Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

87

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 4 ก.ค.68 ปิด -27 จุด อยู่ที่ 1,119.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 27,794 ลบ. ต่างชาติขาย 2,338 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 146 ลบ. สถาบันซื้อ 1,141 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,342 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 2,571 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น CPF,ITC,WHA,JMT,COM7 และยอดขายหุ้น TRUE,GULF,KTC,CPALL,AOT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,091 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HSHD23,HKCE01,JAPAN10001 โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 4,089 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 113,863 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,477 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันศุกร์ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ หลัง ปธน.ทรัมป์ได้ลงนาม กม.ปฏิรูปภาษีเงินได้บุคคล & นิติบุคคล และเพิ่มงบประมาณรายได้ครั้งใหญ่ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.48% จากแรงชายกลุ่มธนาคาร -3%, เหมืองแร่ -1.4% ขณะที่กลุ่บริการสุขภาพ +1.1% โดยยังรอผลการเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ                 
  • Market View
  • DJIA +2.3%, S&P500+1.72%, Nasdaq +1.62% WoW นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี Nvidia ส่งผลให้ Market Cap เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 89 ลล.ดอลลาร์ หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ มิ.ย. เพิ่มขึ้น 147,000 & พ.ค.144,000  ดีกว่าคาดที่ 111,000 ตำแหน่ง, อัตราว่างงาน มิ.ย. ลดลงอยู่ที่ 4.1% & คาด 4.3% บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐยังแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม ก.ย. เพื่อลดผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ ส่วนข้อตกลงการค้านั้น สหรัฐพึ่งจะสามารถทำข้อตกลงการค้ากับอังกฤษ, จีน และเวียดนาม โดย ปธน.ทรัมป์เผยจะส่ง จม. แจ้งอัตราภาษีไปยัง 12 ประเทศในวันที่ 7 ก.ค. ส่วนประเทศที่เหลือจะแจ้งอัตราภาษีในวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งบางประเทศอาจถูกเก็บสูงถึง 70% โดยวันศุกร์ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ได้ลงนาม กม. ปฏิรูปภาษีเงินได้บุคคล & นิติบุคคล และเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม, ด้านความมั่งคงตามพรมแดน สัปดาห์นี้ติดตาม Fed Minutes มิ.ย. เพื่อประเมินมุมมองการลดดอกเบี้ยของเฟด
  • Stoxx600 ยุโรป -0.46% WoW จากแรงชายกลุ่มอสังหาฯ , โฆษณา หลังข้อมูล CPI ยูโรโซน มิ.ย. ทรงตัวอยู่ที่ 0% YoY โดย ปธ.ECB ส่งสัญญาณชะลอการลดดอกเบี้ย หลังได้ปรับลดดอกเบี้ยลง 7 ครั้ง อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคาด ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ ส่วนประเด็นที่ต้องติดตาม คือ ผลการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – สหภาพยุโรป ก่อนจะถึงเส้นตายในวันที่ 9 ก.ค.
  • MSCI Asia Pacific X Japan -0.18% WoW โดยดัชนีภูมิภาคส่วนใหญ่ทรงตัว ระหว่างรอผลการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าหลัก ๆ ในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อินเดีย หลังสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม โดยสหรัฐจะเก็บภาษีสินค้าเวียดนามในอัตรา 20% แลกกับเวียดนามจะไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ และเก็บภาษีที่ 40% สำหรับสินค้าประเทศอื่นที่ส่งผ่านทางเวียดนาม ( Transshipping )
  • SET +3.47% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 7 หมื่น ลบ. -18.4% WoW สถาบันซื้อ 3,741 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 156 ลบ. ต่างชาติขาย 3,741 และรายย่อยขาย 1,384 ลบ. WoW หลัง ศาล รธน.มีมติสั่งให้นายก ฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ในกรณีคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน ซึ่งช่วยลดแรงกดดันจากกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงนายก ฯ ระหว่างรอคำวินิจฉัยจากศาล และ ครม.ชุดใหม่ยังสามารถทำงานเพื่อผ่านร่างงบประมาณรายจ่ายปี 69 วาระ 2 – 3 ในช่วงกลาง ส.ค. โดย Sector ที่ช่วยหนุนดัชนี คือ อิเล็ก ฯ +13.9% WoW ที่ปรับขึ้นตาม Nasdaq จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นผลบวกต่อมูลค่าหุ้นกลุ่ม Growth ส่วนกลุ่มอสังหา ฯ +6.2% WoW หลังมูลค่าทางปัจจัยพื้นฐานอยู่ในโซนต่ำ กอปรอัตราเงินปันผลของหุ้นบางตัว เช่น LH, AP, SPALI, SIRI อยู่ในระดับสูง ขณะที่กลุ่มขนส่ง & ท่องเที่ยวได้ปัจจัยหนุนจาก ม.เที่ยวไทยคนละครึ่ง โดยภาพรวม
  • SET เทรดที่ F/PE 13 เท่า และมี Earning Yield Gap สูงกว่าระดับ 6% ถือว่าอยู่ในโซนน่าสนใจลงทุน ส่วนประเด็นที่ต้องติดตาม คือ ผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – ไทย ว่าไทยจะถูกสหรัฐเก็บภาษีสินค้านำเข้าในอัตราเท่าไร เมื่อเที่ยบกับประเทศคู่แข่งในเอเชีย เช่น เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย      

