คาด SET Index ปรับตัวลง: แรงกดดันจากความกังวลภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ หลังไทยยังไม่สามารถบรรลุดีลการค้า กอปรกับสหรัฐฯจะเริ่มร่อนอัตราภาษีวันนี้อีกทั้งสหรัฐฯยังจ่อ จำกัดการส่งออกชิป AI มาไทย นอกจากนี้ ยังต้องติดตามพัฒนาการของการเมืองและโครงการภาครัฐของไทย

แนวรับ-ต้าน
1,100 –1,120

กลยุทธ์การลงทุน
1) เก็งงบ 2Q68:ADVANC, AP,BBL, BCH, KBANK,KKP, KTB, LH, MAJOR, PR9, SC, SPALI
2) เที่ยวไทยคนละครึ่ง: CENTEL, ERW, MINT, PTG
3) Anti-comm.: AAV, BA, SCGP, TASCO, TOA
4) Selective: M, NSL, TRUE

พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก
ไทยเจรจาสหรัฐฯไม่จบ+สหรัฐฯเตรียมร่อนจดหมาย: คาดSentimentเชิงลบมาจากประเด็นภาษีศุลากรสหรัฐฯ หลังคุณพิชัย รองนายกฯและรมว.คลังเผยการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯยังไม่ได้ข้อสรปุ โดยไทยได้รับการฟีดแบ็กสำคัญซึ่งจะนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอใหม่เพิ่มเติม ภาพข้างต้นส่งผลให้นักลงทุนมีแนวโน้มลดสถานะเสี่ยงท่ามกลางความกังวลว่าไทยอาจต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรตอบโต้จากสหรัฐฯในอัตรา 36% หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าได้ภายในระยะเวลาผ่อนผัน นอกจากนี้ ยังต้องติดตามพัฒนาการของภาษีศุลกากรสหรัฐฯเพิ่มเติมหลัง1)ปธน.ทรัมป์เผยว่าได้ลงนามในจดหมายถึง 12 ประเทศโดยมีเนื้อหาระบุระดับภาษีต่างๆที่ประเทศเหล่านัน้ จะต้องเผชิญสำหรับสินค้าที่ส่งออกมายังสหรัฐฯ ซึ่งข้อเสนอในจดหมายจะเป็นแบบรับหรือไม่รับก็ได้ โดยจะมีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการในวันนี้ และ2) คุณเบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐฯ เผยว่าจดหมายภาษีศุลกากรจะถูกส่งไปยังประเทศต่างๆประมาณ 100 ประเทศในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเนื่องจากการผ่อนปรนภาษีศุลกากร 90 วันจะสิ้นสุดลงในวันที่ 9ก.ค.68 และเขายังระบุอีกว่า “หากคุณไม่ดำเนินการใดๆในวันที่ 1ส.ค.68 คุณก็จะกลับไปได้ภาษีศุลกากรระดับสูงของวันที่ 2 เม.ย.68”

สหรัฐฯจ่อจำกัดส่งออกชิป AIมาไทย:การรายงานของ Bloombergว่าสหรัฐฯกำลังวางแผนที่จะจ ากัดการส่งออกชิป AI จากบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯอย่าง Nvidia ไปยังมาเลเซียและไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้ชิปเหล่านี้ถูกลักลอบนำเข้าไปยังจีน คาดเป็น Sentimentทางลบต่ออุตฯที่ต้องใช้ชิปและ Supply chain ที่เกี่ยวเนื่อง อีกทั้งยังมีแนวโน้มเป็นปัจจัยที่สร้างความกังวลว่าสหรัฐฯอาจมองว่าไทยมีความใกล้ชิดกับจีนมากและเป็นแหล่ง Transshipment ของสินค้าจากจีน

ติดตามพัฒนาการของการเมืองและ CPI ไทย: การเมืองไทยยังต้องติดตาม ทั้งในแง่เสถียรภาพรัฐบาล รวมถึงโครงการภาครัฐต่างๆ โดยวันนี้ติดตามการประชุมวิปรัฐบาลพิจารณาการเลื่อนหรือถอดถอนร่างกฎหมาย Entertainment complex ออกจากการพิจารณาในสภา ซึ่งมีวาระในวันที่ 9 ก.ค.68 ขณะที่ด้านตัวเลขเศรษฐกิจไทยวันนี้ติดตาม CPIเดือนมิ.ย.68 ตลาดคาด Headline และ Core ที่ -0.10% y-y และ+1.10%y-yจากเดือนพ.ค.68 ที่ -0.57% y-y และ +1.09% y-y ตามลำดับ

ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)ก.คลังรายงานความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยธนาคารออมสินและธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อแล้ว 82,815ราย ยอดอนุมัติรวมกว่า 2,514 ล้านบาท พร้อมรายงานผลปล่อยสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์แล้วกว่า 5 หมื่นล้านบาท

(-) ส.อ.ท.เผยความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ของนักลงทุนทั้ง ในและต่างประเทศ โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ระหว่างรอการอนุมัติหรือรอการเริ่มก่อสร้าง ซึ่งหลายรายอาจชะลอออกไปอย่างไม่มีกำหนด หากสถานการณ์ภายในยังไม่นิ่ง

(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI (Spot) เช้านี้ (7.00 น.) ปรับตัวลงประมาณ 1% หลังOPEC+ มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ามัน 548,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค.68 ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. มิ.ย. และก.ค.68 ซึ่งมีมติปรับเพิ่มในอัตราเท่ากันที่ระดับ 411,000 บาร์เรล/วัน

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์