Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

110

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 9 ก.ค.68 ปิด -5.25 จุด อยู่ที่ 1,110.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 27,165 ลบ. ต่างชาติซื้อ 6 ลบ. รายย่อยซื้อ 1,026 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 601 ลบ. และสถาบันขาย 431 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 1,243 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น ADVANC,WHA,BTS,KBANK,RCL และยอดขายหุ้น CPALL,KTC,CPN,HAANA,SAWAD มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,071 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ NVDA01,GOOGL01,FUEVFVND01 โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 545 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 107,533 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,451 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.43%, S&P500 +0.27%, Nasdaq +0.09% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Nvidia +0.75%, สายการบิน Delta Airlines +12% ส่วนข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 5,000 ราย อยู่ที่ 227,000 ต่ำกว่าคาด 235,000 ราย ต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.54% ได้แรงหนุนจากกลุ่มยานยนต์ +2%, เหมืองแร่ +3.2% และบริการสุขภาพ +1.8%                  
  • Market View
  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ S&P500, Nasdaq ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจาก Market Cap.ของ Nvidia สูงกว่า 4 ลล.ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก ได้ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ของชิป Ai กอปรกับรายงาน Fed Minutes มิ.ย. คณะกรรมการส่วนใหญ่หนุนให้ลดดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบจาก ม.ภาษีของทรัมป์ไม่มาก และเป็นปัจจัยชั่วคราว โดย CME Fed Watch ชี้มีโอกาส 63.9% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ใน ก.ย. ส่วน ม.ภาษีของทรัมป์นั้นได้ส่ง จม.เรียกเก็บภาษีอีก 8 ประเทศ และเก็บภาษีบราซิลในอัตรา 50% รวมถึงภาษีนำเข้าทองแดงในอัตรา 50% โดยจะมีผลในวันที่ 1 ส.ค. ขณะที่ประเทศคู่ค้าอื่น ๆ ปธน.ทรัมป์ตั้งเป้าหมายจะเก็บภาษีในอัตรา 15 – 20% โดยจะส่ง จม.แจ้งอัตราภาษีให้กับอียู & แคนาดาภายใน 1 – 2 วันนี้
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ +0.54% ได้แรงหนุนจากกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ +2% นำโดย BMW +4.2% จากคาดการณ์กำไร Q2/68 อยู่ในแนวโน้มบวก และ EU พยายามออก ม.เพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมยานยนต์ของยุโรป ส่วนกลุ่มเหมืองแร่ +3.2% โดยนักลงทุนรอผลการเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ และการเริ่มรายงานกำไร บจ.ในสัปดาห์ เช่น ASML ผุ้ผลิตอุปกรณ์ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม GDP อังกฤษ พ.ค.คาด 0.7% & เม.ย. 0.9% YoY , CPI ฝรั่งเศส มิ.ย. คาด 0.9% & พ.ค. 0.7% YoY
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ -0.44% จากแรงขายกลุ่มยานยนต์, อิเล็กทรอนิกส์ หลังค่าเงินเยนแข็งค่า และรอผลการเจรจาการค้ากับสหรัฐที่อาจถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 25% ในวันที่ 1 ส.ค. ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้วานนี้ +0.48% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยทางการจีนเตือนสหรัฐไม่ให้ก่อสงครามการค้า ด้วยการปรับขึ้นภาษีสินค้าจีนในเดือนหน้า รวมถึงจะตอบโต้ประเทศใดก็ตามที่ทำข้อตกลงกับสหรัฐ เพื่อตัดห่วงโซ่อุปทานของจีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวันเสาร์ติดตามตัวเลขส่งออก – นำเข้าจีน มิ.ย.
  • วันพุธ SET ปิด -0.47% ปริมาณการซื้อขาย 7 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 6 ลบ. รายย่อยซื้อ 1,026 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 601 ลบ. และสถาบันขาย 431 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ, บรรจุภัณฑ์ และพลังงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่พึ่งพาอุปสงค์จากต่างประเทศ หลังสหรัฐเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าไทยในอัตรา 36% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าประเทศคู่แข่งในอาเซียน เช่น เวียดนาม, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งอาจส่งผลให้ศักยภาพการแข่งขันของสินค้าลดลง โดยทาง ธปท. คาดการณ์ GDP ไทยใน 2H/68 จะขยายตัวเพียง 1.6% YoY จาก ม.ภาษีของสหรัฐ และส่งผลให้ GDP ไทยในช่วง 1 ปีครึ่งข้างหน้ามีโอกาสขยายตัวต่ำกว่าระดับ 2% โดยการส่งออกไทยในช่วง 2H/68 คาดหดตัว -4% YoY และปีหน้าคาดส่งออกไทย -2% YoY โดยทีมเจรจาของไทยมีเวลาจนถึงวันที่ 1 ส.ค. เพื่อนำข้อเสนอใหม่ให้สหรัฐพิจารณา จากปัจจัยลบดังกล่าวนักลงทุนจึงเลือก Wait & See โดยสัปดาห์หน้าจะเข้าสู่ช่วงการรายงานงบ Q2/68 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจากข้อมูล Bloomberg Consensus คาดกำไร Q2/68 -10% QoQ, -3.9% YoY เป็นผลจากคาดการณ์สินเชื่อ & NIM มีแนวโน้มหดตัว  

