ปีในการสร้างระบบนิเวศตลาดทุนที่น่าเชื่อถือ และสนับสนุนภาคธุรกิจไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero ตามเป้าหมายประเทศว่า ท่ามกลางความคาดหวังของผู้ลงทุนทั่วโลกที่สูงขึ้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เร่งยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลผ่าน ESG Data Platform และระบบจัดการข้อมูลก๊าซเรือนกระจก เตรียมความพร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตลาดคาร์บอนของประเทศ เพื่อให้ข้อมูลด้านสภาพภูมิอากาศของบริษัทจดทะเบียนไทยมีคุณภาพ สามารถนำไปใช้ตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยสร้างความมั่นใจในตลาดทุนไทย
การเสวนา 2 ช่วง ช่วงแรก “Multi-Regulatory Approach: Enabling Thailand's Climate Transition” สะท้อนแนวทางการดำเนินงานของหน่วยงานภาคการคลัง การเงิน ประกันภัย และตลาดทุนเพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจสามารถปรับตัวเข้าถึง
แหล่งทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านและพร้อมรับมือความท้าทายรอบด้าน ขณะที่ช่วงที่สอง “Investment Consequences: Allocating Capital for Credible Transition” เจาะลึกถึงผลลัพธ์ที่วัดผลได้ผ่านมุมมองผู้ใช้ข้อมูลที่หลากหลาย โดยผู้บริหารมีมุมมองสอดคล้องกันว่า ปัจจุบันข้อมูลด้านความยั่งยืนและแผนการเปลี่ยนผ่านที่น่าเชื่อถือ (Credible Transition Plan) มีความสำคัญ โดยถูกนำมาใช้ตัดสินใจจัดสรรเงินทุน ตั้งแต่การประเมินมูลค่าธุรกิจ การพิจารณาโครงสร้างและต้นทุนของสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน การออกกองทุนเพื่อความยั่งยืน รวมถึงการประเมินความเสี่ยงเชิงระบบที่มีต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจในภาพรวม
นอกจากนี้ ยังมีการให้ข้อมูล "Tracking Transition: The Science of Climate Credibility" จากผู้แทน London Stock Exchange Group (LSEG) ให้มุมมองระดับโลกเกี่ยวกับการติดตามและประเมินความน่าเชื่อถือของการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