Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาดวันนี้ SET "การขึ้นยังจำกัดจากความเสี่ยง" หุ้นเด่นวันนี้ MTC-SCC

114

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 11 กรกฎาคม 2568 )----- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์/รีบาวด์ มีแนวรับที่ 1110/1100-1095 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1120/1128 มองการขึ้นยังจำกัดจากความไม่แน่นอนจากอัตราภาษี ล่าสุดสหรัฐฯ เก็บภาษีฟิลิปปินส์ที่ 20% แม้เพิ่มจาก 2 เม.ย. ที่ 17% แต่เป็นอัตราภาษีที่เท่ากับเวียดนาม ซึ่งยังต่ำกว่าไทยที่ 36% ทำให้ไทยมีความเสี่ยงสูญเสียความสามารถในการแข่งขันหากยังเจรจาไม่ได้ ด้านคุณทักษิณเสนอแผนแก้ศก.ใน 2 ปี เร่งตั้ง AMCและหนุนการลงทุนแบบ PPP ซึ่งมองยังดำเนินการได้ไม่เร็ว

 


ประเด็นสำคัญ
• ปธน. ทรัมป์ประกาศว่าจะเริ่มมาตรการเก็บภาษีนำเข้าทองแดงที่เคยเกริ่นไปก่อนหน้านี้ในวันที่ 1 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากทองแดงเป็นโลหะสำคัญสำหรับอุตฯ เซมิคอนดักเตอร์, Data Center, แบตเตอร์รี, อาวุธ เป็นต้น และเป็นวัสดุที่กลาโหมสหรัฐฯ ใช้มากเป็นอันดับสอง และถูกใช้มากที่สุดเป็นอันดับสามของโลก รองจาก เหล็ก และอลูมิเนียม
• รายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 17-18 มิ.ย. ที่ผ่านมา คกก. ส่วนใหญ่มองการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้เป็นเรื่องที่เหมาะสม เนื่องจากประเมินผลกระทบมาตรการภาษีศุลกากรต่อภาวะเงินเฟ้อจะเกิดขึ้นไม่มากและเพียงชั่วคราว โดยคาดการณ์ใน Dot Plot โดย จนท. เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้รวม 50bps
• ม. หอการค้าเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มิ.ย. 2568 ลดลงสู่ 52.7 ต่ำที่สุดในรอบ 28 เดือน กดดันจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้าที่และเสถียรภาพการเมืองไทย ทั้งนี้การสำรวจอยู่ในช่วงที่นายกฯ ยังไม่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่และไม่รวมปัจจัยการประกาศอัตราภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ต่อไทยที่ 36%
• กรมธุรกิจพลังงานเผยยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงช่วง 5M68 เพิ่มขึ้น 0.8%YoY สู่ 158.44 ล้านลิตร/วัน การเพิ่มขึ้นหนุนจากเบนซิน +0.8%YoY และน้ำมันอากาศยาน +12.3%YoY ตามการขนส่งทางอากาศที่ขยายตัว แต่การใช้ดีเซลกลับลดลง 1.5%YoY จากกิจกรรม ศก. ที่ลดลงและฝนที่ตกหนัก
• ททท. ประกาศกลับมาเปิดระบบให้ประชาชนกลับมาลงทะเบียนโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ได้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. จากก่อนหน้านี้ได้ปิดระบบชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา

 

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวน โดยแม้มองปัจจัยการเมืองในประเทศจะยังไม่มีแรงกดดันเพิ่มในช่วงสั้น เพราะยังต้องรอผลการตัดสินขั้นสุดท้ายของศาลรัฐธรรมนูญหลังจากที่มีมติให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ตลาดน่าจะกำลังติดตามความเสี่ยงเรื่องอัตราภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ ที่ประกาศเรียกเก็บจากประเทศคู่ค้าซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. โดยสำหรับไทยถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% สูงกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญในกลุ่มอาเซียน ซึ่งทำให้ไทยมีโอกาสสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน อย่างไรก็ดีเราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว โดยกลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

แนวรับ-ต้าน
1110/1095– 1120/1128

 


ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET แกว่งตัวผันผวน กังวลไทยถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีศุลกากรอัตรา 36% สูงกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญในกลุ่มอาเซียน ซึ่งจะทำให้ไทยมีโอกาสสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC
2. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำและผลการดำเนินงานต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ (ผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายในและภายนอก) อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BCH DIF
3. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
4. Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Undervalue (PER และ PBV < -1SD) และเราแนะนำ Outperform อีกทั้งคาดให้ Div. Yield ไม่ต่ำกว่าปีละ 3% แนะนำ BBL BCPG BDMS CPALL DIF PTT SIRI TIDLOR 2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวไทย แนะนำ ERW CENTEL AAV และ 3) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วหากเชื่อว่าการเจรจาจะทำให้สหรัฐพิจารณาปรับลดภาษีไทยลงมาอยู่ที่ระดับ 20% หรือต่ำกว่า แนะนำ AMATA GPSC WHA

 

Daily top picks
MTC: ราคาหุ้นได้รับปัจจัยกระตุ้นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอิงทางลง คาดว่ากำไรสุทธิ 2Q68 จะเติบโตดีทั้ง YoY และ QoQ และในปี 2568 คาดกำไรเติบโต 16%YoY โดยได้แรงหนุนจากสินเชื่อที่เติบโต และ Credit Cost ที่ลดลง มองเป็นหุ้น Undervalued ปัจจุบันซื้อขายที่ PBV 68F ระดับ 1.70 เท่า คิดเป็น -2SD


SCC: มองราคาหุ้นได้รับผลบวกจากแนวโน้มกำไร 2Q68 ที่จะฟื้นตัว QoQ เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวจากส่วนต่าง Chemical Spreads ที่ดีขึ้นอย่างมีนัยยะ และปริมาณขายเพิ่มขึ้น QoQ และ มีการเปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชีของ CAP มาเป็นการรับรู้แบบเงินปันผล ทำให้ SCC ไม่ต้องรับรู้ขาดทุนจาก CAP มองว่าราคาหุ้นยัง "ถูก" ที่ P/BV เพียง 0.4 เท่า และ P/E ปี 2568 เพียง 18.8 เท่า

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

บิ๊กแคป ป๋าดัน By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หุ้นไทยวันศุกร์ มีความสดใส ตามเซนติเมนต์หุ้นนอก ผสานหุ้นใหญ่บิ๊กแคป ....

เลือกตัวเล่น By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ นักลงทุน คงเลือกตัวเล่น ตัวหุ้นที่จะเข้าไปเก็งกำไร ตลาดหุ้นรอบนี้ ต้องกล้าเสี่ยง....

มัลติมีเดีย

CRD ครึ่งปีหลัง68 เร่งเครื่องสร้างผลงาน ชูBacklog กว่า700 ลบ. #งานmaiforum2025

CRD ครึ่งปีหลัง68 เร่งเครื่องสร้างผลงาน ชูBacklog กว่า700 ลบ. #งานmaiforum2025

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้