3 ก.ค. 2568 12:27:34 124
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(3กรกฎาคม 2568)---------ASW โชว์ยอดพรีเซลครึ่งแรกปี 2568 รวม 12,957 ล้านบาท คิดเป็น 66% ของเป้ายอดขายทั้งปี คอนโดภูเก็ตกระแสตอบรับดี-วิลล่าหรูหาดในยาง Sold Out ใน 2 เดือน ด้านอสังหาฯ ครึ่งปีหลังยังต้องจับตามอง แต่มีแรงหนุนจากดอกเบี้ยลด-ผ่อนคลาย LTV-ลดค่าโอนจดจำนอง เผยพอร์ตบ้าน-คอนโดพร้อมอยู่ของ ASW กว่า 90% ใช้สิทธิมาตรการรัฐได้เต็มที่ จังหวะดีของคนพร้อมซื้อที่อยู่อาศัย โฟกัสบริหารจัดการสินค้าพร้อมอยู่ ลุยเปิดโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพ ย้ำตลาดภูเก็ตยังแกร่ง เตรียมปั้นโปรเจกต์รับดีมานด์ต่างชาติช่วงไฮซีซั่น มั่นใจยอดขายตามเป้า 19,500 ล้านบาท นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 เป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และปัจจัยกดดันจากต่างประเทศ ทั้งนโยบายภาษีทรัมป์ และสงครามการค้าสหรัฐ-จีน อย่างไรก็ตาม ASW ได้วางกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลหัวเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต ทำให้บริษัทสามารถสร้างผลงานเป็นที่น่าพึงพอใจ โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.-มิ.ย. 2568) บริษัทมียอดขายถึง 12,957 ล้านบาท เติบโตขึ้น 21% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคิดเป็น 66% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีซึ่งตั้งไว้ที่ 19,500 ล้านบาท ทั้งนี้ ช่วงครึ่งแรกปี 2568 บริษัทเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่า 10,700 ล้านบาท โดยโครงการที่ทำยอดขายโดดเด่น คือกลุ่ม Leisure Residences ในภูเก็ตที่พัฒนาโดยบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทย่อยในเครือ ได้แก่ โครงการเดอะ ไทเทิล วิลล่า เอสเตลลา ในยาง (THE TITLE Villa Estella Naiyang) ลักชัวรีวิลล่าที่ Sold Out 100% ปิดการขายได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 เดือน โครงการเดอะ คาตาเบลโล (THE KATABELLO) ลักชัวรีคอนโดมิเนียมบนทำเลกะตะทำยอดขายแล้ว 56% และโครงการอะดอร่า ราไวย์ (ADORA RAWAI) ลักชัวรีคอนโดมิเนียมใกล้หาดราไวย์มียอดจองแล้วกว่า 50% ส่วนโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลอย่างโครงการเคฟ เพลย์กราวด์ (Kave Playground) พรีแคมปัสคอนโดตรงข้าม รร.บดินทรเดชาฯ และโครงการแอทโมซ เดอ โซล (Atmoz De Sol) คอนโดมิเนียม Low-rise ใกล้สถานีทิพวัล ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าซื้ออยู่อาศัยเองและนักลงทุน นายกรมเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ สถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1.75% การผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ให้กู้ได้เต็ม 100% ในทุกราคาทุกสัญญา และการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองเหลืออย่างละ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 7 ล้านบาท จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2569 จึงเป็นโอกาสในการระบายสต๊อกโครงการพร้อมอยู่ (Ready to Move) ที่โอนกรรมสิทธิ์ได้ทันที และถือเป็นจังหวะดีของผู้ที่พร้อมซื้อที่อยู่อาศัยให้เป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 บริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 9,968 ล้านบาท โดยกว่า 90% ของมูลค่าโครงการพร้อมอยู่ทั้งหมด เป็นกลุ่มราคา 1-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มราคาที่ลูกค้าสามารถใช้สิทธิประโยชน์จากมาตรการรัฐได้เต็มที่ สำหรับการขับเคลื่อนยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 นั้น ASW ให้ความสำคัญกับ 2 ด้าน คือ 1.บริหารจัดการโครงการพร้อมอยู่ โดยจัดแคมเปญทางการตลาด ร่วมกับพันธมิตรทางการเงินให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น และบริการจัดหาผู้เช่าอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุน และ 2.เปิดโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพ ที่มีความต้องการซื้ออย่างชัดเจนจากกลุ่มซื้ออยู่เองและซื้อเพื่อลงทุน ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมถึงภูเก็ต อีกหนึ่ง World Destination ที่มีดีมานด์จากชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่มองหาพักอาศัยระยะยาว (Long-Stay) และท่องเที่ยวระยะสั้นที่จะเดินทางเข้าประเทศในช่วงไฮซีซั่นปลายปี ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายรวมของ ASW ให้เป็นไปตามเป้าหมาย 19,500 ล้านบาทตามแผนที่วางไว้ อีกไฮไลต์ในช่วงครึ่งปีหลังของ ASW คือโครงการที่สร้างเสร็จใหม่ เตรียมทยอยโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้เพิ่มอีก 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการ เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา (THE TITLE Legendary Bang - Tao) คอนโดมิเนียมตากอากาศ ใกล้หาดบางเทา อีกหนึ่งโครงการเรือธงของบริษัท มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันกวาดยอดขายไปแล้วกว่า 88% และเริ่มทยอยรับรู้รายได้บางส่วนเมื่อช่วงปลายไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการรับรู้เร็วกว่าแผนที่ตั้งไว้ 2. โครงการ มารูน รัชดา 32 (Maroon Ratchada 32) คอนโดมิเนียมใหม่บนที่ดินผืนสุดท้ายในย่านรัชดา 32 มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท และ 3. โครงการ เคฟ วันเดอร์แลนด์ (Kave Wonderland) แคมปัสคอนโดแห่งใหม่ตรงข้าม ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มูลค่าโครงการ 2,550 ล้านบาท สำหรับบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 80 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA), แบรนด์ ดิ อาเบอร์ (THE ARBOR), แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมถึงแบรนด์ภายใต้ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ “TITLE” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ รวมมูลค่าโครงการกว่า 132,704 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 24 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 22 โครงการ และ ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 30,636 ล้านบาท
: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์
แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วานนี้ เห็นพลังกองทุน ซื้อคนเดียว แบกของ วันนี้เชื่อว่า กองทุน กองหนุน คงทำหน้าที่ต่อเนื่อง..
รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68
Hooninside
สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้
ชื่อหรือรหัสของคุณไม่ถูกต้อง
Please, check your email format before submit.
Please, Enter you password.
Please, Enter minimum 3 character.
Please, Enter minimum 6 character.
กรุณากรอกอีเมล์ที่คุณใช้สมัครสมาชิกแล้วกดส่งเมล์