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET ผันผวนมีโอกาสย่อตัวจากการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯที่ยังไม่สำเร็จ ประเมินถ้าระดับภาษีออกมาที่ 18-25% SET น่าจะพอรับได้ ประเมินแนวรับ 1,100-1,000 แนวต้าน 1,130-1,140 แต่ถ้าหากออกมาสูงกว่านั้นดัชนีก็มีโอกาสกลับไปทดสอบที่ Low เดิมแถว 1,050 ดังนั้นเลือกลงทุนในกลุ่ม defensive BCH, BDMS, GULF*, ADVANC, BCPG*, ERW*, CPN*
  • III (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 00 บาท) แนวโน้ม 2Q68 คาดกำไรปกติมีโอกาสฟื้นตัว QoQ, YoY ตามปริมาณขนส่งสินค้าที่กลับสู่ระดับปกติหลังผ่านตรุษจีน ประกอบกับค่าระวางการขนส่งที่ทยอยฟื้นตัวรับผลบวกจากการชะลอการบังคับใช้ภาษีศุลกากรตอบโต้ออกไป 90 วัน อาจทำให้มีการเร่งส่งออกมากขึ้น ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจาก ANI และ AOTGA ยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน โดยธุรกิจบริการภาคพื้นของ AOTGA ได้เปิดให้บริการคลังสินค้าแบบ Multimodal Warehouse ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมถึงมีโอกาสเติบโตได้อีกจากการประมูลผู้ให้บริการภาคพื้นดินของสนามบินสุวรรณภูมิรายที่ 3 ที่จะประกาศผลใน 3Q68 โดยเราคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 68-69 ที่ 487 ล้านบาท +10%YoY และ 563 ล้านบาท +16%YoY

TMAN* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 22.00 บาท) กำไรสุทธิ 1Q68 ออกมาอยู่ที่ 122 ลบ.(-13%YoY, +12%QoQ) การอ่อนตัว YoY มาจาก Produxt Mix ที่เปลี่ยนไป(สัดส่วนยาสูงขึ้น) และแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาด อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงที่เหลือของปี การเติบโตของรายได้จะสามารถชดเชยปัจจัยลบดังกล่าวในไตรมาส1 ได้ โดย ทาง TMAN* เอง ตั้งเป้าหมายในระยะ 5 ปีข้างหน้า(68-72) รายได้เติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10-15% ต่อปี และตั้งเป้าเป็น Top 5 ในตลาด OTC (Over-The-Counter) และ Top 10 ในตลาดร.พ. ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรสุทธิ TMAN* ปี67 และ68 ที่ 491 ลบ.(+9%YoY) และ 544 ลบ.(+11%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ส.ค.+1.50%WoW อยู่ที่ $66.50 / บาร์เรล, Brent ก.ย. +2.25%WoW อยู่ที่ $68.30/บาร์เรล ประคองตัวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างรอผลการประชุม OPEC+ อย่างไรก็ตาม การประชุมในช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลุ่ม OPEC+ มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 548,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค. ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 411,000 บาร์เรล/วัน ส่งผลให้เช้านี้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง

 

Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+1.77%WoW อยู่ที่ $3,331.60 /ออนซ์ เคลื่อนไหวผกผันกับการอ่อนตัวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดหลังตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ -238.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -115.5 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -171.6 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +48.7 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(+) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 32.33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.3438 %

(-) ดัชนี BDI ศุกร์ที่ผ่านมา -2.0 จุด อยู่ที่ 1,436

(-) BitCoin เช้านี้ -0.23% อยู่ที่ 108,992 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

07 ก.ค.     กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า

                ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์

09 ก.ค.     รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ     

สัปดาห์ที2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน 

                ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่น

หอการค้าไทย

 

 

ต่างประเทศ

09 ก.ค.     CN ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (มิ.ย.) 

                CN ดัชนีผู้ผลิต (PPI) (มิ.ย.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

10 ก.ค.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง,  และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้  

 

(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*

 

(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT

 

(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC

 

(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*

 

(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: MONO*, PR9*, IVL*,PTTGC*,GULF*

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้