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,095 – 1,100 แนวต้าน 1,115 – 120 โดยดัชนียังถูกกดดันระหว่างรอผลการเจรจาของไทย เพื่อลดอัตราภาษีจากระดับ 36% ให้ใกล้เคียงประเทศคู่แข่งในอาเซียน แนะนำพักเงินในกลุ่มปลอดภัย & ปันผลสูง เช่น ADVANC,CPALL,GULF,CKP,DIF,3BBIF,TISCO / เก็งกำไรกลุ่มเดินเรือ PSL, PRM.
  • SCC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 170.00 บาท) แนวโน้ม 2Q68 คาดผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นต่อจากปรับขึ้นราคาขายด้วยการลดส่วนลดทางการตลาดและได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานที่ลดลง ขณะที่อัตรากำไรของธุรกิจปิโตรเคมีดีขึ้นจากต้นทุน naphtha ที่ลดลงตามราคาน้ำมัน รวมถึง SCGP ที่ทยอยฟื้นตัว มีการบันทึกรายได้เงินปันผลตามฤดูกาล และกำไรพิเศษจากการเข้าซื้อกิจการในสิงคโปร์ นอกจากนี้มีประเด็นบวกจาก SCGC ขายหุ้น CAP 10% ส่งผลให้เปลี่ยนสถานะจากบริษัทร่วม เป็นเงินลงทุนระยะยาว ซึ่งทำให้มีกำไรพิเศษจากการประเมินมูลค่ายุติธรรม และกำไรจากการขายหุ้นเข้ามาอีก สอดคล้องกับแผนลดภาระทางการเงินของบริษัท ไม่ต้องรับส่วนแบ่งขาดทุนจาก CAP เข้ามาในงบ/รอรับเงินปันผลแทน และได้เงินสดกลับมาเสริมสภาพคล่อง ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 8 พันล้านบาท +26%YoY และ 2 หมื่นล้านบาท +52%YoY

MOSHI* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 52.30 บาท) กำไรสุทธิ 1Q68 อยู่ที่ 156 ลบ. (+24%YoY, -24%QoQ) อ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ YoY ยังเป็นบวกได้ดี มีแรงหนุนจาก SSSG +7.9% และจำนวนสาขาสูงขึ้น(1Q68 เปิดเพิ่ม 6 สาขา/ เป็น Standalone Pilot แบบ Big Size 1สาขา) ส่วน 2Q68 ยังดูเป็นภาพที่ดี YoY จากฐานต่ำปีก่อน สินค้าเด่นใหม่ๆ เช่น Moshi Moshi x aespa ที่เป็นสินค้า K-Pop โดยทาง MOSHI* เองวางเป้ารายได้ปี68 เติบโต 15-20%/ เป้า SSSG บวก 3-5%/ วางแผนเปิดสาขาใหม่ 40 สาขา ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรสุทธิของ MOSHI* ปี68 และ69 จะอยู่ที่ 644 ลบ. (+24%YoY) และ 751 ลบ.(+17%YoY)

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ส.ค.-$1.81 อยู่ที่ $66.57 / บาร์เรล, Brent ก.ย. -$1.55 อยู่ที่ $68.64/บาร์เรล หลัง ปธน.ทรัมป์ประกาศจะเก็บภาษีศุลกากรบราซิลในอัตรา 50% ส่งผลให้ ปธน.ลูลาของบราซิลอาจพิจารณาใช้ ม.ตอบโต้กลับสหรัฐ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจเป็นผลลบต่ออุปสงค์น้ำมัน

 

Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$4.70 อยู่ที่ $3,325.70 /ออนซ์ ได้แรงหนุนหลัง ปธน.ทรัมป์ได้ส่ง จม. ปรับขึ้นภาษีกับอีก 8 ประเทศ และขึ้นภาษีนำเข้าทองแดงในอัตรา 50% ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -34.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ขายหุ้นอินโดฯ -24.25 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -10.27 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 32.57 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นตัวอยู่ที่ 4.344 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +42 จุด อยู่ที่ 1,465

(+) BitCoin เช้านี้ +4.28% อยู่ที่ 115,702 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

07 ก.ค.     กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า

                ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์

09 ก.ค.     รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ     

สัปดาห์ที2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน 

                ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่น

หอการค้าไทย

 

 

ต่างประเทศ

09 ก.ค.     CN ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (มิ.ย.) 

                CN ดัชนีผู้ผลิต (PPI) (มิ.ย.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

10 ก.ค.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง,  และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้  

 

(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*

 

(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT

 

(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC

 

(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*

 

(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: MONO*, PR9*, IVL*,PTTGC*,GULF*

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

บิ๊กแคป ป๋าดัน By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หุ้นไทยวันศุกร์ มีความสดใส ตามเซนติเมนต์หุ้นนอก ผสานหุ้นใหญ่บิ๊กแคป ....

เลือกตัวเล่น By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ นักลงทุน คงเลือกตัวเล่น ตัวหุ้นที่จะเข้าไปเก็งกำไร ตลาดหุ้นรอบนี้ ต้องกล้าเสี่ยง....

มัลติมีเดีย

CRD ครึ่งปีหลัง68 เร่งเครื่องสร้างผลงาน ชูBacklog กว่า700 ลบ. #งานmaiforum2025

CRD ครึ่งปีหลัง68 เร่งเครื่องสร้างผลงาน ชูBacklog กว่า700 ลบ. #งานmaiforum2025

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้