Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

101

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 2 ก.ค.68 ปิด +5.68 จุด อยู่ที่ 1,115.69 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,958 ลบ. สถาบันซื้อ 2,385 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 246 ลบ. ต่างชาติขาย 680 ลบ. และรายย่อยขาย 1,459 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 1,196 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น SCB,PTT,SCC,KBANK,PTTGC และยอดขายหุ้น DELTA,ADVANC,TRUE,GULF,PTTEP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,295 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HSHD23,JAPAN10001,OR โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 7,133 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 103,432 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 232 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.02%, S&P500 +0.47%, Nasdaq +0.94% ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน +1.7%,วัสดุ +1.3% ขณะที่กลุ่มบริการสุขภาพ -0.97%, สาธารณูปโภค -0.87% หลังสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.18% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าหรูหรา, เหมืองแร่, รถยนต์ และยังรอผลการเจรจาการค้ากับสหรัฐ                
  • Market View
  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้น หลังสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับเวียดนามได้สำเร็จ โดยเก็บภาษีศุลกากรที่ 20% & เดิมคาดไว้ที่ 46% และคาดจะสามารถบรรลุข้อการค้ากับอินเดียในเร็ว ๆ นี้ ส่วนร่าง กม.ปฏิรูปภาษีและเพิ่มรายจ่ายนันยังรอการผ่านพิจารณาของสภาผู้แทน ฯ สหรัฐ ก่อนจะส่งผลให้ ปธน.ทรัมป์ ซึ่ง ปธน.ทรัมป์ต้องการให้ผ่านร่าง กม.ดังกล่าวก่อนวันชาติสหรัฐ 4 ก.ค. ในส่วนข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ADP เผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ มิ.ย. ลดลง 39,000 สวนทางคาดจะเพิ่มขึ้น 100,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้เฟดมีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขจ้างงานอกภาคเกษตรสหรัฐ มิ.ย. คาด 120,000 & พ.ค.139,000 ราย , อัตราว่างงานสหรัฐ มิ.ย. คาดที่ 4.3% & พ.ค. 4.2%
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับ +0.18% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา เช่น LVMH, Monclear หลัง UBS ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “เท่ากับตลาด” และกลุ่มพลังงานหมุนเวียนได้ปัจจัยหนุนจากร่างงบประมาณของสหรัฐ ที่สนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานลม โดยนักลงทุนยังรอผลการเจราจาการค้าระหว่างสหรัฐกับอียู
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ดัชนีนิเกอิ -0.56% หลัง ปธน.ทรัมป์เสนอแนวคิดที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นที่ 30% หรือ 35% ซึ่งสูงกว่าอัตราภาษีตอบโต้เดิมที่ 24% หลังการเจราจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – ญี่ปุ่นยังยืดเยื้อ ส่วนดัขนีเซี่ยงไฮ้วานนี้ -0.09% จากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และยังรอการประชุมโปลิตบูโรในเดือนนี้ ซึ่งคาดจะมีการพิจารณาออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีน ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งวานนี้ +0.62% ได้แรงหนุนจากข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ กอปร รมว.คลังสหรํฐคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย.
  • SET วานนี้ +0.51% ปริมาณการซื้อขาย 49 หมื่น ลบ. สถาบันซื้อ 2,385 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 246 ลบ. ต่างชาติขาย 680 ลบ. และรายย่อยขาย 1,459 ลบ. โดยดัชนี SET ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี, บรรจุภัณฑ์, อิเล็กทรอนิกส์ที่คาดจะได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีน และแนวโน้มสงครามการค้าที่ลดลง ส่วนกลุ่มธนาคาร & ไฟแนท์ก็ปรับขึ้น หลัง ธปท.ออก ม.คุณสู้ เราช่วย ระยะ 2 ช่วยเหลือกลุ่มปราะบาง โดยขยายเวลาของผู้เข้าโครงการจนเดิมสิ้น มิ.ย. ต่อไปจนถึง ก.ย. 68 ซึ่งจะลดภาระหนี้เสียของกลุ่มสถาบันการเงิน และแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ขณะที่ปัจจัยการเมืองประเทศลดแรงกดดันลง และรอผลการเจรจาข้อตกลงการสหรัฐ – ไทยที่จะเริ่มขึ้นในช่วงค่ำวันนี้ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูง หลังข้อตกลงการค้าของเวียดนามยอมยกเว้นการเก็บภาษิสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 0% ดังนั้นการหารือระหว่างสหรัฐ – ไทยยังอาจจะไม่ได้ข้อสรุป      

