Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาดSET วันนี้แกว่งตัวผันผวนทางลง ระบุ ระดับอัตราภาษีจะเป็นตัวชี้นำตลาด หุ้นเด่น ADVANC-CPALL

93

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 7 กรกฎาคม 2568 )----- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 คาดตลาดแกว่งตัวผันผวนทางลง รอการประกาศอัตราภาษีสหรัฐฯ ติดตามว่าไทยจะอยู่ใน 12 ประเทศที่ได้รับจดหมายหรือไม่ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามแล้วและรอประกาศวันนี้ รวมถึงเส้นตายระยะผ่อนผัน 9 ก.ค. นี้ ระยะสั้นตลาดติดที่แนวต้าน 1128 ยืนเหนือไม่ได้ ยังคงมีแนวต้านที่ 1128/1135 ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1110/1100 หลุดต่ำกว่าจะกลับมาลงรอบใหม่


ประเด็นสำคัญ
• ปธน. ทรัมป์เผยว่าได้ลงนามในจดหมายเพื่อส่งแก่ 12 ประเทศถึงอัตราภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ จะกำหนดต่อประเทศคู่ค้านั้นๆ ซึ่งอาจอยู่ในระดับต่ำราว 10-20% หรือสูงถึง 60-70% และจะได้รับในวันนี้ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายชื่อ 12 ประเทศดังกล่าว ด้าน รมว. คลัง ปฏิเสธกระแสข่าวว่าไทยจะถูกจัดเก็บภาษีในอัตรา 18-36% โดยเผยว่าการเจรจากับ USTR เมื่อสัปดาห์ก่อนยังไม่ได้ข้อสรุป และเรียกประชุมทุกฝ่ายเร่งทำข้อเสนอสุดท้ายเสนอต่อสหรัฐฯ ก่อนเส้นตายวันที่ 9 ก.ค.
• สหรัฐฯ เตรียมออกกฎเพื่อควบคุมการส่งออกชิป AI สู่ไทยและมาเลเซียเพื่อสกัดการลักลอบส่งชิปต่อไปยังจีน จากช่วงก่อนที่สหรัฐฯ ได้สั่งห้ามขายชิปขั้นสูงแก่จีนโดยตรง เราคาดว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ไทยและโรงไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ
• OPEC+ มีมติเร่งการเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบใน ส.ค. ที่ +5.48 แสนบาร์เรล/วัน เป็นเดือนที่ 5 ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มได้เพิ่มแล้วรวม 1.918 ล้านบาร์เรล/วัน จากเป้าหมายที่จะเพิ่มคืนจากการลดกำลังการผลิตช่วงก่อนที่ 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน มองเป็น Sentiment เชิงลบระยะสั้นต่อราคาน้ำมัน
• กสทช. มีมติ 5 เสียงรับรองผลการประมูลคลื่น 850, 1500, 2100 และ 2300MHz เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา และยังอยู่ภายใต้กรอบระยะเวลา 7 วันหลังการประมูลสิ้นสุด จากที่ถูกเลื่อนจากวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากต้องพิจารณาเอกสารจากที่ปรึกษาต่างประเทศ
• กรมธุรกิจพลังงานเผยกัมพูชางดการนำเข้าน้ำมันจากไทยมีผลกระทบจำกัด เนื่องจากมีการส่งออกรวม 6 ล้านลิตรต่อวัน เทียบกับการบริโภคในประเทศที่ 130 ล้านลิตร/วัน ขณะที่ยังไม่ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการในกัมพูชา โดยเฉพาะ OR


กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวน โดยแม้มองปัจจัยการเมืองในประเทศจะยังไม่มีแรงกดดันเพิ่มในช่วงสั้น เพราะยังต้องรอผลการตัดสินขั้นสุดท้ายของศาลรัฐธรรมนูญหลังจากที่มีมติให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ตลาดน่าจะให้น้ำหนักกับปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนของมาตรการภาษีศุลกากรซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีไปยังประเทศต่างๆ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 4 ก.ค. และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. สำหรับประเทศที่ยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ซึ่งรวมทั้งไทยด้วย อย่างไรก็ดีเราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว โดยกลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”


แนวรับ-ต้าน
1110/1100– 1128/1135

 

ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET แกว่งตัวผันผวน เนื่องจากกังวลความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการแจ้งอัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ สำหรับประเทศที่ยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC
2. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำและผลการดำเนินงานต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ (ผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายในและภายนอก) อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BCH DIF
3. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
4. Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Undervalue (PER PBV < -1SD) และเราแนะนำ Outperform อีกทั้งคาดให้ Div. Yield ไม่ต่ำกว่าปีละ 3% แนะนำ BBL BCPG BDMS CPALL DIF PTT SIRI TIDLOR 2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวไทย แนะนำ ERW CENTEL AAV และ 3) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วหากสงครามการค้ามีความชัดเจน แนะนำ WHA AMATA AOT MINT PTT TU

 

Daily top picks
ADVANC: มองเป็นหุ้น Defensive และช่วงสั้นราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากที่ประชุม กสทช. นัดพิเศษวานนี้มีมติรับรองผลการประมูลคลื่นความถี่ เราคงประเมินว่า ADVANC จะได้ประโยชน์จากการลดต้นทุนที่มีนัยสำคัญ โดยจะลดต้นทุนได้ราว 2.3 พันล้านบาทต่อปี และปี 2568 กำไรสุทธิคาดจะอยู่ที่ 40.7 พันล้านบาท เติบโต 16.9%YoY

CPALL: มองราคาหุ้นได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดจำกัด เราคาดกำไร 2Q68 จะเติบโต YoY และปี 2568 จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มที่ 19%YoY (กลุ่ม 5%YoY) และซื้อขาย PER 2568F ที่ 16 เท่า (กลุ่ม 17 เท่า) ส่วนการประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน (ไม่เกิน 1.67% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. - 14 พ.ย. 2568 จะช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้