สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(9 กรกฎาคม 2568)-------- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดินหน้าสานพลังความร่วมมือกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย    เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง มุ่งเสริมสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด สนับสนุนและยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้มีความเข้มแข็งในทุกมิติเพื่อ       การเติบโตในระยะยาว พร้อมสนับสนุนการทำงานร่วมกันในเชิงรุกรับมือกับความท้าทายของทิศทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น พร้อมทั้งร่วมแสดงความยินดีกับ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คนที่ 26

           นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ (วันที่ 9 กรกฎาคม 2568) ได้นำทีมผู้บริหารกรมฯ และเจ้าหน้าที่เข้าพบ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ เพื่อแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นหน่วยงานที่เป็นพันธมิตรสำคัญของกรมฯ โดยได้ใช้โอกาสนี้หารือถึงแนวทางพัฒนาความร่วมมือระหว่างกัน รวมทั้งการขับเคลื่อนความร่วมมือในการพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้มีศักยภาพ รองรับความท้าทายทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นพันธมิตรที่ร่วมผลักดันการพัฒนาผู้ประกอบการไทยมาโดยตลอด ความร่วมมือที่ผ่านมาได้ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมในหลายมิติ ทั้งด้านการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ การส่งเสริมองค์ความรู้ และการเชื่อมโยงเครือข่ายการค้า โดยกรมฯ พร้อมเดินหน้าสานต่อความร่วมมือเพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน

           การสานพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน จะเป็นกุญแจสำคัญในการส่งเสริมสมาคมการค้าและพัฒนาผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะธุรกิจ SME ให้สามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างมั่นคงในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการเสริมสร้างเศรษฐกิจไทยที่เข้มแข็งและยั่งยืน โดยทั้งสองหน่วยงานจะยังคงเดินหน้าส่งเสริมและพัฒนาสมาคมการค้าและผู้ประกอบการ ผ่านการเสริมสร้างองค์ความรู้ที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ การเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ และการเพิ่มโอกาสทางการตลาดในระดับประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึง การร่วมกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของทั้งสองหน่วยงานให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมเกิดประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลสูงสุด

           อธิบดีอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งสองหน่วยงานได้ย้ำถึงความสำคัญของความสะดวกและคล่องตัวในการประกอบธุรกิจ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มุ่งยกระดับการทำงานสู่การเป็น 'องค์กรดิจิทัล' อย่างเต็มรูปแบบ โดยได้พัฒนาระบบดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกภาคธุรกิจผ่านการขับเคลื่อน Ease of Doing Business ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันกรมฯ ได้ให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์กับหน่วยงานภาครัฐแล้วรวม 176 หน่วยงาน โดยได้ร่วมกับหอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และหน่วยงานภาครัฐอีก 22 หน่วยงาน ประกาศความสำเร็จในการเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคล (Web Services) ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะไม่เรียกเอกสารนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจากประชาชน ทำให้ประชาชนหรือผู้ติดต่อราชการกับหน่วยงานดังกล่าวมีความสะดวกมากขึ้น ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ลดความซ้ำซ้อน ส่วนหน่วยงานก็สามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลของกรมฯ ได้อย่างรวดเร็ว ทันที และมีความมั่นคงปลอดภัย

           กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะยังคงมุ่งพัฒนาระบบดิจิทัลและแพลตฟอร์มการให้บริการอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล (DBD Biz Regist) ระบบรับรองเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Service) ระบบจดทะเบียนสมาคมการค้าและหอการค้าอิเล็กทรอนิกส์ (eTACC) และระบบติดตามกำกับดูแลนิติบุคคล (IBAS) เพื่อให้ระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการประชาชนมีความคล่องตัว สามารถตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจได้อย่างรอบด้าน

           นอกจากนี้ กรมฯ กับ หอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จะยังคงเดินหน้าจับมือกันส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ SME ไทย ผ่านการจัดกิจกรรมพัฒนาองค์ความรู้ด้านต่างๆ อาทิ ด้านบริหารจัดการธุรกิจ ด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ การประกวดสมาคมการค้าดีเด่น เป็นต้น เพื่อร่วมกันสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจไทยให้สามารถยืนหยัดรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นพันธกิจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน" อธิบดีอรมน กล่าวย้ำในตอนท้าย