Daily Strategy

  • วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,090 – 100 แนวต้าน 1,120 – 1,125 ซึงคาดดัชนีมีโอกาสทรงตัว รอผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – ไทยในช่วงค่ำวันนี้ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูง หากเทียบข้อตกลงการค้าสหรัฐ – เวียดนามที่เปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐในอัตราภาษี 0% แนะนำพักเงินในกลุ่มปลอดภัย & จ่ายเงินปันผลสูง เช่น SCB,TISCO,MC,TFG,DIF,3BBIF/ กลุ่มที่มีการลงทุนในเวียดนาม เช่น AMATA,WHA,SCC,SCGP
  • SGC* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Consensus N.A) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 1Q68 ที่ 71 ล้านบาท +20%QoQ, +294%YoY หนุนจากยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ประมาณ 78 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขยายพอร์ตสินเชื่อ Lock Phone ที่เติบโต +37%YoY ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยรับอยู่ที่ 575 ล้านบาท +36%YoY ด้านต้นทุนทางการเงินลดลงจากการจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืม แม้ยังมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นจาก NPL ของสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินเชื่อรถทำเงิน แนวโน้มกำไรช่วงที่เหลือยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากสินเชื่อ Lock Phone ที่มีผลตอบแทนที่สูงและ NPL ต่ำ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดสินเชื่อใหม่ปี 68 ที่ 8 พันล้านบาท และเป้าสินเชื่อรวม 1 หมื่นล้านบาท จากยอดสินเชื่อ Lock Phone สะสมที่เพิ่มเป็น 5-6 พันล้านบาท จากสิ้น 1Q68 ที่ 3.5 พันล้านบาท ปัจจุบันมีช่องทางการให้บริการผ่านหน้าร้านมือถือเกือบ 6 พันแห่ง การปล่อยสินเชื่อผ่าน digital platform SG FINANCE+ และกำลังทดลองให้สินเชื่อผ่าน 7-11 ซึ่งส่งผลบวกต่อกำไรในระยะถัดไป เบื้องต้นกำไรปี 68 น่าจะแตะ 400 ล้านบาท จากปีก่อนที่กำไร 163 ล้านบาท

SAPPE* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 35.00 บาท) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวและผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวน้ำหอม เราคาดยอดขาย 3Q68 ในยุโรปจะดีขึ้น จากคลื่นความร้อนที่คาดว่าจะมีส่วนช่วยให้การบริโภคน้ำผลไม้มากขึ้น ขณะที่ต้นทุนมะพร้าวน้ำหอมหน้าสวนและราคาน้ำตาลซึ่งเป็นต้นทุนหลักมีแนวโน้มลดลงซึ่งเป็นผลดีต่อ Gross Margin IAA consensus คาดกำไรปี 68 ที่ 986 ลบ. -21%YoY แต่ SAPPE ยังคงให้ปันผลดีมี dividend yield 7% และมีโครงการซื้อหุ้นคืน 5 ล้านหุ้น ระหว่าง 20 มิ.ย.-19 ธ.ค.68 อีกด้วย

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ส.ค.+$2.00 อยู่ที่ $67.45 / บาร์เรล, Brent ก.ย. +$2.0 อยู่ที่ $69.11/บาร์เรล หลังอิหร่านระงับความร่วมมือกับ IAEA ขณะที่สหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม ส่งผลบวกต่อแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน ส่วน EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 3.8 ล.บาร์เรล สวนทางคาดจะลดลง 3.5 ล.บาร์เรล

 

Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$9.90 อยู่ที่ $3,359.70 /ออนซ์ หลังตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ มิ.ย. ลดลง 33,000 ราย ลดลงครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม ก.ย.

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -92.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -21.01 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -75.77 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +4.58 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 32.33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.263 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -15 จุด อยู่ที่ 1,443

(+) BitCoin เช้านี้ +3.12% อยู่ที่ 109,031 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

30 มิ.ย.     ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค 

(ก.ค.)       

 

 

ต่างประเทศ

30 มิ.ย.     CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (มิ.ย.)

01 ก.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (มิ.ย.) 

US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ 

                US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS ( พ.ค.)

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มิ.ย.)

02 ก.ค.     US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(มิ.ย.)

03 ก.ค.     US วันชาติ - ปิดทำการก่อนกำหนด ณ เวลา 13:00

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US อัตราการว่างงาน (มิ.ย.)

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มิ.ย.)

US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (มิ.ย.)

US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.)

04 ก.ค.     US วันหยุด-วันชาติ

  

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง,  และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้  

 

(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*

 

(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT

 

(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC

 

(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*

 

(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: MONO*, PR9*, IVL*,PTTGC*,GULF*

 

 

 

 

 

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง,  และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้  

 

(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*

 

(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT

 

(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC

 

(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*

 

(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: MONO*, PR9*, IVL*,PTTGC*,GULF*

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

กองหนุน By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วานนี้ เห็นพลังกองทุน ซื้อคนเดียว แบกของ วันนี้เชื่อว่า กองทุน กองหนุน คงทำหน้าที่ต่อเนื่อง..

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้